มีแม่ๆที่ไม่กล้าฉีดวัคซีนโควิดเหมือนเรามั้งค่ะ

ไม่ฉีดและรอดมาตลอด โดยระวังอย่างเคร่งครัดค่ะ พกแอลตลอด ล้างซันไลด์ทุกอย่างที่เข้าตู้เย็น เข่น นมกล่อง ใครชวนสังสรรค์ เราก็ระวัง อีกอย่างคุณหมอบอกตอนนี้ติดก็อาการเหมือนไข้หวัดใหญ่รักษาตามอาการค่ะ ไม่ฉีดเพราะ ต่างประเทศตอนนี้เอฟเฟคคือ หัวใจวายกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะลิ่มเลือดซึ่งไฟเซอร์ออกมายอมรับแล้วว่ามีผลจริง ถ้าอ่านติดตาม journal ฝรั่งมีบอกไว้เยอะค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณเป็นผู้เสี่ยงเยอะไหม ไม่ประมาทช่วยได้เยอะค่ะ

เราท้องแรก เราฉีดค่ะถ้าฉีดลูกก็ได้ภูมิคุ้มกันไปด้วย เราฉีด ไฟเซอร์ครบ2เข็ม เข็มแรกตอนได้สองเดือนกว่าหรือ12สัปดาห์ค่ะอาการปวดแขนกล้ามเนื้อ ชิวมาก ละต่อมาก็ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตอน4เดือน อันนี้เป็นไข้หนาวสั่นปวดกล้ามเนื้อปวดตัว ตัวร้อนตรงแขนที่ฉีดไป1คืนละก็หาย ละต่อด้วยวัคซีนบาททะยัก คอตีบไอกรน อีก2เข็ม อันนี้ชิวๆค่ะ ตอนนี้7เดือนแล้วค่ะ แม่และน้องแข็งแรงดี ดิ้นเก่งมาก ป้องกัน ไว้ดีกว่า หรือถ้าติดก็ดีกว่าเป็นหนักนะคะ

ตอนท้องบ้านนี้ก็ไม่กล้าฉีดเหมือนกัน​ค่ะ​ คิดว่าตัวเองคงทำใจไม่ได้จริงๆถ้าเกิดเสียลูกไปหรึอ​อะไรงี้​ เลยพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้​ พอกำหนดคลอดแม่ติดโควิดค่ะ​ 🤣😭 ไม่รู้ติดมาจากไหนแต่คงติดจากโรงบาลนั้นเองเพราะแม่หยุดงานไปสักพัก​แล้วไม่ได้ไปไหนเลย​ แต่บ้านนี้โชคดี​ที่รู้ตัวทันตอนที่เชื้อมันน้อยมาก​ (ผลPCR 35.7) เลยได้ผ่าลูกแล้วรักษา​ก่อนที่จะเป็นไรมาก​ ลูกก็ปลอดภัย​ไม่ได้ติดจากแม่ค่ะ​

ส่วนตัวเราเราไม่ฉีดเด็ดขาด เพราะแม่เราเสียเพราะวัคซีนโควิด บางคนก็ไม่มีเอฟเฟคอะไรเลย คุณก็มีเอฟเฟคบ้าง คนรับไปเต็มๆอย่างเช่นแม่เราฉีดได้แค่ 12 วันเส้นเลือดในหัวใจตีบเกล็ดเลือดต่ำ ทั้งที่แม่เราเป็นคนแข็งแรงมากอายุแค่ 55 ปีเอง ตั้งแต่แม่เราเสียไปคนในครอบครัวเราไม่เคยคิดจะให้ลูกให้หลานฉีดอีกเลย ประสบการณ์จริงที่พบเจอมานะคะ ยังไงคุณแม่ก็ลองพิจารณาดู หมอก็ไม่มีสิทธิ์บังคับแล้วด้วย

เคยมีความคิดนี้เหมือนกันค่ะ จนกระทั่ง มานั่งคิดว่า ถ้าเราไม่มีวัคซีนในตัว มันจะทำให้เรามี เปอร์เซ็นต์ในการติดมากกว่าหรือป่าว เราติดไม่เป็นไร เเต่ลูกติดนิสิ มันน่าคิดใช่ไหมคะ ถ้าคุณแม่เกิดใกล้คลอดเเล้วถ้าตรวจขึ้นมาพบว่าแม่ติดโควิด แบบนี้คุณแม่ต้องย้ายไปคลอดที่โรงบาลสนามนะคะ จะทำอะไรก็ลำบาก ญาติเยี่ยมไม่ได้ด้วย พอรู้แบบนี้รีบไปฉีดเลยค่ะ สรุปคือไม่มีอาการใดๆหลังฉีด

ท้องแรกจ้าฉีดครบ2เข็ม ฉีดสูตรไขว้ หมอแนะนำให้ฉีด เพราะทำงานอยู่ในกรุงเทพ จำเป็นมากๆที่ต้องฉีด บ้านนี้ฉีดเข็มแรกซิโนแวคไม่มีอาการอะไร เข็ม2แอสต้าเป็นไข้2วัน กินยาพาราได้ลูกสาวดิ้นเก่งด้วย คุณแม่สบายใจมาก เพราะหมอบอกฉีดป้องกันไว้ดีที่สุด เพราะวัคซีนจะอยู่กับเราและลูกเราไปอีก1ปี ลูกได้ภูมิคุ้มกันตั้งแต่อยู่ในท้อง ถึงคุณแม่จะติดเชื้อก็ไม่อันตรายไม่ลงปอด แค่มีเชื้อเฉยๆ

ฉีดซิโนแวค+แอสตร้าไปค่ะ เพราะไม่รู้ว่าท้อง ตอนนั้นในท้องน่าจะได้1เดือน แต่ก็ผ่านมาด้วยดีค่ะ เข็ม2มีเอฟเฟคบ้างเพราะทำงานอดหลับอดนอน ฉีดดีกว่าค่ะ น้องจะได้รับภูมิจากเราไปด้วย อย่ากังวลค่ะแม่ เพราะหมอพยาบาลเค้าก็กลัวเหมือนกัน ล่าสุดคือไล่คนท้องไปฉีดวัคซีนเวลามาคลอดเค้าก็อ้าแขนรับแต่ถ้าไม่ได้ฉีดเลยคือเค้าก็นั่นแหละค่ะกลัว อันนี้คือรพ.ที่เราไปฝากท้องนะคะ

บ้านนี้แม่ทำงานในรพ.เลยต้องฉีดค่ะเพราะว่าเสี่ยงสูง เข็มแรกได้ซิโนแวคตอนอายุครรภ์แค่4สัปดาห์ แล้วก็ได้เข็มสองซิโนแวคตอนครบ12สัปดาห์แล้ว ได้บูสเตอร์ไฟเซอร์อีกเมื่อเดือนสิงหา คิดว่าแล้วแต่คนแล้วแต่ความเสี่ยงที่จะรับได้ค่ะ บ้านนี้หลังฉีดไม่มีอาการอะไร ลูกยังปกติดีแต่จะคอยนับลูกดิ้นตลอด เพราะกลัวมากว่าถ้าติดแล้วต้องกินยาอันนั้นคือยามีผลกับลูกแน่นอน

ตอนแรกบ้านนี้ก็ไม่กล้าฉีดค่ะ แต่คุณหมอแนะนำว่าควรจะฉีดดีกว่า ถ้าเกิดติดโควิดขึ้นมาอาการจะหนักกว่าคนทั่วไปค่ะ ปกติตั้งครรภ์อายุครรภ์แก่ๆ ก็หายใจลำบากอยู่แล้ว ถ้าติดโควิดยิ่งหายใจลำบากเข้าไปใหญ่ค่ะ บ้านนี้เลยตัดสินใจฉีดค่ะ ฉีดเข็มแรกซิโนฟาร์มตอน 33+3 ค่ะ น้องดิ้นปกติดีค่ะ มีปวดแขนนิดหน่อยค่ะ รอฉีดเข็ม 2 วันที่ 22 ก.ย.นี้ค่ะ

เราฉีด ตอนเข็มแรงตอนท้อง5เดือน กับเข็มสองตอนท้องแปดเดือน ก่อนฉีดเราทานยาละลายลิ่มเลือด ช่วงที่ท้อง ตั้งแต่เดือนที่3 กันภาวะแท้ง และครรภ์เป็นพิษ และมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน เราก็กลัวไม่กล้าฉีดเลยตอนแรก แต่ต้องก้าวข้าม เพื่อให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน เพราะอายุ35 โอกาสทึ่จะแพ้คือหนึ่งคนในแสนคน สรุปเราไปฉีดจนครบ และสบายใจมาก เพราะลูกได้ภูมิจากแม่ด้วย