🎪 โพสต์นี้ลุ้นรับยกเซ็ต!!! เอาไปเลยที่นอนเด็ก เบาะไข่ พร้อมหมอนหลุม

ของรางวัลต้อนรับสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ 🤱 ไม่ธรรมดา เพราะแอดให้ยกเซ็ตเลยจ้า กติกาคือ ..... 1️⃣ กดเข้าร่วมกิจกรรม และทำตามเงื่อนไขทุกข้อได้ที่ https://community.theasianparent.com/contest/cotton-100/1171?lng=th 2️⃣ "บอกเล่าชีวิต หรือประสบการณ์การเป็นแม่" หน่อยค่ะ (มุมมองไหน เรื่องไหนก็ได้นะคะ) 📌 ย้ำ!! อย่าลืมทำการแชร์โพสกิจกรรมนี้ลงเฟสบุ๊คของคุณด้วยนะคะ! **ร่วมกิจกรรม 9-15 สิงหาคม 2564

🎪 โพสต์นี้ลุ้นรับยกเซ็ต!!! เอาไปเลยที่นอนเด็ก เบาะไข่ พร้อมหมอนหลุม
259 ตอบกลับ
undefined profile icon
เขียนข้อความตอบกลับ

ประสบการณ์จากการได้เป็นแม่"ตอนท้องลูกคนแรก..ซึ่งเรากับแฟนอายุห่างกัน1ปีตอนนั้นแฟนอายุ20ส่วนเรา19ปีอยู่ด้วยกันได้ประมาน3ปีเราก็ได้ปรึกษากันว่าอยากมีเจ้าตัวเล็ก..ซึ่งเราอยู่ด้วยกันแบบไม่ได้แต่งงานกันและอีกอย่างทางแม่และญาติทางแฟนไม่ยอมรับเราต่างกันกับทางญาติฝ่ายเราที่ไม่เคยว่าไม่ติมีแต่ให้กำลังใจ..จากนั้นเราก็ตกลงกับแฟนว่าพร้อมที่จะมีเจ้าตัวเล็ก..พอท้องได้3เดือนก็ได้ไปฝากครรภ์ตามปกติ..เรากับแฟนรักกันมากแฟนเราช่วยเราทุกอย่างเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นลำบากมากเเละยุในช่วงที่เราไม่ได้ทำงานแล้วด้วย..ช่วงนั้นแฟนกำลังเรียนอยู่เขาจบ..ปวช..ต่อ..ปวสแต่ไม่จบ..เพราะเเฟนต้องออกมาทำงานเพื่อหารายได้มากใช้ค่านู้นนี่นั่น..เราพักอยู่ในห้องเล็กๆอยู่ร่วมกันกับพ่อและแม่แฟนคือนอนเบียดกัน4คน..เราทั้งอยู่ทั้งอึดอัดเพราะแม่แฟนเขาไม่ชอบเราไม่เคยคุยด้วยแม้แต่คำเดียว..กินข้าวเขาก็กินต่างหาก..ส่วนเราก็นั่งนอนอยู่ในห้องแบบนั้นมาตลอดทุกวัน..โดยเป็นอะไรที่กดดันมากๆเราแอบร้องไห้ทุกวันทุกคืน..เวลาแฟนเลิกงานมาก็จะดีใจมากเพราะเขาคือคนเดียวที่คุยกับเราและรักเรา..รอเเฟนเลิกงานมาดึกแค่ไหนถึงได้ไปกินข้าว..เราจะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวดึกๆด้วยกันทุกคืน..เดินคุยกันก็คุยกันแต่เรื่องที่เราอึดอัด..ไม่รู้จะทำไงมันอยู่ยากมากนะที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับแม่สามีที่เขาไม่ยอมรับเรา...คุยกันแบบนี้ทุกวันทุกคืนร้องไห้ทุกวัน..แฟนก็จะบอกว่าอดทนหน่อยนะสู้ๆหน่อยนะ..เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน..เพราะเราอยู่ช่วงกำลังตั้งตัวยังไม่ได้..ย้ายไปห้องอื่นก็ไม่ได้เพราะแฟนพึ่งทำงานยังไม่มีตังเก็บเลย..ก็ต้องอดทนต่อไป..ส่วนเราเองเป็นคนพูดน้อยขี้อายขี้กลัวเราอาจจะยังเด็กอยู่ด้วย..ส่วนเรื่องไปฝากครรภ์เราก็ไปตามหมอนัดตลอดกินยาทุกครั้งทำตามหมอแนะนำทุกอย่าง..พอท้องเริ่มโต5-6เดือนไปหาหมอ..คุณหมอบอกว่าเด็กแข็งแรงดีนะ..ทำเราจากเครียดๆกลายเป็นยิ้มได้..พอเวลาผ่านไปอีกหลายๆเดือน..น่าจะท้องได้เข้าเดือนที่8แล้วนะ..ก็ไปหาหมอตามนัดแบบปกติ..เวลาผ่านมานานเท่าไหร่อะไรๆก็เหมือนเดิมอยู่แบบอดทนอัดอั้นเหมือนเดิม..แม่สามีก็ไม่เคยคุยกับเราเลย..น่าจะใช้คำว่าเกลียดได้ด้วยซ้ำไป..ของใช้ในห้องเขาก็บอกว่าห้ามใช้ห้ามแตะ..พอเราได้ยินแบบนี้เราก็ได้หันหน้าไปมองหน้าเขาโดยที่เรามองด้วยตาที่สงสัยมากและน้ำตาก็ไหลออกมาเลย..แม่สามีตอบมาว่ามองหน้าทำไม""เดี๋ยวจะโดน"".....เราก็คิดในใจนะว่า..อะไรมันจะขนาดนี้เลยหรอ..เราทำอะไรผิดอ่ะ พอใกล้ถึงเวลาคลอดใกล้เข้ามา..ทั้งแม่แฟนและญาติๆทางแฟนได้แอบมาบอกเราว่า..ตอนไปคลอดลูกให้บอกหมอว่า..เราเป็นคนไม่มีญาติ..พ่อกับแม่ตายหมดแล้ว..จะได้คลอดฟรี...😭😭เรานี่อึ้งเลยแอบร้องไห้...เพราะเขากลัวจะได้เสียตังค่าคลอดลูกให้เรา...เพราะเรากับแฟนก็ยังไม่มีตังเลย...เราเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่เคยบอกแฟน..อดทนอดกลั้นมานานมาก..พอวันที่เราเจ็บท้องคลอดแฟนก็พาเรานั่งรถสามล้อไปโรงบาล..เวลาประมาณ22:00ไปถึงหมอบอกปากมดลูกยังไม่เปิดเลย..หมอบอกให้แฟนกลับบ้านก่อนได้ส่วนเราก็นอนโรงบาล..พอเวลาตี3หมอบอกว่าปากมดลูกเปิดแล้ว3เซน...ผ่านไปถึงตี5เปิดได้3เซน...ถึงถึง08:00ปากมดลูกก็ยังเปิดไม่ถึง10เซน..ตอนนั้นเจ็บทุก5นาทีเว้น5นาทีหายปวด..จนหมอต้องมาให้ยาเร่งคลอด..ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็ได้คลอดออกมา..เวลา09:17น.น้ำหนัก3,270กก.เพศชายน้องแข็งแรงดี..พยาบาลได้โทรหาสามีเราว่าภรรยาคุณคลอดแล้วนะ..พอเเฟนเลิกงานมา5โมงเขาก็เข้ามาเยี่ยมเราและลูกเลย..เราดีใจมากๆที่ได้ทำให้เขาเกิดมา..ถึงแม้จะมีใครไม่ชอบหรือรักเราก็ตาม..พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆอะไรๆก็เหมือนเดิม..เเม่สามีที่ดูเหมือนว่าเกลียดเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม..ได้หลาน1คนก็ไม่เห็นดีใจ..แถมไม่เคยสนใจ...ไม่เคยอยากจะอุ้มด้วยซ้ำ...เวลาผ่านไปหลายปีจนมาถึงตอนนี้ลูกชาย9ขวบแล้ว..แต่เราได้ให้แม่ของเราเลี้ยงให้..ทางบ้านเรามีฐานะที่ยากจน..แต่แม่เรารักลูกเรามากเพราะว่าเป็นหลาน..เรารู้สึกว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เรายังมีแม่ที่รักเราและรักหลานแบบนี้..เรื่องราวทั้งหมดเราเก็บไว้อึดอัดมากแต่ก็ยังมีแฟนที่เข้าใจเราห่วงเราคอยให้กำลังใจ🥰🥰ตอนนี้ผ่านมา10กว่าปีเราก็ยังอยู่กับแฟนคนเดิม..ส่วนแม่แฟนก็ไม่เคยติดต่อกันไม่เคยมีใครโทรมาถามข่าวเลย..ได้เจอหน้ากันบางครั้งเวลาที่แม่แฟนเขากลับบ้านช่วงเทศกาล..เพราะเรามาอยู่ที่ร้อยเอ็ดบ้านแฟน...ก็อยู่ไปแบบนั้นแหล่ะ..คนในบ้านไม่มีใครชอบเราเลยตากับยายของแฟนก็เป็นเหมือนกันกับแม่แฟน..ช่วงนี้ปัญหาหลายอย่างเริ่มเข้ามาอีก..อยู่ไปวันๆมีหน้าที่ไปทำงานกับแฟนไม่มีใครคุยด้วยอึดอัดมาก..ทำกับข้าวไว้ให้ก็ไม่กินของเรา..เงินหายก็โทษเรา..ก็เลยทำให้เรากับแฟนลำบากใจมาก......มีเครื่องเครียดแต่ก็ยังมีเรื่องให้ดีใจ..เพราะตอนนี้เราตั้งท้องลูกคนที่2แล้ว😍😍....แฟนเราเลยบอกยายของเขาว่า..เมียมีท้องอีกนะคับ..ส่วนยายตอบมาว่า..ท้องแบบนี้แล้วไม่ทำงาน..ออกจากงานแล้วจะขยันเข้าไปเก็บเห็ดมาขายมั้ย....เราฟังดูก็แปลกไป..เขาคงว่าเราขี้เกียจ..เพราะยายของแฟนไม่ชอบเราอยู่แล้ว...แฟนเราแอบคุยกับเราว่า..ยายคิดได้ยังไงจะให้คนท้องไปเก็บเห็ด..อีกอย่างต้องปีนกำแพงสูงๆลงไปและเข้าไปเก็บในป่าเพราะเป็นป่าที่เป็นบริเวณของวัดซึ่งเป็นป่าช้าด้วย....เฮ้อ.. ต่อมาอีก2วัน..แฟนได้ตัดสินใจโทรไปบอกแม่เขาว่า..เมียผมท้องอีกนะ..คำตอบที่ได้คือ..เอามาทำไมใครจะเลี้ยงให้พวกแก..วันนั้นเลยทำให้แม่กับแฟนทะเลาะกันเถียงกัน...แฟนบอกว่าแทนที่จะดีใจว่าจะมีหลาน..กลับมาพูดแบบนี้ทั้งๆที่ลูกคนแรกแม่ก็ไม่ได้เลี้ยงมีแต่เราและแม่ยายของเราที่เลี้ยงจนโต...อึดอัดใจมากได้แต่คุยกันกับแฟนว่าจะทำไงดี..อยู่แบบนี้คงไม่ได้แน่ไม่มีใครรักเราเลย...เราก็เลยคิดแก้ปัญด้วยการ..กลับสุรินทร์เพราะตอนนี้อยู่ร้อยเอ็ด....ตื่นเช้ามาวันที่29ก.ค64เวลาตี4เราลุกขึ้นมาเก็บที่นอนเก็บของเตรียมกลับบ้านกันเลย...และเราก็กลับโดยพากันนั่งรถมอเตอร์ไซค์จากร้อยเอ็ดมาที่สุรินทร์..ตอนที่มาท้องเข้าเดือนที่5แล้ว..แต่ก็อย่างว่าแหล่ะช่วงนี้สถานการณ์ระบาดของโควิด19..เรามาถึงสุรินทร์ก็ได้กักตัว..ตอนนี้กักตัวได้12วันแล้วจร้าเหลืออีก2วัน✌️✌️สู้ๆ เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับเราและผ่านไปแล้ว..ตอนนี้คือเราต้องสู้ๆเพื่อนครอบครัวและลูกที่เรารักและคนที่รักเรา และกำลังใจที่สำคัญตัวน้อยๆที่กำลังจะเกิดมาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้🥰🥰 #นี่แหล่ะค่ะประสบการณ์จากการได้เป็นแม่มานี่แค่คร่าวๆนะคะมีเยอะกว่านี้ แต่จะสู้ต่อไปค่ะ✌️✌️

อ่านเพิ่มเติม
4y ago

ขอบคุณนะคะ🥰🥰

พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่” ไม่ใช่ประโยคที่ใช้เพียงแค่ฮีโร่ในหนังเท่านั้น ชีวิตจริง “แม่” ก็คือฮีโร่ตัวจริงและเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อลูกๆ ของเรา สำหรับแอร์แล้วก็เพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของแม่อย่างซาบซึ้ง ก็เมื่อตอนที่ตัวเองได้เป็นแม่คน เรื่องจริงของของมนุษย์แม่ที่คุณไม่อาจปฏิเสธได้ที่คนเป็นแม่ด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ จากผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งวันหนึ่งต้องกลายมาเป็นผู้หญิงที่พร้อมที่จะเป็นแม่ของลูก แม่แอร์ได้เรียนรู้อะไรมากมายที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้ลูกของแม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องเพื่อให้ลูกคลอดออกมาและเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง หากว่าคุณกำลังจะกลายเป็นคุณแม่ มีบางสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะมีสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆ มาวางอยู่ในอ้อมแขนของคุณ คือ การเตรียมพร้อมก่อนที่จะตั้งครรภ์ ที่ผู้หญิงอย่างเราต้องรู้ และต้องให้ความสำคัญมากๆ เพื่อให้มีการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง และให้ลูกน้อยเกิดมามีสุขภาพที่ดี จากประสบการณ์ของแม่แอร์ ตอนนี้ก็ลูกสองคนแล้ว สิ่งที่อยากจะมาแชร์ส่งต่อให้บรรดาว่าที่คุณแม่ด้วยกัน คือ การดูแลตัวเอง การวางแผนก่อนตั้งครรภ์ และการเตรียมร่างกายของว่าที่คุณแม่ให้พร้อมก่อนที่จะมีเจ้าตัวน้อยเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ นะคะ สิ่งที่คู่สามีภรรยาควรปฏิบัติคือ การตรวจสุขภาพของทั้งคู่ก่อนตั้งครรภ์ ตรวจดูว่ามีโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือไม่ เช่น โรคธาลัสซีเมีย ซึ่งโรคนี้สามารถถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้ นอกจากนี้หากคู่สามีภรรยามีการคุมกำเนิดอยู่ หากต้องการมีลูกก็ควรหยุดยาคุมกำเนิด อย่างน้อยประมาณ 3 เดือน เพื่อปรับสภาพร่างกาย และต้องเลิกใช้อุปกรณ์การคุมกำเนิดทุกชนิดด้วยค่ะ นอกจากนี้ตัวว่าที่คุณแม่เองก็ควรทราบกันไว้ด้วยว่า ผู้หญิงอย่างเราๆ ถ้าตั้งใจจะมีน้องท้องแรก จะค่อนข้างมีความเสี่ยงมาก เมื่อคุณแม่นั้นมีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ผู้หญิงแบบเราๆ หรือว่าที่คุณแม่มีความจำเป็นต้องตรวจสุขภาพโดยละเอียดอย่างมาก เพราะมีความเสี่ยงที่เป็นไปได้ว่าลูกที่จะเกิดมาอาจจะมีความเสี่ยงของโครโมโซมที่ผิดปกติ หรือโรคที่เราเรียกกันว่า ดาวน์ซินโดรม แต่จากประสบการณ์ คุณหมอจะแนะนำให้ตรวจร่างกายโดยละเอียด ตั้งแต่คุณแม่มีอายุ 33 ปีขึ้นไปเลยค่ะ แม่แอร์เองก็ไม่ถึง 35 ปี แต่ตอนที่ตั้งท้องลูกคนแรกก็ทำการตรวจคัดกรองเลือดกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมค่ะ เมื่อว่าที่คุณแม่ปฏิบัติตามข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่จะแชร์ให้ทราบกันอีกว่า ไม่ว่าคุณแม่จะอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือเตรียมตัวตั้งครรภ์สิ่งที่คุณแม่ควรทราบคือ คุณแม่จะต้องรับประทานวิตามินที่เราเรียกกันว่า “โฟลิคแอซิด” (folic acid) ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน และต้องกินต่อไปอีกหลังตั้งครรภ์แล้วค่ะ โฟลิคแอซิดมีความจำเป็นต่อการพัฒนาสมองและกระดูกสันหลังของลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างมากนะคะ ก่อนที่จะวางแผนมีบุตรควรรับประทานค่ะ จะเล่าถึงประสบการณ์ช่วงที่แม่แอร์ตั้งครรภ์ให้ฟังค่ะ ช่วงที่ตั้งครรภ์แอร์เองค่อนข้างดูแลตัวเองมากๆ ค่ะ ถ้าถามว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากไหม? ตอบเลยว่ามากนะคะ ทั้งเรื่องอาหารการกิน และการใช้ชีวิต ตลอดจนเป้าหมายชีวิตของเราต่อจากนี้ก็เปลี่ยนไปค่ะ พอทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ (ลูกคนแรก) สิ่งแรกที่ทำคือ ฝากครรภ์ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ การดูแลครรภ์ในช่วงแรกก็รับประทานโฟลิคแอซิดตามที่คุณหมอจ่ายมาค่ะ ช่วงนั้นตัวแอร์เองก็หาข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการบำรุงครรภ์ เวลาพบคุณหมอก็คอยสอบถามข้อสงสัยที่มีเสมอๆ ค่ะ ซึ่งพบว่าเรื่องโภชนาการเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับคุณแม่ คุณแม่อาจจะคิดว่า กินนม กินผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์เยอะแล้วนะ ก็ไม่ต้องทานวิตามิน แต่จริงๆ แล้วเท่าที่ทราบมาปริมาณอาหารที่เราทานเข้าไป ร่างกายของเราก็ดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุได้ไม่เต็มหรอก กว่าจะดูดซึมได้ก็ถูกน้ำย่อยหรือความร้อนในการปรุงสุก ทำลายวิตามินและแร่ธาตุออกไปก่อนแล้ว จึงจำเป็นต้องหาตัวช่วยเพิ่มอย่างพวกวิตามินเสริมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ ซึ่งเราก็ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐาน และจากการทำการบ้านหาข้อมูลมาแล้ว เห็นว่ามีวิตามินและสารอาหารหลากหลายชนิดมาก และชอบที่มีน้ำมันปลา เพราะเจ้าน้ำมันปลานี่คือแหล่งของ สารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสมองและสายตาของลูกน้อยในครรภ์ของเราเลยค่ะ แต่ล่าสุดเค้าพัฒนาสูตรใหม่เพิ่มแคลเซียมขึ้นมาอีก ก็ถือว่าสะดวกมากๆ ที่คุณแม่จะได้ไม่ต้องทานหลายๆ เม็ด ไม่เหมือนแอร์ตอนนั้นที่ทานสูตรเก่า เลยต้องทานแคลเซียมเพิ่มต่างหากค่ะ นอกจากวิตามินเสริมแล้ว การเลือกรับประทานอาหารสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตลอดจนต้องพยายามทานอาหารให้หลากหลายชนิด เพราะสารอาหารนั้นมีผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาการของทารกในครรภ์ และคุณแม่ยังต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทํางานหนักจนเกินไป ควรออกกําลังกายพอประมาณ และดื่มน้ำมากๆ ด้วยค่ะ แอร์จะเสริมให้อีกนิดหนึ่งนะคะว่าการดูแลตัวเองไม่ใช่แค่คุณแม่ต้องดูแลตัวเองเพียงแค่ระหว่างตั้งครรภ์เท่านั้นนะคะ การดูแลตัวเองหลังคลอดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรใส่ใจดูแลตัวเองเช่นกัน คุณแม่บางรายอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นแต่แอร์จะบอกว่ามันจำเป็นมากนะคะ เพราะหลังคลอดคุณแม่ต้องมีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่อีกหน้าที่ คือ การให้นมลูก ซึ่งถ้าหากคุณแม่ได้รับสารอาหารครบถ้วน ก็ย่อมส่งต่อสารอาหารดีๆ เหล่านี้ผ่านทางน้ำนมไปให้คุณลูกได้ด้วย เห็นมั้ยคะว่า โภชนาการที่ดี ที่ครบถ้วนสำหรับลูกน้อยนั้น มีความสำคัญมากๆ ซึ่งต้องเริ่มดูแลกันตั้งแต่ก่อนคลอดจนถึงหลังคลอดเลยค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

จะมาเล่าประสบการณ์ ในการคลอดลูก ตอนนี้คุณแม่มีลูกทั้งหมด 3 คนคนที่ 3 ยังอยู่ในท้องตอนนี้อายุครรภ์ประมาณ 28 สัปดาห์แล้ว​ค่ะ จะมาเล่าประสบการณ์คลอดลูกคนที่ 2 ให้คุณแม่ท่านอื่นฟัง ตอนนั้นเป็นวันที่ปกติมากทำงานเลิกงานกลับห้องมาคุณแม่ได้ตั้งครรภ์ประมาณ 38 สัปดาห์ ติดตั้งประมาณ 3สัปดาห์ จะถึง​กำหนดคลอด​ ตกกลางคืนช่วงประมาณ 3:00 น ตื่นขึ้นมาปิดพัดลมเนื่องจากรู้สึกตัวว่าหนาวพอจะนอนสึกว่ามีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดไม่หยุด ตอนนั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูก สามีก็กินเหล้าเมาเพิ่งจะหลับตอนประมาณเที่ยงคืน ก่อนจะ นอน สามีก็อ้วกคือเมาเหล้าหนักมาก ตอนนั้นทั้งตกใจทั้งโมโหสามี คือเราก็บอกสามีให้พาไปโรงพยาบาลตอนเรากังวลมาก ได้แต่คิดและภาวนาว่าขอให้ถึงโรงพยาบาลก่อนนะลูกอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะพอไปถึงห้อง ฉุกเฉินก็ยื่นสมุดฝากครรภ์สีชมพูให้กับพยาบาล เสร็จปึ๊บเขาก็ให้ไปเปลี่ยนชุด เพื่อเปิดดูว่ามดลูกเปิดกี่เซนแล้ว คุณหมอก็ได้แจ้งว่าเปิดแค่1เซนน่ะบอกเราว่านี้มันไม่ใช้น้ำคร่ำน่ะเราก็งงน่ะคือน้ำมันไหลออกเยอะมากอ่ะจะไม่ใช่ได้ไงเราได้แต่คอดในใจ พยาบาล​แจ้งว่าน่าจะคลอดเองไม่ได้นะคะต้องผ่า เพราะว่าท้องใหญ่มากเลยใจเราอยากคลอด​เองน่ะ จากนั้นพยาบาลก็ให้สามี เราไปซื้อน้ำยาล้างเล็บเท้าเล็บมือ เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราจะผ่าเราจะต้องทำร่างกายให้สะอาด ณ ตอนนั้นส่วนตัวก็ยังไม่ถึงกำหนดคลอดใช่ไหมมันก็จะมีเล็บยาวบ้างนิดหน่อย​ ซึ่งตอนแรกเราก็กำลังจะตัดอยู่แล้วแหละ แต่ดัน มาเจ็บท้องคลอดก่อนไม่ทันได้ตัด คุณหมอก็จะบ่นไปตามประสาคุณหมอ แล้วก็สั่งให้เราถอดแหวนถอดสร้อยให้หมดข้าวของมีค่าให้สามีเก็บไว้กระเป๋า​ตังค์​โทรศัพท์​ ไม่ทันได้หยิบอะไรเลยคือณตอนนั้น เราก็คิดว่าสามีเรา คงจะรอหรือไม่ก็ตอนเช้าคงมาหาเราเลย พยาบาลก็เดินมาตามเราบอกว่าให้จ่ายค่าผ้าอนามัยตอนนั้ตอนนั้น​เป็น​อารัยที่เร็วมาก จริงๆเราเตรียมไว้แล้วล่ะแต่เราไม่ได้เอามา เราก็เจ็บท้องงงๆงงมาก ว่าทำไมไม่ คิดค่าใช้จ่ายหลังคลอด ตอนนั้นสามีก็เอาตังค์มาจ่ายให้ เสร็จปุ๊บเราก็เข้าห้องคลอดรอคลอด มันก็เจ็บท้องเรื่อยๆ ระหว่างนั้นคุณหมอก็ให้กรอกเอกสารซึ่งท้องแรก เราไปคลอดที่บ้านนอก เราไม่เคยกรอกเอกสารอะไรเลย แต่ท้องนี้ระหว่างเจ็บท้องคลอด ต้องมานั่งกรอกเอกสาร ชื่อสามีชื่อลูก ความเจ็บมันก็ เจ็บแล้วก็หาย เจ็บแล้วก็หาย คิดในใจนะว่าเมื่อไหร่หมอจะ มาดูเราบ้าง เห็นหมอก็เดินไปเดินมาเดินไปเดินมา เราปวดท้องมากทนไม่ไหว จึงเรียกหมอ บอกว่าเจ็บท้องมากเลย ก็ทำการวัดปากมดลูกจากนั้นก็ทำการเตรียมคลอด ก่อนคลอดนั้นเป็นอะไรที่ กว่าจะผ่านไปได้นั้น สาหัสเหมือนกัน พยาบาลสั่งให้เดินไปขึ้น นั่งรถเข็น ซึ่งจะบอกว่าณตอนนั้น เลือดไหลออกมันเต็มแล้ว เราก็ เจ็บอุ้งเชิงกรานมาก เวลาเหยียบเท้าย่างเดินไปขาสั่นเลย เจอพยาบาลตะโกนบอกเราว่า เจ็บท้องคลอดนะไม่ใช่คนขาหักจะได้เดินไม่ได้ ตอนนั้นเราได้ยินก็ได้แต่กัดฟันทนเดินไปด้วยความเจ็บปวดน้ำตาเราก็ไหลแตกภาคพอพยาบาล เห็นแบบนั้น ก็พูดกับเราว่าร้องไห้ทำไม ตอนนั้นบอกเลยว่าไม่ได้ร้องไห้เพราะพยาบาล​หรอกน้ำตามันไหลออกเอง ด้วยความเจ็บปวด จากนั้น​หมอให้เบ่งคลอด​ 4 ที หัวลูกก็ออกมา เสร็จปุ๊บมันก็จะคาไว้แบบนั้น หลังจากที่ตัวลูกออกมา ความเจ็บปวดในท้องก็หายไป รู้สึกโล่งมากเลย คุณหมอก็ยกตัวลูกให้ดูว่า คุณ​แม่ดูซิลูกเราเพศอะไรยอกหมอดังๆสิ จากนั้นพยาบาล​ก็จะมานวดตึงหน้าท้อง ให้รกออกและแยกเด็ก​ไปก็ปล่อย ให้เด็กร้องสักพักใหญ่ๆก็ได้เอาเด็กมาให้แม่ถามว่าเสื้อผ้าเด็กมีไหมตอนนั้นคือจะบอกว่าเราไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลยทุกคนเราไม่ได้เอาตะกร้าเสื้อผ้าลูกมาเลยเราไม่มีของใช้ของตัวเองเลย แล้วเราก็ได้แต่รอสามีมา ปรากฏว่าสามีมาตอนไหนรู้ไมบ่าย 2โมงค่ะ คือเราหิวน้ำมาก จะ ลุกขึ้นเดินหรือขยับตัวก็ยากลำบากแล้วคนเจ็บปวดมาก ตอนนั้นไม่มีใครเลยไม่มีใครมาเยี่ยมติดต่อใครไม่ได้ เราก็ได้ ยืมโทรศัพท์เตียงข้างๆที่ญาติเขามาเยี่ยมโทรไปหาแฟนว่าทำไมยังไม่มาหาเราอีกได้คำตอบมาว่าอ้าวแล้วหมอเขาว่าจะโทรไปบอกนะตอนนั้นคือ โมโห น้อยใจ สงสารลูกก็สงสาร แผล ก็เจ็บ ลูกก็ไม่มีเสื้อผ้าห่อตัวอะไรเลย หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเราก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ว่าเราไม่ควรที่จะตื่นเต้นควรมีสติเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้พร้อมมันเป็นอะไรที่รวดเร็วมาก เลยค่ะดีนะคะที่ไม่เป็นอะไรเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้ท้องลูกคนที่ 3 นี้แม่ก็จะเตรียมของใส่ตะกร้าไว้เลยค่ะ ตอนท้องนั้นคิดว่าประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนคลอดค่อยเตรียมปรากฏว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะทุกคน ยิ่งช่วงนี้เป็นสถานการณ์ โควิทยิ่งต้อง​พร้อม​ค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ประสบการณ์การตั้งครรภ์ลูกคนแรก ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.6 เทอม2 เกิดจากความที่เราไม่ได้ป้องกันเลยตั้งครรภ์ขึ้นมา ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายได้มาพูดกันแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ทางแม่เราเลยตัดสินใจให้เราเลิกกับแฟนตอนนั้นเราเสียใจมากไม่รู้จะทำยังไงตอนนั้นท้องได้ 2 เดือน เราไม่มีประสบการ์อะไรสักอย่างพอผ่านไปได้ไม่นานเราเริ่มทะเลาะกับแม่ เพาะแม่จะให้เราไปเอาเด็กออก ทางญาติพี่น้องก็บังคับมาพูดเกลี่ยกล่อมทุกวัน คือเราเป็นลูกสาวคนเดียวแม่ตั้งความหวังไว้กับเรามากอยากให้เรามีอนาคตที่ดีไปได้ไกล ตอนนั้นเราปะคับปะคองตัวเองไปโรงเรียนทุกวันเพราะใกล้จบ ม.6 แล้ว ดีที่มีเพื่อนๆคอยช่วยเหลือจนเราจบ แต่เราก็ยังทะเลาะกับแม่อยู่กันจนแม่พูดคำว่าถ้าไม่เอาออกก็ตัดความเป็นเเม่ลูกกันไปกัน ตอนนั้นเราอยู่กับตากับยาย เราเคลียดมากไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง ไม่มีที่ปรึกษาอยู่ตัวคนเดียว ขังตัวอยู่แต่ในห้อง คิดจะผูกคอตายเพาะตอนนั้นเรายืนยันกับคนในครอบครัวไปว่า เราจะไม่เอาออกเด็ดขาด ถ้าจะให้เอาออกเราก้อยอมตายไปกับเด็กยังดีกว่า เพาะคนที่บาปคือตัวเรา ความรู้สึกผิดจะอยู่กับเราไม่จนวันตาย ตอนนั้นแม่ไม่คุยกับเราเลยขาดการติดต่อไปเลย เราก้อได้แต่ภาวนาว่าสักวันแม่จะเห็นใจและรักเด็กคนนี้ เราเชื่อความรู้สึกตัวเองว่าเด็กในท้องคือผู้ชาย เพาะก่อนที่เราจะตรวจท้องเราฝันเห็นผู้ชายมานั่งเล่นด้วย เราพยายามบอกแม่ว่าได้หลานผู้ชายนะ จนเวลาไปผ่านแม่เริ่มยอมรับ เริ่มเปิดใจ คือเรากับแม่ไม่ได้อยู่ด้วย แม่ไปทำงาน กทม ตั้งแต่เรา 3 เดือน วันนั้นแม่ต้องย้ายมาทำงานใกล้บ้านพอดี เราเลยมีโอกาสเจอกัน แม่พาเราไปหาซื้อของเตรียมคลอด ตอนนั้นเรามีความสุขมาก เพราะแม่อยากมีลูกชาย แต่เรากันเกิดมาเป็นผู้หญิง แม่ต่อเติมบ้านให้เราใหม่ให้อยู่สบายกว่าเดิม พอวันเราคลอดแม่ก้อลางานจาก กทม เพื่อมารับขวัญหลาน ตอนนั้นเราเกิดเดินไม่ได้ขึ้นมา *สาเหตุคือ นั่งให้นมลูกผิดเส้นเลยยึดเดินไม่ได้ 2 เดือน แม่เราต้องลางานกับมาหาเราทุกอาทิต จาก กทม มาต่างจังหวัด มาทุกๆวันศุกร์ กลับวันอาทิตย์เป็นอยู่แบบนี้เป็นเดือนๆ คอยซักผ้า อาบน้ำ พยุง เลี้ยงหลาน เราโชคดีที่มี ตากับยายมีแม่ที่คอยดูแลมาตลอด ตอนนั้นลำบากมากเราต้องใช้ไม่เท้าตลอดได้นอนอย่างเดียว ไปหาหมอก้อไม่หาย กินยาอะไรก้อไม่หาย จนวันนึงน้าเราพาไปคลีนิกแถวบ้านหมอเลยลองฉีดยาคลายกล้ามเนื้อให้หลังจากนั้นเราก้อเริ่มกลับมาเดินได้ เราเริ่มทำหน้าที่แม่เต็มตัว เป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวมาตั้งแต่ท้องได้ 2 เดือนจนตอนนี้ลูกเรา อายุ 9 ขวบแล้ว ต้องขอบคุณครอบครัวที่คอยซัพพอตร์เรากับลูก ให้ความรัก คอยช่วยเหลือทุกอย่าง เราเลี้ยงลูกเองมีตากับยายช่วยเลี้ยงจนลูกเราไม่เคยขาดความอบอุ่นเลย ไม่เคยถามหาคำว่าพ่อเลย เพราะเราทำหน้าที่พ่อแม่ได้อย่างสมบูรณ์ ทุกวันนี้เราภูมิใจมาก วันนั้นเราตัดสินใจถูกแล้วที่เก็บเค้าไว้เพราะเค้าคือของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิต ถ้าไม่มีเค้าในวันนั้น วันนี้เราคงอาจใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปแล้ว ทุกวันนี้เหนื่อยแค่ไหน ท้อแค่ไหนก็ยังอยากมีชีวิตอยู่เพื่อลูก แค่เห็นรอยยิ้ม ได้หอมแก้มเค้า เราก็หายเหนื่อยแล้ว อยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อลูก #ขอบคุณที่เกิดมาเป็นของขวัญที่มีค่า #ขอบคุณที่เกิดมาเป็นบทเรียน บททดสอบให้แม่เข้มเเข็งและเดินไปข้างหน้าต่อได้ 👩‍👦

อ่านเพิ่มเติม

ประสบการณ์การเป็นแม่ของฉัน วันแรกที่ฉันรู้ว่าท้องไม่อะไรที่ฉันพร้อมเป็นแม่คนเลยสักอย่าง หน้าที่การงานของฉันก็ไม่มี แถมพ่อแม่ฝ่ายชายก็ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าฉันคบกับลูกเขา ซึ่งวันนั้นฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตดี เลยตัดสินใจบอกแม่ของตัวเอง ความที่แม่เลี้ยงเรามาในกรอบตลอด ไม่เคยออกนอกกรอบสักครั้งเดียว แต่ด้วยความที่อายุ24แล้วคิดว่าตัวเองโตพอที่จะเอาตัวรอดได้แล้วเลยทำให้ทำสิ่งที่พลาดมา จนผู้ใหญ่ฝ่ายชายรับรู้แล้วมาแต่งให้ถูกต้อง เราก็มองว่าฝ่ายชายดีมาตลอด จนเราท้องได้4เดือน ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดจากสิ่งที่เข้าไม่เคยทำกับเราเขาก็ทำจนชีวิตครอบเดินต่อไม่ไหวเพราะสงสารลูกในท้องที่แต่ละคนเป็นแม่อย่างเราไม่เคยได้กินของดีๆลงไปให้ลูกเลย มีตังค์ไปแฟนก็ของหมด เลยตัดสินใจกลับอยู่บ้าน ก็ได้รู้ถึงคำง่าแม่ต่อให้เราคิดว่าเราโตแค่ไหนคนสุดท้ายที่จะยืนข้างเราก็แม่อยู่ดี แม่กอดเราตั้งน้ำตา จนตอนนี้เราท้องได้8เดือนแล้ว แต่เดือนที่8เราก็ต้องเจอบททดสอบอีกด้านนึง ลูกเราแข็งแรงนะ แต่เราเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดตอน7เดือนย่าง8เดือน เราต้องนอน รพ. อยู่3วัน2คืน โดนที่ รพ. ห้ามญาติเฝ้า ตอนนั้นชีพจรเราเต้นเร็วมากก แล้วหัวใจลูกเราก็เต้นเร็วมาก เราหายใจไม่ทัน ลูกเราเสี่ยงขาดออกซิเจน ต้องให้ออกซิเจน สาเหตุที่เป็นแบบนี้เกิดจาก หมอให้ยาระงับ2เม็ดแล้วแต่ไม่ได้ผล หมอเลยให้ยาที่แรงที่สุดผ่านน้ำเกลือแต่ร่างกายรับไม่ไหว ตอนนั้นได้แต่นอนร้องให้ ในใจคิดว่าถ้าเราไม่ไหวจริงๆ ลูกเราจะรอดไหม ในใจท้อไปหมดแล้วพอหมอบอกเด็กเริ่มขาดออกซิเจน นอนน้องให้ตั้งคืน #สาเหตุที่เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดเพราะเราทะเลาะกับแฟนตลอด ขนานกลับมาอยู่บ้านแล้วเขายังตามมาทะเลาะจนเราเคลียดแล้วมีภาวะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด บอกแฟนแฟนก็ไม่เชื่อว่าเราโกหก# เราโดนหมอฉีดยากระตุ้นปอดเด็กไป4เข็มทุกๆ12ชั่วโมง แล้วยากินอีกหลายอย่าง หมอบอกถ้าจะเกิดก็เกิดแล้วแต่หมอไม่อยากให้เกิดเพราะกลัวปอดเด็กไม่แข็งแรง แม่ต้องโดนเจาะเลือดไปเซ็คอยู่ตลอดเพราะโดนทดลองยาไปเยอะเกิดแล้วหลายตัวด้วย เพราะร่างการเราต่อต้านยา สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านมาดูอาการต่อที่บ้าน กลับมาเล่าให้แม่ฟังว่า3วัน2คืน เราโดนอะไรบ้าง เรากับลูกเป็นบ้างตั้งน้ำตา ได้รู้รสชาติความแม่มากมายเลย ได้รู้ว่าที่เราพลาดมีลูกถึงลูกจะมาแบบเราไม่ได้ตั้งใจ เรากับพ่อของลูกไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราไม่มีงานทำ แต่พอเกิดเรื่องที่เสี่ยงกับชีวิต เราอยากให้ลูกอยู่ต่อ รู้สึกรักมากกว่าเดิมตั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า กลับมาก็ตั้งหน้าตั้งตาหาของบำรุงกินอย่างเดียว คิดอยู่อย่างเดียว16 สิงหาคม หมอนัดอีก ถ้าอาการยังไม่ดีแม่จะตัดสินผ่าแล้วนะ ลูกแม่ต้องแข็งแรงและตัวโต ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้บำรุงเท่าไหร่หรอก ตังค์ที่ได้มาก็ไปลงที่ของใช้ลูกเพราะงานไม่มีทำได้ตังค์คงโครงการต่างๆก็ตะย่อยซื้อจนเกือบแล้ว โชคดีที่พลาดแล้วยังมีแม่ที่บ้านค่อยซัพพอร์ตให้ทุกอย่าง ขนาดเข้า รพ. แฟนกับบ้านแฟนยังไม่เชื่อค่อยจับผิดตลอดเวลา แต่ก็ยังมีแม่ที่พร้อมอยู่ข้างๆทุกอย่างช่วยให้หายเครียดได้บ้าง

อ่านเพิ่มเติม

เราเพิ่งท้องลูกคนแรกค่ะ ตอนนี้ 30 week แล้ว แต่ระหว่างทางคือต้อง อึด อดทนมากจริงๆ ไตรมาสแรก : เราแพ้ท้องหนักมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ กินแล้วอ้วกออกหมด เบื่ออาหารทุกอย่างที่มี เบื่อคน เบื่อโลก เบื่อโซเชียล คือมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง เราไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น ไม่อยากเจอผู้คนเลย แม้กระทั่งสามีก็ไม่อยากเจอไม่อยากคุย สิ่งเดียวที่เยียวยาจิตใจเราได้ตอนนั้นคือน้องหมาน้องแมว ก็โชคดีที่มีพวกเค้าพาผ่านพ้นภาวะนั้นมาได้ 😻 ไตรมาสที่สอง : พออายุครรภ์ได้ 4 เดือนกว่าๆเริ่มหายแพ้ท้องกินได้เยอะขึ้น เริ่มอยากเจอผู้คน แต่ดีขึ้นไม่ทันไร ประมาณวีคที่ 21 เราปวดท้องข้างซ้ายหนักมาก เลยไปหาหมอ ปรากฏว่าเจอก้อนซีสต์ขนาด 4.7 ซม อยู่ในรังไข่ด้านซ้าย ซึ่งเราไม่รู้ตัวมาก่อนเลย แล้วหมอบอกว่าซีสต์มันน่าจะเหวี่ยงแล้วทำให้เกิดการบิดขั้วของปีกมดลูก ซึ่งเป็นเหตุทำให้ปวดท้อง หมอให้เราแอดมิดทันทีเผื่อต้องผ่าฉุกเฉิน แต่เช้ามาอาการปวดเราดีขึ้นไม่รุนแรงเท่าตอนแรก หมอเลยให้นอนดูอาการอีก 2 คืน เผื่อเกลียวที่บิดมันคลายออกก็จะได้ไม่ต้องผ่า เพราะการผ่าก็มีโอกาสแท้งหรือเด็กคลอดก่อนกำหนด 😭😭 แต่ในที่สุดหมอตัดสินใจขอผ่า เพราะอาการปวดท้องเราไม่หายขาดหลังจากนอนนิ่งมา 3 คืน หมอบอกว่าถ้าเกิดการบิดขั้วรุนแรงขึ้นมาอีกจะลำบาก ยิ่งท้องโตยิ่งผ่าลำบาก หรือถ้ามันบิดขั้วจนเลือดไม่เดิน จะทำให้ปีกมดลูกเน่าและติดเชื้อในช่องท้องซึ่งอันตรายต่อลูกมากกว่า เราปรึกษากับครอบครัวทุกคนลงความเห็นว่าควรผ่าเลยต้องยอมผ่า ✌🏻✌🏻✌🏻 การผ่าตัดต้องใช้วิธีบล้อคหลังเท่านั้น ดมยาไม่ได้เพราะจะเอฟเฟคกับลูก หลังผ่าตัดเราเจ็บแผลมาก เพราะหมอไม่สามารถเปิดแผลได้กว้าง เลยต้องถ่างแผลเยอะ หมอตัดเอารังไข่ทิ้งไปเลยเพราะไม่มีเวลาเลาะเอาแต่ก้อนซีสต์ออก หมอต้องรีบเปิดแผลและปิดแผลให้ไวที่สุดเพื่อความปลอดภัยของเด็กในท้อง พอมานอนที่ห้องพักฟื้นเราโดนฉีดยาเยอะมาก ทั้งยากันแท้ง ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด และยาที่ฉีดให้กล้ามเนื้อคลายตัว เพราะหลังผ่าตัดเรามีอาการท้องแข็ง บีบเกร็ง มีภาวะเหมือนคนใกล้คลอด เค้าเลยต้องฉีดยาตัวนี้ให้เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายออก ซึ่งต้องฉีดทุกๆ 4 ชั่วโมง ซึ่งยาที่ฉีดเข้าไปคือแสบมาก เราฉีดจนหัวไหล่พรุนหมดเลย ฉีดแล้วใจเต้นแรง ใจสั่นมาก เราโดนฉีดยาตัวนี้ไป 2 วันเต็มๆ ทรมานสุดๆ แต่ก็สู้เพื่อลูก บอกลูกเสมอว่าให้สู้ไปกับแม่นะ ทุกวันพยาบาลต้องคอยมาฟังเสียงหัวใจเด็กว่ายังเต้นอยู่มั้ย วันไหนที่หาหัวใจลูกลำบาก แม่นี่ลุ้นสุดๆ สุดท้ายนอน ร.พ.ไป 10 คืนถึงได้กลับบ้าน และอีกเรื่องที่ดีคือหมอแจ้งว่าก้อนเนื้อนั้นไม่ใช่ก้อนเนื้อร้ายเป็นแค่เดอร์มอยซีสต์ แม่เลยโล่งไปอีกเปราะ 😌😌 พอกลับมาอยู่ก็ต้องระวังเพราะจะมีอาการท้องแข็งอยู่เรื่อยๆเป็นผลจากการผ่าตัด ยืนเยอะ นั่งเยอะ ก็ท้องแข็งแล้ว ต้องนอนเป็นหลัก จนตอนนี้เข้าไตรมาสที่ 3 แล้วก็ยังเป็นอยู่ บวกได้เบาหวานมาเพิ่มด้วย ต้องมาเจาะเลือดดูน้ำตาลเองทุกวัน แต่แม่ก็จะสู้สุดใจเพื่อรอเจอหน้าตัวน้อยคนเก่ง อีก 2 เดือนก็จะได้เจอกันแล้ว ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ 😍🥰

อ่านเพิ่มเติม

ท้องแรกตอน22ปี ไปฝากครรภ์ตอน15+5วีค หมอด่ายับ ว่าฝากช้า ช้าจริงอะเน้าะ. 1พฤษภาคม คนเฒ่าคนแก่ เขามาคุยกัน ตกลงกันไม่ได้ มันก็เรื่องของผู้ใหญ่ไป พ่อน้องกับแม่ แยกกันอยู่ แม่ก็อยู่บ้านแม่ ทางญาติพ่อน้องไม่ชอบเรา แต่แตกต่างจากพ่อแม่เรา พี่เรา มีแต่ให้กำลังใจ แรกๆก็ร้องไห้บ่อย กินไม่ค่อยได้ พอท้อง5เดือน หมอบอกว่า ทานเยอะๆน๊าคุณแม่ นน.400กรัม น้องแข็งแรงดี ในสมองมันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เราต้องกิน ต้องหาของมาบำรุงเพื่อลูก พ่อแม่พี่สาวเราคอยซัพพอร์ทอยู่เสมอ พี่สาวคอยซื้อนม แอนมมันมาให้ และยังโอนเงินให้ซื้อนม พ่อแม่ก็คอยหาของที่อยากกิน อยากกินอะไรก็ได้กิน แตกต่างจากทางเขา ซื้อดีน่างาดำมาให้กิน แม่เป็นที่กินอะไรที่ผสมงาดำไม่ได้ แม่เราก็บอกว่าหน่อยลูก เราก็บอกว่าได้ พอหมดกล่องเดินไปทิ้งกล่องนมเท่านั้นแหล่ะ ออกหมดเลยจ้าา อวกเป็นอะไรที่เหนื่อยสุด แต่เวลาลูกดิ้น😍เป็นอะไรที่มีความสุขมากเลยค่ะ ไปหาหมอ ไปฝากครรภ์ ไปคนเดียวตลอด 28วีค ดิ้นอย่างกับวิ่งมาราทอน😂 32วีค แม่เริ่มเตรียมเสื้อผ้า ซื้อตู้มทีเดียว เกลี้ยงกระเป๋า (ทยอยซื้อได้ทยอยเลยน๊าแม่) 35+5วีค😘แม่ไปซาวด์อีกครั้ง เดินก็อุ้ยอ้าย หมอบอกน้องเป็นผู้หญิง น้องแข็งแรงดี ดิ้นดี แต่ช่วงนี้ใกล้คลอดแล้ว คอยนับการดิ้นของน้องดีๆนะคะ 36วีค แม่ซักเสื้อผ้า ซักมือ โคตรเหนื่อยเลยค่ะ 37+5วีค เป็นวันที่แม่คลอดน้อง แม่ปวดท้องตั้งแต่ตี4 แม่คลอดจริง15:31น. คนที่มาให้กำลังใจแม่ ยกกันมาทั้งบ้านเลย ที่อยู่กับแม่ตลอดเวลาคือแม่เรา พอออกจากโรงบาล คนมาผูกแขนลูกเราเยอะเลย ทั้งซื้อเสื้อผ้ามาให้ เลี้ยงลูกคนเดียว ทั้งหาเงิน ซักผ้า ทุกอย่างที่เป็นลูกคือทำหมด และรับมือกับคำพูดของคน ลูกตัวเล็กจัง ทำไมไม่ป้อนข้าว โอ๋ลูกจัง หนักสุดคือ แม่เกิดความเครียดสะสม ร้องไห้บ่อยขึ้น รู้สึกอยากตาย ชีวิตไม่มีความสุข อยากผูกคอตาย อยากกระโดดน้ำตาย เบื่อ ไม่อยากคุยกับใคร อยากอยู่คนเดียวในที่มืดๆ น้องสาวเลยพาแม่ไปหาหมอ ไปคุยกับ จิตแพทย์. หมอให้ทำแบบทดสอบ เข้าข่าย โรคซึมเศร้า หมอก็ให้คำแนะนำ พอ1สัปดาห์. ไปหาหมออีก ทำแบบทดสอบอีกเช่นเคย หมอก็บอกว่า แม่เป็นซึมเศร้าหลังคลอด แม่รักษาโรคนี้ มันดีขึ้นตามลำดับ รักษาอยู่1ปี ถึงหายถึงหยุดยา ถ้าแม่ไม่รีบปรับอารมณ์ มันจะเป็นมากขึ้น ชีวิตจะพัง อาจจะเป็นบ้าไม่รู้ตัว พอแม่ปล่อยวาง มันคิดบวกมากขึ้น ยิ้มเร็ว มีความสุขเร็ว โรคก็หายเร็ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา กว่าจะผ่านมาได้ สาหัสทุกวัน ตลอด1ปี สู้ ทน หายเงินให้ลูกกิน หาคนเดียว เลี้ยงลูกคนเดียว จนถึงปัจจุบันนี้ น้อง1ขวบ10เดือน15วัน เลี้ยงคนเดียวมาตลอด เขาให้เงินมาบ้าง1พันบ้าง5ร้อยบ้าง2พันบ้าง ไม่ทุกเดือน ถ้ามีก็คือให้ ถ้าไม่มีก็ไม่ได้ยื่นให้ #ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงใครจะว่าเราเลี้ยงลูกไม่ดีลูกตัวเล็ก แม่คิดว่า ช่างเขา เขาไม่ได้มาเลี้ยงกับเรา ไม่ได้หาเงินให้เราใช้ (สู้และทนเพื่อลูกต่อจ้า✌ถึงแม้อิเจ๊โควิดจะไม่ซาลงสักที😂) #ประสบการณ์คร่าวๆ ยาวหน่อย ขอบคุณที่อ่านจบค่าา😘✌

อ่านเพิ่มเติม

การที่เราได้เป็นเเม่คนคนนึง เหมือนว่าเรามีบุญมากขนาดไหน ท้องเเรกได้ลูกสาวค่ะ ดูเเลเรื่องอาหารการกิน จะเดินจะเหินไปไหน ระวังทุกฝีก้าว ไม่ว่าจะตอนทำงานหรือตอนอยุ่บ้าน เเต่มีเหตุการณ์ไม่คลาดฝันว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเรา วันนั้นฝนตกลื่นตกบันได เเต่ไม่มีบาดเเผลอะไร ตกกลางคืนช่วงเวลาตี3 ปวดท้องมาก เลือดออกด้วย ไปโรงบาลตอนตี5 เจ็บท้องเหมือนปวดอึเลือดก็ออกด้วย หมอตรวจเเล้วต้องรีบทำการคลอดด่วน เบ่งเท่าไรก็ไม่ออก หมอฉีดยาเร่งให้เป็นระยะๆ รวมฉีดยาเร่งทั้งหมด4เข็ม คลอดน้องออกมาตอนเวลา11.03น. ความรู้สึกตอนนั้น คิดอย่างเดียวว่าลูกเราจะไม่เป็นอะไร คลอดน้องก่อนกำหนด โชคดีที่ได้อบเเค่8ชั่วโมง น้องปกติดีทุกอย่าง อยู่โรงบาล2คืน3วัน ก็ได้กลับบ้าน เลี้ยงเเละดูเเลเขาเป็นอย่างดี ไม่เคยปล่อยให้ห่างสายตาเลยค่ะ น้องมีครอบครัวที่อบอุ่น พ่อเเม่ปู่ย่ายายคอยดูเเลอย่างดี เลี้ยงเหมือนลูกผู้ดีก็ว่าได้ค่ะ จนอายุได้3ขวบกว่าๆ ให้เขาได้เรียน คุณครูใจดีมากค่ะ เเรกๆก็มีร้องไห้บ้าง เเต่นานๆไป กลับกลายว่าชอบไปโรงเรียนค่ะ เราเเละลูกเเละเเฟน ก็ใช้ชีวิตกันปกติมีความสุขดีค่ะ จนลูกสาวอายุ6ขวบเต็มเมื่อวันที่3ธันวาคม2563 มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับน้อง น้องปวดท้อง เเม่พาไปหาหมอ หมอบอกว่าน้องเเค่เป็นโรคกระเพาะ หมอก็จัดยามาให้กิน น้องก็ดีขึ้นค่ะ เดินลงบันไดไปเล่นห้องปู่กับย่าได้ เหมือนน้องหายเเล้ว เเต่ตกกลางคืน ประมาณเวลาเที่ยงคืนกว่าๆพาน้องเข้าห้องน้ำฉี่ เเล้วพาน้องมาขึ้นที่นอน อยู่ๆน้องก็ตาเหลือก หายใจเเผ่วลง เรเห็นเเล้วตกใจมากเรากับเเฟนรีบพาน้องไปโรงบาล เเต่ไม่ทันค่ะ น้องสิ้นใจบนรถก่อนถึงโรงบาล5นาที เราเรียกลูกตลอดทางไม่ให้ลุกหลับเเต่เราทำไม่ได้(พิมพ์ไปร้องไห้ไป)หมอช่วยปั้มหัวใจอยู่1ชั่วโมง เเต่หมอมาเเจ้งว่าน้องไม่กลับมาเเล้ว หัวใจคนเป็นเเม่สลายเข่าทรุดร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ขอร้องหมอให้ช่วยปั้มอีก เรามันไม่ดีใช่มั้ยคะ เลี้ยงลูกไม่ดีพอใช่มั้ยคะ เราไม่สมควรเป็นเเม่ใช่มั้ย หมอชัณสูตรว่าน้องเป็นลำไส้กลืนกัน น้องเสียวันที่31ธันวาม2563 ปีใหม่พอดีเลยค่ะ นิสัยน้องเป็นคนร่าเริ่ง เข้ากับเพื่อนๆได้ง่าย ชอบเต้นชอบประกวด ถ่ายติ๊กตอกเองลงคลิปเองได้ด้วยนะคะ จนถึงทุกวันนี้เรายังทำใจไม่ได้เลยค่ะ เเต่พยายามจะไม่ร้องไห้หรือเคลียดค่ะ เพราะตอนนี้เราท้องได้5เดือนเเล้ว เเต่ก็งงๆอยุ่เหมือนกันค่ะ ตอนลูกสาวอยุ่ ขอลูกสาวว่าเเม่มีน้องได้มั้ย ลูกสาวตอบว่าไม่ได้ ถ้าเเม่มีน้องเดี๋ยวเเม่ไม่รักนู๋ เราคลอดลูกสาวคนเเรกไม่เคยคุมเลยค่ะตลอด6ปี ไม่กินยาคุมไม่ฉีดยาคุม เเต่ก็ไม่ท้อง หลังจากเสร็จงานลูกสาวได้เดือนเดียว มีอะไรกับเฟนเเค่ครั้ง2ครั้ง อยู่ๆก็ท้องเลยค่ะ เรารู้สึกว่าเเปลกมาก มีเเต่คนทักนะคะว่าลูกเรากลับมาเกิดเเล้ว เราก็คิดมาตลอดว่าจะดูเเลเขาให้ดีๆ เขาจะได้อยุ่กับเราตลอดไป

อ่านเพิ่มเติม

ประสบการณ์การเป็นแม่คนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ โดนคนดูถูกนินทาว่าอายุแค่นี้มีลูกมีผัวไวจัง แม่อายุ16ค่ะ ตอนนี้น้อง1เดือน1วัน ตอนนี้เรียนก็อุ้มท้องไปสอบไปเรียนด้วยโดนคนอื่นมองด้วยสายตาไม่ชอบ โดนมองไม่ดีแต่แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนท้องน้องได้4 เดือนโดนพ่อของน้องบอกเลิกโดนนอกใจ แม่นี่ร้องไห้ทุกวันจนคิดอะไรโง่ๆฆ่าตัวตายโดนใช้วิธีกินยาเกินขนาดแต่พอเข้าร.พ.กับคิดได้ว่าคนที่เป็นห่วง ดูแล และรักเราจริงๆมีใครบ้าง ผช.คนนั้นไม่ได้มาเดือดร้อนอะไรเลยไม่ได้มาดูแลหรืออะไรมีมาแค่เยี่ยมแล้วก็กับตอนที่เฝ้าเราอยู่เขายังแอบคุยกับคนอื่นอยู่เลยค่ะแม่เลยให้เขากับไปเรามาอยู่บ้านแฟนได้3ปีแล้วค่ะคบกันมา3ปีกว่าณ ปัจจุบันเราเคยทะเลาะกันเรื่องผย.หลายครั้งจนแม่บันทอนจะเลิกกันแต่ครอบครัวแฟนไม่ให้เลิกค่ะ เราออกจากรพ.มาแฟนเราคิดได้กับมาดูแลเราให้ความรักเราตามใจเราทุกอย่างเริ่มต้นกันใหม่จนมาท้องน้องได้9เดือน แม่ปวดท้องเตือนมา2วันปวดที่ท้องน้อยแต่ไม่ถี่ค่ะพอ2-3วันผ่านไปแม่ร้อยมะลิอยู่รู้สึกปวดท้องตั้งแต่เช้าวันที่12กรกฎาแม่อดทนเพราะปวดไม่ถี่และไม่มีรถไปหาหมอพอแม่ร้อยมะลิเสร็จเป็นเวลา12โมงกว่าๆแม่ปวดท้องถี่ขึ้นจึงโทรหาพ่อแฟนให้กับบ้านพาไปหาหมอไปถึงรอหมอแต่ปากมดลูกยังไม่เปิดพึ่งมาเปิด5โมง 1เซนแม่นอนปวดทั้งคืนปวดมากๆเลยค่ะมีแม่อีก2คนที่รอคลอดเหมือนกันแม่เห็นเขานอนสบายไม่ปวดแม่ก็พยายามไม่ร้องไห้ออกมาแต่มารู้อีกทีตอนคุยกันแม่เขารอผ่าคลอดทั้ง2คนมีแม่คนเดียวที่ปวดทรมานมากค่ะพอ7โมงหมอบอกแม่ว่าอดทนอีกนิดนะแม่ปากมดลูกเปิด8เซนแล้วจะทำคลอดตอน8โมงพอ8โมงจะ9โมงยังไม่มีหมอมาดูแม่เลยค่ะแม่ก็ปวดสุดๆจะร้องไห้เลยค่ะพอถึง9โมงกว่าๆหมอมาดูปากมดลูกเปิด9จะ10เซนแม่นอนรออีกค่ะมีหมอมาบอกว่าจะรอเบ่งดูไหมคะคือจะทำคลอดให้แม่แต่แม่ไม่มีลมเบ่งแม่ก็ลองดูเข้าไปในห้องคลอดไปถึงเจอรกขอแม่ก่อนหน้าที่มาคลอดใจแม่ตกไปที่ตาตุมเลยค่ะกลัวสุดพอถึงเตียงหมอให้เบ่งแบบเบ่งอึ้ อ่ะค่ะแม่ก็เบ่งยังไงก็ไม่ออกขาแม่สั่นสุดๆ กลัวๆสุด แม่บอกหมอว่าไม่ไหวใจจะให้ผ่าเลยค่ะแม่ไม่มีลมจริงหมอพยาบาลทุกมาช่วยแม่เบ่งหัวน้องออกมาแม่เห็นเพราะมีตู้กระจกแม่ไม่อยากเห็นแต่ก็มองเออจริงเห็นดำๆเเล้วแม่ก็เบ่งหมอกริบช่องคลอดแม่กลัวสุดๆในใจคิดถึงแต่ลูกมีลูกแล้วต้องอดทนจนน้องออกมา แม่ขาสั่นโล่งหมดเลยค่ะแต่ก็มากลัวตอนเย็บแผลมองแต่ลูกทั้งภูมิใจทั้งดีใจตอนแรกแม่เกือบได้ใช้เครื่องดึงน้องออกมาแต่สุดท้ายก็เบ่งน้องออกมาสำเร็จและสุดท้ายก็รู้ว่าชีวิต1ชีวิตมีค่ามากแค่ไหนทำให้รู้ถึงความรักและการเป็นแม่คนทำให้ผู้หญิงคนนึงได้dadyตัวน้อยๆออกมาอย่างสมบรูณ์ แม่กับน้องเกิดวันเดียวกันค่ะ13กรกฎาน้องชื่อของขวัญค่ะ น้องเป็นของขวัญสำหรับแม่🥺💖

อ่านเพิ่มเติม

ประสบการณ์การตั้งครรภ์ท้อง 2 นี้มันไม่ง่ายเลย เริ่มแรกพอรู้ว่าตั้งครรภ์ก็รีบไปหาหมอเพื่อฝาหครรภ์ทันที ตอนนั้นอายุครรภ์ได้ 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นมาเราก็ดูแลถนุถนอมเจ้าตัวเล็กเป็นอย่างดี แต่พอเข้าช่วงเดือนที่ 3 ระหว่าง 12 สัปดาห์ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ด้วยความที่เราเป็นบุคลากรทางการแพทย์ต้องเข้าเวร อดนอน เดินค่อนข้างเยอะพอสมควรแต่ละเวร ยิ่งมาเจอช่วงโควิด19 เรายิ่งทำงานหนักกว่าเดิม เราเดินทำงานจนมีเลือดไหลลงมาที่ขา นองเต็มพื้น วินาทีที่เห็นนั้นเราทำตัวไม่ถูกเลยยืนนิ่งน้ำตาไหลก้าวขาไม่ออก ได้แต่เรียกพยาบาลพี่ที่ร่วมงานเข้ามาช่วย หลังจากนั้นเราถูกส่งไปตรวจที่แผนกฉุกเฉิน รอหมอที่เราฝากครรภ์มาตรวจอัลตราซาวด์ คุณหมอบอกว่าน้องยังอยู่แต่เกือบจะหลุดแล้ว ตอนนั้นเราดีใจมากที่ลูกยังอยู่ คุณหมอเลยให้นอน รพ เพื่อให้ยากันแท้ง ให้นอนติดเตียงทำกิจกรรมทุกอย่างในท่านอนห้ามลุกจากเตียง ฉีดยากันแท้งทุก 4 ช.ม ทุกครั้งที่ฉีดยามันเจ็บมาก ใจคอไม่ดีใจสั่นมาก แต่เราก็ยอมอดทนทุกอย่างเพื่อให้เจ้าตัวเล็กปลอดภัย พอผ่านมา 9 วัน เราได้ออกจาก รพ พักอยู่บ้าน 7 วันมาทำงานเข้าเวรต่อ พอทำงานได้ประมาณ 2 สัปดาห์ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกคือคนไข้ที่ตึกที่เราดูแลติดเชื้อโควิด19 เราต้องกักตัวเพื่อตรวจ ในตอนนั้นเราคิดแค่อย่าเป็นเลย ถ้าเป็นลูกเราต้องแย่แน่ แต่โชคดีที่เราผลเป็นลบ เรากลับมาทำงานอีกครั้ง ทำงานได้ 3 วัน เดินเยอะมากเพราะคนไข้หนักเราไม่สามารถเลือกที่จะทิ้งคนไข้ให้ช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างได้ เราจึงช่วยคนไข้ทำกิจกรรมทุกอย่างเช็ดตัว พลิกตัว และผลที่ตามมาคือเรามีเลือดออกอีกครั้ง ท้องแข็งถี่มาก จนต้องนอน รพ เพื่อให้ยากันแท้งอีก จนตอนนี้ 25 สัปดาห์ เราก็ยังทำงาน ร่วมด้วยกับทานยากันแท้งทุกคืนก่อนนอน ทุกวันนี้แม่มีอาการเจ็บท้อง หน่วงท้องมากเพราะลูกอยู่ต่ำ แม่ต้องกินยาคลายกล้ามเนื้อทุกวันเพราะท้องแข็ง แล้วตอนนี้หน้าแม่ก็เต็มไปด้วยสิวที่ข้ึนมาเต็มหน้า ไม่มีที่ว่าง แม่เครียดมากเพราะเป็นคนหน้าไม่มีสิวเลยสักเม็ด แต่ต้องมาเป็นสิวทุกรูขุมขนแบบรับไม่ได้ มองกระจกไปร้องไห้ไป แต่แม่ก็บอกกับตัวเองเสมอว่าร่างกายนี้แม่ยอมเสียสละเพื่อให้หนู แม่จะยอมทนเจ็บ ทนทรมาน ทนใจสั่นทุกครั้งที่กินยา ทนดูหน้าตามี่แย่ๆ เพื่อแลกกับการได้เจอหน้าลูกของแม่คนนี้ แม่รู้ดียังไงหนูก็ต้องคลอดก่อนกำหนดเพราะคุณหมอแจ้งไว้แล้วว่าน้องพร้อมคลอดก่อนตลอดขอแค่คุณแม่ดูแลตัวเองดีๆ แม่ยอมทุกอย่างแล้วเกาะแม่ไว้แน่นๆนะเจ้าตัวเล็ก

อ่านเพิ่มเติม