เมื่อฉันต้องยุติการตั้งครรภ์ 19 สัปดาห์
จากกระทู้เดิมอันนี้ที่เราเคยตั้ง
จนมาถึงวันที่ผลน้ำคร่ำออก (รอผล 2 วัน) สรุปคือหมอบอกลูกเรามีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง
ลูกเราเป็นดาวน์ซินโดรม??
เหมือนสายฟ้าฟาด ถึงแม้จะทำใจมาบ้าง แต่ใช่ว่าจะรับได้ทั้งหมด เพราะลึกๆเรายังมีความหวังว่า ผลน้ำคร่ำจะออกมาปกติ หมอนัดเราเช้าวันพุธที่ 22 พค.62 เวลา 7 โมงเช้า คืนก่อนจะเช้า เราร้องไห้จนหลับไป เราไม่มีทางเลือก เรียกได้ว่าไม่มีทางเลือกเลยจะดีกว่า เช้าวันที่หมอนัด เราเดินทางไปรพ.2 คนกับสามี เรากลัว สามีจับมือปลอบใจเราไปตลอดทาง
พอไปถึงรพ.เราก็เข้าไปติดต่อเคาน์เตอร์ทำเรื่องแจ้งว่าแอดมิด
สักพักใหญ่มีเจ้าหน้าเข็นเราไปที่ห้องคลอด ให้เปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วให้เรานอนรอคุณหมอที่ห้องรอคลอด ระหว่างรอหมอสามีเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนได้ สักราวๆ 8 โมงเช้า คุณหมอเจ้าของเคสมา บอกจะเหน็บยาให้เรา สามีออกไปรอข้างนอก เหน็บครั้งแรก 8 โมง เหน็บไป 2 เม็ด คุณหมอบอกหลังจากเหน็บ พยายามไม่เข้าห้องน้ำราวๆ 2 ชม. และจะมีอาการหน่วงท้องเป็นระยะๆ เนื่องจากมดลูกบีบเพื่อให้น้องเคลื่อนตัวลงมา หมอบอกอีก 6 ชม.จะมาเหน็บใหม่ เวลาผ่านไปจนถึงบ่าย 2 คุณหมอเข้ามาเหน็บยาครั้งที่ 2 (ซึ่งครั้งนี้ไม่รู้ว่าเม็ด เราไม่เห็น) หมอถามเราเริ่มมีอาการหน่วงท้อง ปวดท้องบ้างหรือยัง
ระหว่าง 6 ชม.ที่ผ่านมา มีปวดเป็นระยะๆ แต่ไม่ถึงกับปวดมาก ปวดแบบทนได้อยู่ หมอบอกถ้าปวดจนทนไม่ไหว ให้บอก เพราะจะให้ยาแก้ปวดบรรเทา เหน็บครั้งที่ 2 ผ่านไป
หมอบอกวันนี้คงจะเหน็บให้แค่นี้ก่อนหมอไม่อยากให้ยาแรงเกินไป เร็วสุดอาจคลอดคืนนี้ หรือช้าสุดก็เป็นคลอดพรุ่งนี้ คืนแรกผ่านไปยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาการปวดท้องหน่วงๆก็ยังมีให้ปวดเป็นระยะๆ แต่ไม่มากเท่าไหร่ คืนนั้นมีพยาบาลเวรเข้ามาวัดความดัน เข้ามาวัดไข้ให้ตลอดทั้งคืน
เข้ามาถามว่าคุณแม่ปวดท้องบ้างมั้ยอยู่ตลอดเวลา (ห้องรอคลอดที่นี่ไม่ให้เฝ้านะคะ เราฝากที่เปาโลโชคชัย 4)
*เช้าวันที่ 23 พค.62* คุณหมอมา พร้อมถามเราปวดท้องบ้างหรือยัง เราบอกเหมือนเดิม มีหน่วงๆแต่ไม่มาก หมอเหน็บยาครั้งที่ 3 ตอน 8 โมง ให้ทานเช้าปกติ+เที่ยง (แต่ข้าวเย็นจะให้งดก่อน หลัง 5 โมงไปแล้วพยายามอย่าทานอะไรมากแม้แต่น้ำ) สามีเข้ามาหาช่วงเที่ยงเนื่องจากสามีเราต้องเคลียร์งานช่วงเช้าก่อน สามีอยู่กับเราถึงบ่าย 3 แล้วก็กลับไปทำงาน
หลังจากนั้นสักพักเราก็เริ่มมีอาการปวดแบบหน่วงๆท้องอยู่ตลอด สักราวๆเกือบๆ 4 โมงเราปวดฉี่เลยลุกไปฉี่กับกระโถนที่พยาบาลเตรียมไว้ให้ (พยาบาลไม่ให้เราเดินหรือลุกมาก กลัวลูกหลุดออกมาด้วย) พอจังหวะที่ฉี่กับกระโถนเสร็จ เดินมาที่เตียงกำลังจะล้มตัวลงนอน จังหวะนั้นมันปวดจี๊ดมาก ความรู้สึกมันจี๊ดลงไปถึงหัวหน่าวแบบเหมือนจะมีอะไรทะลุออกมา เราปวดมาก จนร้องกรี๊ดลั่นห้อง ร้องกรี๊ดจิงๆตอนนั้น ปวดแบบทนไม่ได้ เรากดออดเรียกพยาบาลกดรัวๆๆๆ พยาบาลวิ่งเข้ามาหลายคน
มีคนนึงประคองตัวเราแล้วบอกว่าให้คุณแม่ขยับตัวไปกลางๆเตียง ตอนนั้นเราปวดมาก ไม่มีแรงแม้แต่ขยับตัว พยาบาลบอกตั้งขา เราตั้งขาไม่ได้จิงๆ ปวดมาก ไม่มีแรงขยับตัวเลย
พยาบาลช่วยยกขาเราให้ตั้ง แต่พยาบาลก็บอกให้คุณแม่ช่วยยกด้วย
ความเจ็บปวดเริ่มรุมเร้า เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจิงๆ พยาบาลคนนึงล้วงเข้าไปในช่องคลอด บอกคุณแม่ช่วยเบ่งนิดนึง งั้นคุณแม่ก็จะเจ็บอยู่แบบนี้นะ เราปวดมาก ปวดจนไม่มีแรงจิงๆ เรากัวด้วย กัวไปหมดทุกอย่าง สงสารลูกด้วย มันเป็นความเจ็บ+ความกัวอย่างบอกไม่ถูก พยาบาลบอกเราเบ่งเหมือนคนปวดถ่าย เราบอกเราเบ่งไม่ได้เราไม่มีแรง สักพักพยาบาลก็ล้วงๆไปในช่องคลอด สักพักนึงมีเสียงดัง โพล๊ะะ!!
เสียงดังมากกก เหมือนลูกโป่งใส่น้ำแล้วโยนแตก แบบนั้นเลยย เวลานั้นประมาณ 4 โมง ปรากฏว่าไอ้ที่แตกคือน้ำคร่ำ จังหวะหมอเจ้าของเคสเข้ามาพอดี หมอบอกคุณแม่ช่วยเบ่งนะ
สูดหายใจเข้าลึกๆจนสุด ก้มหน้่าคางชิดอกแล้วเบ่ง เราพยายามทำอยู่ 2-3ครั้ง จนหมดแรง ยังนะ.. น้องยังไม่คลอด จนหมอบอกให้คุณแม่พักก่อน เด่วถ้าปวดอีกค่อยเริ่มเบ่งใหม่
จากนั้นพยาบาลก็มาเปลี่ยนผ้า เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าปูให้ใหม่ ตอนนี้ความปวดเริ่มบรรเทา ไม่ปวดแบบทรมาณเหมือนเมื่อกี้แล้ว ผ่านไปจนถึง 6 โมงเย็น หมอเข้ามาหาถามปวดมั้ย อยากเบ่งอีกมั้ย เราบอกตอนนั้นไม่ปวดแล้ว
หมอบอกงั้นหมอจะเหน็บยาให้อีกรอบ อาจจะคลอดคืนนี้ คืนนั้นผ่านพ้นไปอย่างปกติ ไม่มีอาการหรือทีท่าว่าจะคลอดเลย พยาบาลเข้ามาดู วัดไข้ วัดความดันให้ตลอด
*เช้าวันศุกร์ที่ 24 พค.62*
ช่วงเช้าพยาบาลเข้ามาเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตามปกติ วัดไข้ วัดความดัน ถามอาการเราว่ามีปวดท้องมั้ย เราบอกไม่เลย,ปกติ พยาบาลบอกนึกว่าจะคลอดเมื่อคืนละนะ พยาบาลบอกเช้านี้ยังคงต้องงดอาหารไปก่อน ราวๆ 9 โมงเศษๆ คุณหมอเข้ามาหาบอกเราว่านึกว่าจะคลอดเมื่อคืนแล้ว หมอบอกจะเหน็บยาให้อีกครั้ง พร้อมถามเมื่อวานน้ำคร่ำแตกกี่โมง เราบอกประมาณ 4 โมง คุณหมอบอกวันนี้ภายใน 4 โมงเย็นคุณแม่ต้องคลอดแล้วนะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณแม่จะเสี่ยงติดเชื้อในโพรงมดลูกเพราะน้ำคร่ำแตกแล้ว
ตอนนั้นเราเริ่มกัว กัวถ้าลูกไม่คลอด กัวความเจ็บปวด กัวทุกอย่าง สงสารลูกด้วย ราวๆซัก 11 โมง หมอเข้ามาขอตรวจปากมดลูก (ลืมบอกว่าหลังจากเหน็บยาที่ผ่านมา ปากมดลูกเราเปิดที่ 3 ซม.) หมอตรวจปากมดลูกแล้วบอกปากมดลูกยังเปิดเท่าเดิมคือ 3ซม. หมอบอกน้องขวางตัว ถ้าแบบนี้คุณแม่จะคลอดยาก ตอนนั้นเราเริ่มกังวล คุณหมอบอกขออัลตร้าซาวด์ดูว่าน้องอยู่ท่าไหน เครื่องอัลตร้าซาวด์ถูกเข็นเข้ามาในห้อง เราไม่กล้าดูที่หน้าจออัลตร้่าซาวด์เลย พอซาวด์ดูเสร็จ คุณหมอแจ้งน้องหัวใจหยุดเต้นแล้วนะ เราสงสารลูกมาก คุณหมอบอกจะเปลี่ยนจากยาเหน็บเป็นให้ยาเร่งคลอดทางสายน้ำเกลือแทน
คุณหมอบอกคุณแม่จะปวดหน่วงหน่วงทุก 3 นาที ปวดคลายๆ ยาเร่งคลอดโดสที่ 1 ผ่านไป (ให้ผ่านทางสายน้ำเกลือ) เวลาผ่านไปราวๆเกือบเที่ยง พยาบาลเข้ามาให้ยาเร่งคลอดโดสที่ 2 หลังจากนั้นประมาณราวๆ12.15 นาที แฟนเรามา เราบอกแฟนเราว่ายังไม่รู้สึกว่าจะคลอดเลย
แต่อาการมันจะปวดท้องหน่วงๆอยู่เรื่อยๆ อารมณ์เหมือนคนปวดท้องถ่าย คือจะหน่วงและจุกที่ก้น เราบอกแฟนเราว่าพูดกับลูกให้หน่อย บอกม่ามี้ไม่ไหวแล้ว แฟนก็เลยลูบท้องเราแล้วก็พูดกับลูกว่า "ป่าป๊ากับม่ามี๊รักหนู ขอให้หนูกลับมาเกิดเป็นลูกป่ะป๊ากับมามี้ใหม่ มามี๊เจ็บหนูก็เจ็บนะลูก"
พอสักพักเราก็เริ่มปวดท้อง ปวดแบบจี๊ดที่ก้น อารมณ์ตอนนั้นบอกไม่ถูกจริงๆว่าปวดถ่ายหรือปวดอะไร เราบอกแฟนเราว่าปวดท้องๆ รีบไปตามหมอให้หน่อย แฟนรีบวิ่งออกไปตาม
สักพักพยาบาลเข้ามาในห้องเราราวๆ 4-5 คน ตอนนั้นเราเริ่มปวดมาก
เราถามหาหมอที่เป็นหมอเจ้าของเคส เราว่าหมออยู่ไหน พยาบาลบอกเด่วมา พยาบาลคนนึงสวมถุงมือแล้วล้วงเข้าไปในช่องคลอดเรา แล้วบอกว่าตอนนี้น้องอยู่แค่ตรงนี้ละ (พยาบาลกดๆแถวๆบริเวณท้องน้อยเรา) คุณแม่จะลองเบ่งไหม เบ่งไม่กี่ทีน้องก็ออกละ คุณแม่จะได้ไม่ปวดทรมานด้วย
ตอนนั้นเรากลัวมาก เราเบ่งไม่เป็นจริงๆ เรากลัวว่าถ้าเราเบ่ง มันจะถ่ายท้องออกมาด้วย (เพราะเราไม่ได้สวน) พยาบาลบอกไม่เป็นไร อะไรจะออกก็ปล่อยให้ออกมาให้หมด
เราเลยลองพยายามกลั้นใจ
ทำตามที่พยาบาลบอก (ทั้งที่แทบจะไม่มีแรงจิงๆ) สูดลมหายใจเข้าให้สุด ก้มหน้าคางชิดอก แล้วเบ่งให้สุด ( เราหลับตาตลอด ไม่กล้าดูไม่กล้ามองอะไรทั้งสิ้น)
เราลองพยายามทำอยู่ 2-3 ครั้ง
เบ่งให้สุด ไม่ออก... พยาบาลเขาก็ช่วยลุ้น ช่วยบิวท์และทำเสียงเหมือนช่วยเราเบ่ง (ตอนนั้นหมอยังไม่มา น่าจะติดคนไข้ข้างนอก) พยาบาลบอกเบ่งอีกคุณแม่เบ่งอีก ตอนนั้นเรารวบรวมแรงฮึด เหมือนเฮือกหายใจสุดท้ายของเรา รวบรวมแรงทั้งหมดที่มีเบ่งสุดแรง สุดชีวิต.. 1-2-ซั่มม..!!พรวดด!!
คลอดแล้ว เราได้ยินพยาบาลบอกเวลา 12.53 น.ทันทีที่ลูกคลอด เราหายเจ็บทันทีเหมือนปลิดทิ้ง ตอนนั้นเราหมดแรงน้้ำตาเราค่อยๆไหล เราหายจากความเจ็บทรมาณจิง แต่ในใจปวดร้าวบอกไม่ถูกจิงๆ)
แต่... ยังไม่จบแค่นั้น
หมอเข้ามาตอนนี้พอดี ได้ยินเสียงหมอพูดกับพยาบาลว่าคลอดแล้วใช่ไหม แต่ยังไม่หมด หมอบอกเราต้องคลอดรกด้วย เราถามหมอว่ายังมีอีกหรอคะ? คือเพิ่งจะหายจากทรมาณตะกี้แหม๊บๆ หมอบอกไม่อย่างนั้นคุณแม่จะตกเลือดหรือต้องขูดมดลูก ต้องคลอดออกให้หมด
พยาบาลมาช่วยนวดๆบริเวณท้อง
แล้วคุณหมอก็ช่วยล้วงช่องคลอด เพื่อที่จะเอารกออก ตอนนั้นเราเจ็บมาก ไม่ต่างอะไรกับการคลอดเมื่อกี้
เราถามหมอว่าเราจะต้องเบ่งไหม
คุณหมอบอกช่วยเบ่งก็ได้จะทำให้คลอดรกได้เร็วขึ้น ความเจ็บปวดไม่ต่างอะไรกับการที่คลอดลูกเมื่อกี้เลย
แต่ทีมหมอและพยาบาลดีมาก ช่วยเหลือและให้กำลังใจเราตลอดระยะเวลาที่เราทำการยุติการตั้งครรภ์ คอยพูดให้กําลังใจ ไม่มีคำไหนที่ทำให้เรารู้สึกแย่เลย รู้สึกได้เลยว่าทีมหมอและพยาบาล ตั้งใจช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ ความเจ็บปวดและความทรมานจากการคลอดรกเสร็จสิ้นลงเวลา 13.10 น.
พยาบาลมาทำความสะอาดตัวเรา เช็ดตัวที่เป็นแต่เลือด ทำความสะอาดช่วงล่าง เปลี่ยนผ้าปู
เปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ผ้าอนามัยให้ ทีมพยาบาลช่วยเหลือดูแลเราดีมาก (ตรงนี้ขอบคุณมากจิงๆ) พอเราเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรเสร็จ สามีเดินเข้ามาหา มาลูบหัวมากอดเรา สามีบอกเราว่า "ไม่เป็นไรแล้วนะ มันผ่านไปแล้ว" สามีถามเราจะดูลูกไหม
เราไม่กล้าดู เราทำใจไม่ได้ สามีบอกดีแล้ว เราอย่าดูเลย เดี๋ยวเขาไปดูเอง
แล้วสามีก็เดินออกไป สักแป๊บสามีเดินกลับมา บอกว่ามีอวัยวะครบหม
บอกว่ามีอวัยวะครบหมดแล้ว
นิ้วมือนิ้วเท้า หูตาจมูกปาก
มีคิ้วแล้วแต่ผมยังไม่มี นิ้วมือนิ้วเท้าแขนขายาว สามีบอกว่าหน้าตาลูกเหมือนเค้า สามีบอกว่าดูลูกปกติมากเหมือนเด็กปกติ ดูไม่ออกว่าผิดตรงไหน เราบอกคงเป็นที่ภายใน และอายุครรภ์ค่อนข้างน้อยอาจจะยังดูไม่ออก แต่เพศไม่แน่ใจเพราะเห็นยังไม่ค่อยชัด (แต่หมอบอกน่าจะผช. น่าจะนะ) เราก็แอบงงว่าทำไมตอนเราเจาะเลือดตรวจ NIPT.บอกเป็นผู้หญิงแต่ไม่เป็นไร ไม่ได้ติดใจอะไร)
พยาบาลเข้ามาถามว่าคุณพ่อคุณแม่จะรับลูกไปจัดการพิธีเอง หรือฝากโรงพยาบาลเป็นธุระจัดการให้ ถ้าฝากให้โรงพยาบาลเป็นธุระจัดการให้เขาก็จะทำพิธีที่วัดแถวๆโรงพยาบาล
แล้วในวันทำพิธีคุณพ่อคุณแม่สามารถไปร่วมงานได้ เราเลยฝากให้โรงพยาบาลเป็นธุระจัดการให้
แล้วตัวเราจะไปร่วมในพิธีวันจริงอีกครั้งหนึ่ง เรานอนโรงพยาบาลอีกคืนนึง โดยย้ายไปนอนห้องพิเศษ
แล้วกลับบ้านในตอนสายๆของวันที่ 25 พค. หมอออกใบรับรองแพทย์ให้ 2 อาทิตย์ในการพักรักษาตัว และนัดมาติดตามผลอีก 1 อาทิตย์ถัดไป
*วัน ส ที่ 1มิย.2562 ที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์*
เจ้าหน้าที่นัดเจอเราที่วัดเพื่อทำพิธีราวๆเวลา 13:00 น.
ลูกของเราถูกบรรจุไว้ในกล่องกระดาษประมาณน่าจะลังเบียร์
เขียนติดหน้ากล่องว่าทารกเพศหญิง
บุตรของนางสาว.............
เกิดเมื่อวัน ศ ที่ 24 พฤษภาคม2562
เวลา 12.53 น. วันที่เราไปประกอบพิธีให้ลูก ก็มีคุณแม่อีกท่านหนึ่งที่ผ่านการยุติการตั้งครรภ์และมาทำพิธีเหมือนกันกับเรา บางทีเราก็ปลอบใจและให้กำลังใจตัวเองว่า ไม่ใช่มีแต่เรา ที่สูญเสียลูกอันเป็นที่รักไป จากการยุติการตั้งครรภ์ มีคนที่ยังประสบเรื่องราวเหมือนกันกับเรา แต่บางทีเราแค่ไม่รู้เท่านั้นเอง..?
พระได้ทำพิธีสวด เราและสามีถวายสังฆทานและกรวดน้ำพร้อมกันไปด้วย หลังจากที่พระได้สวดเสร็จสิ้นลง เจ้าหน้าที่บอกให้คุณพ่อพาลูกขึ้นไปบนเมรเผา วางดอกไม้จันทร์
แล้วทำพิธีเผา เป็นอันเสร็จสิ้น
เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่าหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว กระดูกก็ไม่ต้องเก็บเพราะน้องยังตัวเล็กมาก คงไม่เหลือชิ้นส่วนอะไรไว้มากนัก ขอแค่วันพรุ่งนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญอีกครั้งที่วัดแถวบ้านให้ลูก อย่าลืมก็พอ..
*อาทิตย์ที่ 2 มิย.2562*
วันนี้มาทำบุญให้ลูกอีกครั้ง ตรงวันพระพอดีด้วยเลย ป่ะป๊ากับมามี๊ขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี อยากให้ลูกรับรู้ไว้ว่า ลูกคือของขวัญและความตั้งใจของป่ะป๊าและม่ามี๊ ถ้าม่ามี๊ยังมีบุญได้อุ้มชูลูก
ถ้าเราสามคนยังมีบุญที่จะได้เกิดมาร่วมกันเป็นพ่อแม่ลูก แม่ขอให้ลูกกลับมาอยู่กับปะป๊าและมามี้ใหม่อีกครั้งนะ แม่ขอให้ลูกครบ 32 ประการทั้งทางร่างกายและสติปัญญา เพราะนั่นคือความปรารถนาอันสูงสุดของคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว ปะป๊ากับม่ามี้รักลูก ลูกจะอยู่ในความทรงจำของปะป๊าและมามี๊ตลอดไป ทุกวันนี้แม่ยังคงร้องไห้และคิดถึงลูกอยู่ตลอดเวลา อยากให้ลูกรู้ว่าป่ะป๊ากับม่ามี๊รักลูกสุดหัวใจ
❤️.... รักลูก.... ❤️
อีกสิ่งที่อยากขอบคุณ คือทีมแพทย์และพยาบาลรพ.เปาโลโชคชัย 4 มาก คุณหมอเจ้าของเคสคุณหมอพลากุล ระงับพิษ (ขออนุญาตเอ่ยนาม)
ดูแลให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดีและดีมาก
ถ้ามีโอกาสในการตั้งครรภ์อีกครั้ง จะกลับไปฝากครรภ์กับคุณหมอท่านเดิม ขอบคุณทีมหมอและพยาบาลจริงๆ.. จากใจแม่คนหนึ่ง??
Anonymous