แผลผ่าคลอด

แผลผ่าคลอดไม่ใช่เรื่องเล็ก ในอดีตนั้นการผ่าคลอดทางหน้าท้องมักจะผ่าตัดในลักษณะแนวตั้ง ปัจจุบันนิยมผ่าตัดในลักษณะแนวนอน ซึ่งคุณแม่จะมีรอยแผลผ่าคลอดเป็นแนวบิกินี่ โดยมีขนาดความยาวอย่างน้อยถึง 10 เซนติเมตร ก่อนผ่าคลอดเตรียมตัวอย่างไร เริ่มตั้งแต่ก่อนคลอด คุณแม่ที่ตัดสินใจผ่าคลอดหรือคุณหมอให้ความเห็นว่าควรผ่าคลอด ควรรักษาน้ำหนักตัวให้ดี อย่าให้น้ำหนักขึ้นมาก เนื่องจากเมื่อผ่าคลอดแล้วจะทำให้แผลติดยาก หากตั้งใจจะผ่าคลอด ควรต้องหาคนช่วยเลี้ยงลูกเตรียมไว้ระหว่างที่คุณแม่พักฟื้นหลังคลอด หากเป็นการผ่าคลอดที่วางแผนไว้ล่วงหน้า คุณแม่ควรทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่บริเวณที่หน้าท้องที่จะต้องรับการผ่าตัด และทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ โดยอาจขอผ้าห่ม ห่มคลุมร่างกาย เพื่อลดการติดเชื้อจากแบคทีเรียซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ สำหรับสิ่งที่คุณแม่กังวลใจมากอีกอย่างก็คือ แผลเป็นจากการผ่าคลอด ซึ่งเราหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลไม่ได้ แต่ป้องกันการเกิดแผลเป็นได้ การป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นหลังผ่าคลอดนั้น คุณแม่ควรเตรียมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดรอยแผลเป็น เอาไว้ตั้งแต่ก่อนคลอด เพื่อความมั่นใจว่าหลังคลอดแล้ว คุณแม่จะกลับมาอวดหน้าท้องเนียนเรียบได้ดังเดิม

ดูแลแผลหลังผ่าคลอดอย่างไร หลังจากผ่าคลอด เมื่อคุณแม่สามารถลุกขึ้นเดินไหว ควรจะพยายามขยับตัวเดินไปมาช้า ๆ เพื่อให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงจากการเกิดพังผืดที่มดลูก ในระยะ 3 เดือนแรก อย่ายกของหนัก อย่าออกแรงมาก ๆ หรือขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ ถ้าจะออกแรง ให้ออกแรงได้เท่าที่ไม่รู้สึกเจ็บ อย่าเพิ่งขับรถเองในระยะ 2 สัปดาห์แรก อย่าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ผ้าอนามัยแบบสอด จนกว่าได้พบแพทย์เพื่อตรวจหลังผ่าคลอดครั้งแรกไปแล้ว ไม่ควรงดอาหารจำพวกโปรตีน เนื้อสัตว์ นม ไข่ แม้คนโบราณจะเชื่อว่าห้ามกินของแสลงพวกไข่หรือนม แต่ก็ควรกิน เพราะโปรตีนจะช่วยให้แผลผ่าคลอดประสานเร็วขึ้น ไม่ควรเปิดแผลหรือให้แผลโดนน้ำ จนกว่าผลจะแห้งสนิท ถึงเปิดแผลได้ (ปัจจุบันคุณหมอจะปิดพลาสเตอร์กันน้ำให้อยู่แล้ว) ทาครีมที่มีวิตามิน E ตั้งแต่แผลปิดสนิท เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลเป็นนูนแข็งที่เรียกว่า คีลอยด์