20 สุดยอดผัก!! น้ำนมพุ่งปรี๊ดดด
#นมแม่ #เพิ่มน้ำนมแม่ ? สิ่งที่คุณแม่ให้นมหลายท่านมักกังวล ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง.....?? "น้ำนม" หรือ "กลัวมีน้ำนมไม่เพียงพอ" ยิ่งเจ้าตัวเล็กร้องกินนมอยู่ตลอดเวลา ?? คุณแม่ก็ยิ่งจิตตก ?? กลัวว่าน้ำนมที่เตรียมไว้จะไม่เพียงพอ น้ำนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วง 0-6 เดือน เป็นช่วงที่ควรกินนมแม่ นมแม่จะให้สารอาหารที่ครบถ้วน 20 ผักสุดยอด?เคล็ดลับน้ำนมพุ่งปรี๊ด
#หน่อไม้ฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่งมีทั้ง โปรตีน แร่ธาตุต่างๆ เช่น สังกะสี ทองแดง ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เซเลเนียม โฟลาซิน และกากใยมาก อุดมไปด้วยวิตามินหลากหลาย มีวิตามินซี วิตามินบี ทั้งบี 1 บี 2 บี 3 และบี 6 วิตามินเค วิตามินบี วิตามินเอ โฟเลต มีสารกลูตาไธโอน มีปริมาณเกลือต่ำมาก และไม่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอล มีสรรพคุณ ช่วยลดน้ำหนัก ปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการท้องอืด ช่วยบำรุงสุขภาพทางเดินปัสสาวะ แก้เมาค้าง บำรุงผิวพรรณ บำรุงครรภ์ บำรุงสมอง ช่วยให้อารมณ์ดี และเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก เมนูอาหารที่มีหน่อไม้ฝรั่งเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ หน่อไม้ฝรั่งผัหกุ้ง หน่อไม้ฝรั่งลวก ผัดหน่อไม้ฝรั่ง ผัดผักรวมมิตร เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม#ฟักทอง ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุแมงกานีส ธาตุเหล็ก ซิงค์ เป็นต้น ฟักทองมีคุณสรรพคุณ อาทิเช่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสายตา เหมาะกบผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก และเพิ่มน้ำนม เมนูอาหารที่ทำจากฟักทอง อาทิเช่น ผัดฟักทอง ไข่ตุ๋นฟักทอง ข้าวต้มฟักทอง ฟักทองผัดไข่ ฟักทองอบ ฟักทองนึง ซุปฟักทอง ส่วนของหวาน เช่นขนมฟักทอง ฟักทองเชื่อม และเมนูน้ำ ยังสามารถทำเป็นน้ำฟักทองได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม#แครอท แครอทอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญคือสาร “ฟอลคารินอล” (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง แครอท มีคุณสมบัติ บำรุงสุขภาพผิว บำรุงกระดูก ฟัน เหงือก เล็บ ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ยับยั้งต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเพิ่มน้ำนม เมนูอาหารที่มีแครอทเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น แครอทชุบแป้งทอด แครอทผัดไข่ แครอทอบ สลัด ส้มตำแครอท ซุปแครอท ของหวาน เช่น เค้กแครอท ส่วนน้ำ แครอท ยังสามารถทำน้ำแครอทได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม#ใบกระเพา ใบกระเพา มีกลิ่นฉุน ร้อน ช่วยขับลมแก้ซาง แก้ท้องขึ้น จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยบำรุงธาตุ เป็นต้น และในต่างประเทศก็มีการใช้กะเพราในการรักษาโรคกันอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าบ้านเราเสียอีก โดยเฉพาะประเทศอินเดีย เขาถือว่ากะเพราเป็นยารักษาโรคได้ทุกโรค และยังจัดเป็นราชินีแห่งสมุนไพร (The Queen of herbs) หรือเป็นยาอายุวัฒนะ (The Elixir of life) เลยก็ว่าได้ และสำหรับแม่ให้นมอย่าพวกเรา มีคุณสมบัติเพิ่มน้ำนมได้อีกด้วย เมนูที่มีใบกระเพาเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ผัดกระเพา ไข่เจียวใบกระเพา เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม#มะละกอ เป็นผลไม้ยอดฮิตของคนไทย สามารถรับประทานสดๆ หรือนำมาประกอบอาหารก็ได้ มีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตี สรรพคุณของมะละกอ ช่วยเป็นยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด และช่วยเพิ่มน้ำนม เป็นต้น เมนูที่นิยมนำมะละกอมาทำเป็นอาหาร อาทิเช่น แกงส้มมะละกอ มะละกอผัดไข่ ทอดมันมะละกอ คั่วมะละกอ ส่วนของหวานมะละกอสามารถทำเป็นแยมมะละกอ และทำน้ำมะละกอได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม#ขิง ขิง มีคุณสมบัติที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายของเรา เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเส้นใยจำนวนมากอีกด้วย มีคุณสมบัติ เพิ่มน้ำนม ลดความอ้วน ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล และเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอด เมนูที่นิยมนำขิงมาทำเป็นอาหาร อาทิเช่น ไก่ผัดขิง ปลาผัดขิง หมูผัดพริกขิง ซุปขิง และปลาดอรี่ทอดขิง เป็นต้น และเมนูน้ำ ยังสามารถทำเป็นน้ำขิงได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม#ผักโขม ผักโขมไม่ได้มีรสชาติขมเหมือนที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่กลับมีรสชาติออกหวานหน่อย ๆ ด้วยซ้ำ กินง่ายแน่นอน แถมยังมีโปรตีนสูง กรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุทองแดง ธาตุแมงกานีส ธาตุสังกะสี เป็นต้น มีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม ช่วยขับน้ำนมคุณแม่ที่ให้นมลูก เมนูอาหารที่มีผักโขมเป็นส่วนผสม อาทิเช่น ไข่อบผักขม พายผักโขม ผักขมอบชีส ซุปผักโขม เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม#มันเทศ หัวมันเทศนอกจากจะให้อาหารจำพวกแป้งแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ (โดยเฉพาะในหัวสีเหลือง) วิตามินบี และวิตามินซีอีกด้วย สรรพคุณของมันเทศ เป็นยาแก้บิด น้ำคั้นจากหัวใช้เป็นยาทาแก้แผลไฟไหม้ได้ หัวใช้ชงกับน้ำดื่มช่วยบำรุงม้ามไต หัวใช้ชงกับน้ำดื่มช่วยแก้กระหายน้ำ และช่วยเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เมนูที่ใช้หัวมันเทศในการประกอบอาหาร ได้แก่ ซุปมันม่วง ของหวาน เช่น หม้อแกงมันเทศ ขนมแกงบวชมันเทศ ลดช่องมันเทศ มันเชื่อม ไข่นกกระทามันม่วง บัวลอยมันม่วง เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม#ผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่ง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยแก้ไข้แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยทำให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้น และช่วยเพิ่มน้ำนม เมนูที่นิยมนำผักชีฝรั่งมาเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น ลาบหมู ต้มยำ ผักชีฝรั่งสดเป็นเครื่องเคียงน้ำพริก เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม#กระเทียม กระเทียม มีวิตามินบี6 ยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกาย มีสรรพคุณในการช่วยระงับกลิ่นปาก ขับเหงื่อ ขับลม ชับปัสสาวะ และเพิ่มน้ำนม เพิ่มความอยากอาหาร ป้องกันการเปิดโรคไต เมนูที่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น การนำมาใช้เพื่อช่วยปรุงรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่าง ๆ อีกสารพัด
อ่านเพิ่มเติม