เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน....คืนวันที่ 19 มี.ค.63 เรามีอาการปวดท้องคล้ายจะเป็นโรคกระเพาะ จึงได้กินยาและหลับไป จนกระทั่งเช้าวันที่ 20 มี.ค.63 ตื่นขึ้นมาก็ยังไม่หายปวด เริ่มท้องเสียและอาเจียน ปวดท้องมากขึ้น จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลได้มีการเจาะเลือดและตรวจฉี่ เรานั่งรอหมอเรียก ประมาณ 10 นาที จากนั้นได้เข้าพบหมอ หมอถามว่าประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่เท่าไหร่ เราบอกว่า 16 ก.พ. ซึ่งในใจก็รู้สึกแปลกๆ เพราะมีความกังวลอยู่เล็กน้อย ว่าจะท้องหรือไม่ สิ่งที่หมอให้ดูคือจอที่มีกราฟของค่าเลือดและผลของการตรวจปัสสาวะ ปรากฎว่าเราท้อง...แต่เป็นการท้องนอกมดลูกเพราะกราฟขึ้นผิดปกติ เราตกใจเล็กน้อย หมอบอกว่าต้องส่งไปโรงพยาบาลในจังหวัดที่มีเครื่องมือครบถ้วน เพราะหมอไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นอย่างอื่น วันนั้นเรารอรถโรงพยาบาลเพื่อส่งตัวไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง แต่อาการปวดท้องก็ยังอยู่และเริ่มรุนแรงขึ้น เราถูกส่งตัวมาที่ตึกสูตินารีเวช เพื่อใช้กล้องส่องดูภายในมดลูกว่าเป็นการท้องนอกมดลูกจริงๆหรือไม่ วินาทีนั้นเรากังวลใจมาก ทันทีที่หมอส่องกล้องเข้าไป พบว่าเรามีตัวอ่อนเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 cm. ในมดลูก และพบว่าเรามีซีสต์ก้อนเล็กๆสีขาวบริเวณปีกมดลูกข้างขวา หมอบอกว่าเราท้องจริงๆ ส่วนซีสต์ที่พบไม่อันตรายต่อลูกในท้อง แต่เรายังปวดท้องไม่หาย จึงนอนดูอาการหนึ่งคืน ตกดึกเราเริ่มมีไข้สูง อาการปวดท้องไม่ทุเลา หมอเฉพาะทางจึงมาดูอาการและบอกเราว่า อาจจะเป็นไส้ติ่ง จนกระทั่งเช้าอีกวันจึงถูกย้ายมาอีกตึกเพื่อดูอาการ เราปวดท้องมากจนทนไม่ไหว หมอบอกว่าไส้ติ่งน่าจะแตก จึงเข้าห้องผ่าตัด เนื่องจากเราท้อง จึงใช้วิธีการบล็อกหลัง เราอดข้าวอดน้ำอยู่ประมาณ 5 วัน มีแค่น้ำเกลือ กับฉีดยาฆ่าเชื้อทุกห้าชั่วโมง เรากังวลมากว่าจะมีผลกระทบกับลูกในท้อง หมอก็บอกว่าถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอดให้บอกหมอทันที เรานอนโรงพยาบาล 8 วัน แต่เราก็ผ่านมันมาได้ ลูกของเราเข้มแข็งมากตั้งแต่ในท้อง เราไม่เคยมีอาการแพ้เลย ลูกแข็งแรงและมีสุขภาพดี น้ำหนักตามเกณฑ์มาโดยตลอด อีกสองเดือนก็จะได้เจอหน้ากันแล้ว ♥️👩👦
#อยากเห็นคนเก่งของแม่ที่สุด #เราได้ลูกชายนะคะ #ในความโชคร้ายเรายังมีความโชคดีเสมอ