🎪 โพสต์นี้ลุ้นรับยกเซ็ต!!! เอาไปเลยที่นอนเด็ก เบาะไข่ พร้อมหมอนหลุม

ของรางวัลต้อนรับสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ 🤱 ไม่ธรรมดา เพราะแอดให้ยกเซ็ตเลยจ้า กติกาคือ ..... 1️⃣ กดเข้าร่วมกิจกรรม และทำตามเงื่อนไขทุกข้อได้ที่ https://community.theasianparent.com/contest/cotton-100/1171?lng=th 2️⃣ "บอกเล่าชีวิต หรือประสบการณ์การเป็นแม่" หน่อยค่ะ (มุมมองไหน เรื่องไหนก็ได้นะคะ) 📌 ย้ำ!! อย่าลืมทำการแชร์โพสกิจกรรมนี้ลงเฟสบุ๊คของคุณด้วยนะคะ! **ร่วมกิจกรรม 9-15 สิงหาคม 2564

🎪 โพสต์นี้ลุ้นรับยกเซ็ต!!! เอาไปเลยที่นอนเด็ก เบาะไข่ พร้อมหมอนหลุม
259 ตอบกลับ
undefined profile icon
เขียนข้อความตอบกลับ

เราเพิ่งท้องลูกคนแรกค่ะ ตอนนี้ 30 week แล้ว แต่ระหว่างทางคือต้อง อึด อดทนมากจริงๆ ไตรมาสแรก : เราแพ้ท้องหนักมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ กินแล้วอ้วกออกหมด เบื่ออาหารทุกอย่างที่มี เบื่อคน เบื่อโลก เบื่อโซเชียล คือมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง เราไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น ไม่อยากเจอผู้คนเลย แม้กระทั่งสามีก็ไม่อยากเจอไม่อยากคุย สิ่งเดียวที่เยียวยาจิตใจเราได้ตอนนั้นคือน้องหมาน้องแมว ก็โชคดีที่มีพวกเค้าพาผ่านพ้นภาวะนั้นมาได้ 😻 ไตรมาสที่สอง : พออายุครรภ์ได้ 4 เดือนกว่าๆเริ่มหายแพ้ท้องกินได้เยอะขึ้น เริ่มอยากเจอผู้คน แต่ดีขึ้นไม่ทันไร ประมาณวีคที่ 21 เราปวดท้องข้างซ้ายหนักมาก เลยไปหาหมอ ปรากฏว่าเจอก้อนซีสต์ขนาด 4.7 ซม อยู่ในรังไข่ด้านซ้าย ซึ่งเราไม่รู้ตัวมาก่อนเลย แล้วหมอบอกว่าซีสต์มันน่าจะเหวี่ยงแล้วทำให้เกิดการบิดขั้วของปีกมดลูก ซึ่งเป็นเหตุทำให้ปวดท้อง หมอให้เราแอดมิดทันทีเผื่อต้องผ่าฉุกเฉิน แต่เช้ามาอาการปวดเราดีขึ้นไม่รุนแรงเท่าตอนแรก หมอเลยให้นอนดูอาการอีก 2 คืน เผื่อเกลียวที่บิดมันคลายออกก็จะได้ไม่ต้องผ่า เพราะการผ่าก็มีโอกาสแท้งหรือเด็กคลอดก่อนกำหนด 😭😭 แต่ในที่สุดหมอตัดสินใจขอผ่า เพราะอาการปวดท้องเราไม่หายขาดหลังจากนอนนิ่งมา 3 คืน หมอบอกว่าถ้าเกิดการบิดขั้วรุนแรงขึ้นมาอีกจะลำบาก ยิ่งท้องโตยิ่งผ่าลำบาก หรือถ้ามันบิดขั้วจนเลือดไม่เดิน จะทำให้ปีกมดลูกเน่าและติดเชื้อในช่องท้องซึ่งอันตรายต่อลูกมากกว่า เราปรึกษากับครอบครัวทุกคนลงความเห็นว่าควรผ่าเลยต้องยอมผ่า ✌🏻✌🏻✌🏻 การผ่าตัดต้องใช้วิธีบล้อคหลังเท่านั้น ดมยาไม่ได้เพราะจะเอฟเฟคกับลูก หลังผ่าตัดเราเจ็บแผลมาก เพราะหมอไม่สามารถเปิดแผลได้กว้าง เลยต้องถ่างแผลเยอะ หมอตัดเอารังไข่ทิ้งไปเลยเพราะไม่มีเวลาเลาะเอาแต่ก้อนซีสต์ออก หมอต้องรีบเปิดแผลและปิดแผลให้ไวที่สุดเพื่อความปลอดภัยของเด็กในท้อง พอมานอนที่ห้องพักฟื้นเราโดนฉีดยาเยอะมาก ทั้งยากันแท้ง ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด และยาที่ฉีดให้กล้ามเนื้อคลายตัว เพราะหลังผ่าตัดเรามีอาการท้องแข็ง บีบเกร็ง มีภาวะเหมือนคนใกล้คลอด เค้าเลยต้องฉีดยาตัวนี้ให้เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายออก ซึ่งต้องฉีดทุกๆ 4 ชั่วโมง ซึ่งยาที่ฉีดเข้าไปคือแสบมาก เราฉีดจนหัวไหล่พรุนหมดเลย ฉีดแล้วใจเต้นแรง ใจสั่นมาก เราโดนฉีดยาตัวนี้ไป 2 วันเต็มๆ ทรมานสุดๆ แต่ก็สู้เพื่อลูก บอกลูกเสมอว่าให้สู้ไปกับแม่นะ ทุกวันพยาบาลต้องคอยมาฟังเสียงหัวใจเด็กว่ายังเต้นอยู่มั้ย วันไหนที่หาหัวใจลูกลำบาก แม่นี่ลุ้นสุดๆ สุดท้ายนอน ร.พ.ไป 10 คืนถึงได้กลับบ้าน และอีกเรื่องที่ดีคือหมอแจ้งว่าก้อนเนื้อนั้นไม่ใช่ก้อนเนื้อร้ายเป็นแค่เดอร์มอยซีสต์ แม่เลยโล่งไปอีกเปราะ 😌😌 พอกลับมาอยู่ก็ต้องระวังเพราะจะมีอาการท้องแข็งอยู่เรื่อยๆเป็นผลจากการผ่าตัด ยืนเยอะ นั่งเยอะ ก็ท้องแข็งแล้ว ต้องนอนเป็นหลัก จนตอนนี้เข้าไตรมาสที่ 3 แล้วก็ยังเป็นอยู่ บวกได้เบาหวานมาเพิ่มด้วย ต้องมาเจาะเลือดดูน้ำตาลเองทุกวัน แต่แม่ก็จะสู้สุดใจเพื่อรอเจอหน้าตัวน้อยคนเก่ง อีก 2 เดือนก็จะได้เจอกันแล้ว ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ 😍🥰

อ่านเพิ่มเติม
คำถามที่เกี่ยวข้อง