อยู่ไฟ

ส่วนตัว 2 ท้องที่ผ่านมา อยู่ไฟ และเลือกกินอาหารค่ะ ปัจจุบันท้อง 3 ก็คิดว่าจะทำเหมือนเดิม เราไม่หัวโบราณนะ ในเรื่องอื่น แต่เรื่องนี้ เราเจอกับตัวเลยคิดว่าอยู่ดีกว่า และมันไม่มีผลเสียอะไร แค่ไม่อยู่เร็วเกินไป เดี๋ยวมีโอกาสตกเลือด จากประสบการณ์ของตัวเอง บ้านเราเป็นคนค่อนข้างหัวโบรณ ตอนท้องแรก เราก็เชื่อหมอมาก หมอบอกให้กินได้ทุกอย่าง แต่พอกลับมาบ้าน แม่ห้ามนู้นห้ามนี่ ห้ามสะจนเราต้องแอบกิน เราไปกินหมูผัดพริกอ่อน วันนั้นรู้เรื่องเลยค่ะ จะเป็นลมดูลูกไม่ไหว หน้ามืด อุ้มลูกไม่ได้ ทั้งที่ก่อนท้องเมนูนี้เราต้องกินทุกวันจนติด และเรื่องอยู่ไฟ แม่ก็บังคับตลอดให้พยายามอยู่นะ แต่เราก็ชอบเอาออกเวลาแม่ไม่อยู่ (เราอยู่แบบไฟชุด) เช้าวันนึงตื่นขึ้นมา เมื่อ8 ปีที่แล้ว น่าหนาวยังหนาวอยู่ค่ะ ตัวแข็ง ลุกไม่ขึ้น ลูกก็ร้อง เราจะตื่นลืมได้แค่ตา แต่ลุกไม่ไหว มันแข็งทั้งตัว ประมาน 10 นาทีมันค่อยลุกได้ (อันนี้อาจจะมีเหตุผลที่วิทยาศาสตร์อธิบายได้) แต่เรากลัวไปแล้วค่ะ ส่วนตัวคิดว่า ทำก็ไม่ได้ลำบากใคร ทำๆไปเถอะ

ให้คิดกลับกันนะคะ การอยู่ไฟมีแต่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แล้วอีกหลายประเทศที่ไม่มีการอยู่ไฟเขาอยู่กันได้อย่างไรส่วนตัวคิดว่าการอยู่ไฟเหมือนการอบสมุนไพรทำให้แม่สบายตัวหรือผ่อนคลายมากขึ้นก็เท่านั้นคะ อย่างว่าคะบ้านเมืองเรามันมีแบบนี้มานานแล้ว แต่อย่าลืมนะคะสมัยนี้คลอดเองหมอเขาเย็บอยู่ไฟก็ทำให้แผลไม่แห้งสักทีคะ มีคนที่เคยอยู่ไฟไปหาหมอ เจอหมอว่าคะเพราะเขาเตือนแล้วให้แผลหายดีกว่านี้ค่อยอยู่แต่เขาเล่นอยู่ตอนออกจากโรงบาลได้ไม่เท่าไหร่ แผลที่เย็บเรยปริออกไม่แห้งไม่หายสักทีคะ

ไม่ได้อยุ่ค่ะ หลังคลอดหมอก็ไม่แนะนำให้ทานว่านชักมดลูกหรือยาที่เกี่ยวกับมดลูกทั้งหลายที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์ เพราะว่าลูกกินนมเราค่ะ เรากินอะไรเข้าไปลูกก็จะได้รับสารอาหารแบบนั้น ส่วนปัจจุบันนี้ เวลาหนาวก็จะหนาวกว่าชาวบ้านเขา บางทีหนาวสะบั้นจนปวดกระดูก เวลาร้อนก็ร้อนกว่าชาวบ้านเขาค่ะ ผุ้ใหญ่บางคนบอกว่าเป็นเพราะไม่ได้อยุ่ไฟค่ะ

เราจองแพคเกจอยู่ไฟค่ะ หลักๆคืออยากสปาผิว นวดผ่อนคลาย ขัดผิวบลาๆค่ะ พยาบาลที่ศิริราชก็แนะนำค่ะ เค้าบอกว่ามดลูกเข้าอู่ไว คุณแม่ได้ผ่อนคลายหลังอุ้มท้องมานาน พอเราอารมณ์ดี นมก็จะมา ลูกก็จะแฮปปี้ค่ะ 5555555 ถ้าทานยาตามที่หมอจัดให้หลังคลอด และไปตรวจหลังคลอด ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ไฟนะคะ

บ้านนี้อยู่ไฟค่ะแต่ไม่จุดเตาไฟเหมือนสมัยก่อนค่ะ. แค่สวมเสื้อผ้าขายาวขายาวใส่ถุงมือถุงเท้าใส่หมวก. ดื่มน้ำอุ่นดื่มน้ำขิงอุ่นๆดื่มน้ำสมุนไพรขับน้ำคาวปลา ทานแต่ของบำรุงน้ำนมไม่ทานของแสลง. อาบน้ำสมุนไพรอุ่นๆ ปิดผ้าม่านหมดไม่ให้โดนลม. อยู่แต่ในบ้าน. อยู่อย่างนี้หนึ่งเดือนค่ะ.

บ้านเราเขาให้อยู่ 1 เดือน เราออกบ้านตอนได้ 25 วัน ขับมอไซต์แว๊นไป7-11 ประมาณ 3 กิโล กลับมาอาการออกเลยค่ะ หนาวสั่น ตัวร้อนแต่เราหนาว ห่มผ้าก็หนาวถึงกระดูก ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือน โดนฝนบางทีก็ปกติ บางทีก็หนาว อาการไม่ได้แย่มาก เพราะยังอยู่ไฟช่วงแรกๆ ภูมิต้านทานก็พอมีอยู่ค่ะ

เราท้องนอกมดลูกสองครั้ง มีคนแนะนำให้อยู่ไฟแต่ไม่เคยอยู่เลยสักครั้ง จะมีอาการหนาวจับกระดูกเวลา ลมมาปะทะ อาการเย็นๆๆ จนทำกริฟแล้วแท้ง เลยลองอยู่ไฟแบบอบ อาการหนาวแบบนั้นหายไปเลย ลมมาปะทะ ก็เฉยๆๆ ตอนนี้ท้องได้ 36 w คลอดแล้วจะไปอบตัวแบบอยู่ไฟ

ท้องแรกอยุ่ค่ะแต่อยุ่ไฟไม่พอ มีแต่เทียวลุกไปดูลูก ตอนนี้เวลาหนาวก้อจะหนาวมากกว่าชาวบ้านเค้าหนาวจนเจ็บกระดูก ไม่ใช่ว่าหน้าหนาวแล้วเป็นน่ะมันจะเป็นบางครั้ง บางทีหน้าร้อนอาบน้ำมายังหนาวค่ะหนาวแบบสะท้านเลย

จากประสบการณ์ที่คุณแม่เล่าให้ฟังนะคะ เค้าจะรู้สึกหนาว แบบหนาวมากๆ ในขณะที่คนปกติไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย แทบจะร้อนด้วยซ้ำ เวลาไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ด้วยกัน เค้าจะพกผ้าห่ม ผ้าพันคอ ใส่ถุงเท้าไปตลอดค่ะ

ไม่อยู่ค่ะ ทานบาบำรุงเลือดหลังคลอด ทานแคลเซียมเสริม ดื่มนมเสริมแคงเศียม ทานอาหารธาตุเหล็กสูง ตอนนี้ลูก 10 เดือน เราไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ปวดหลัง ไม่หนาวสั่น ปกติดีทุกอย่างค่ะ ให้นมลูก น้ำนมเยอะมากๆๆๆๆ