26 ตอบกลับ
าลูกไม่ดิ้น จะเป็นอย่างไร การดิ้นของลูก เป็นสัญญาณบอกถึงการมีพัฒนาการทางร่างกายที่สมบูรณ์มากขึ้น หากคุณแม่ท้องพบว่า ลูกไม่ดิ้น ลูกดิ้นน้อย ลูกดิ้นผิดปกติไปจากทุกวัน หรือไม่แน่ใจว่าลูกดิ้นปกติหรือไม่ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อตรวจประเมินอย่างละเอียด และป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ได้ นพ.อดิศร อักษรภูษิตพงศ์ สูตินรีแพทย์ เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ประจำโรงพยาบาลพญาไท 3 ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการดิ้นของลูกเอาไว้ว่า เริ่ม นับลูกดิ้น หลังจากที่อายุครรภ์ครบ 28 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ลูกน้อยในครรภ์ จะมีการดิ้นที่สม่ำเสมอ เนื่องจากระบบสมอง และเส้นประสาทมีการพัฒนาดีแล้ว ในการนับลูกดิ้นนั้น สิ่งที่จะนับว่าเป็นการดิ้น ได้แก่ การเตะ ต่อย ถีบ กระทุ้ง หมุนตัว ดัน และโก่งตัวครับ แต่ถ้าทารกในครรภ์สะอึก จะไม่นับว่าเป็นการดิ้นนะครับ ส่วน วิธีนับลูกดิ้น นั้น คุณหมอแนะนำไว้ว่า การดิ้น 1 ครั้ง จะนับ
วิธีนับลูกดิ้น สำหรับวิธีนับลูกดิ้นที่นิยมใช้กันมี 2 วิธี ดังนี้ครับ วิธีนับลูกดิ้นของ Cardiff (count-to-ten) นับการดิ้นหลังจากตื่นนอน ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า จนครบ 12 ชั่วโมง ถ้านับการดิ้นได้ น้อยกว่า 10 ครั้ง ภายใน 12 ชั่วโมง แปลว่าผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ วิธีนับลูกดิ้นของ Sadovsky นับการดิ้นหลังทานอาหารแต่ละมื้อ (เช้า, กลางวัน, เย็น) โดยนับการดิ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังทานอาหาร ถ้านับการดิ้นได้ 4 ครั้งขึ้นไป ภายใน 1 ชั่วโมง แปลว่าปกติ ถ้านับการดิ้นได้น้อยกว่า 4 ครั้ง ภายใน 1 ชั่วโมง ให้นับต่อไปอีกจนครบ 4 – 6 ชั่วโมง ถ้านับการดิ้นได้ 4 ครั้งขึ้นไป แปลว่าปกติ และติดตามการดิ้นหลังมื้ออาหารถัดไป ถ้านับการดิ้นได้น้อยกว่า 4 ครั้ง แปลว่าผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ ถ้านับการดิ้นทั้งหมดได้ น้อยกว่า 12 ครั้ง ต่อวัน แปลว่าผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์
ลูกดิ้นเพราะอะไร การที่ลูกดิ้นนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งโดยปกติแล้ว การที่ลูกดิ้น หรือการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์นั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกในท้องแข็งแรงดี และยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ถ้ามีภาวะเครียด เช่นขาดออกซิเจน การไหลเวียนของเลือดที่รกลดลง ก็จะทำให้ทารกเคลื่อนไหวน้อยลง หรือหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าการดิ้นของทารก เกิดจากการกดระบบประสาท หรืออาจเป็นเพราะร่างกายต้องการลดพลังงาน และออกซิเจน นอกจากนี้ การดิ้นของทารกตามปกติ ก็อาจจะเป็นเพราะลูกน้อยอยากบอกอะไรบางอย่างกับคุณแม่ เช่น
ลูกเริ่มดิ้นเมื่อไหร่ โดยทั่วไปแล้ว ลูกในท้องจะเริ่มดิ้น เมื่อมีอายุครรภ์ได้ประมาณ 16-20 สัปดาห์ ซึ่งการดิ้นของเจ้าตัวน้อยจะเป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องนานกว่า 20 วินาที เมื่ออายุครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ ทารกในครรภ์จะดิ้นประมาณ 200 ครั้ง ใน 12 ชั่วโมง และทารกจะดิ้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนอายุครรภ์ได้ 32 สัปดาห์ ทารกในครรภ์จะดิ้นประมาณ 575 ครั้ง ใน 12 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะดิ้นน้อยลงเรื่อยๆ จนเมื่ออายุครรภ์ 40 สัปดาห์ ทารกก็จะดิ้นประมาณ 282 ครั้ง ใน 12 ชั่วโมง
2. แม่จ๋าอย่ากวนหนู บางครั้ง ลูกอาจจะดิ้นมากในช่วงก่อน และหลังมื้ออาหาร ซึ่งคุณแม่ก็อาจจะเข้าใจว่าลูกหิว หรืออิ่ม แต่จริงๆแล้ว ด้วยความที่ลำไส้ที่ขดไปขดมานั้น อยู่ในตำแหน่งเหนือมดลูก บริเวณที่ลูกน้อยนอนหลับอยู่ เวลาเสียงท้องของคุณแม่ร้องเสียงดังรบกวนลูก หรือมีเสียงอาหารที่ถูกย่อย ทำให้ลูกน้อยที่นอนหลับอยู่ ตื่นขึ้นมาเพราะถูกรบกวน ลูกจึงดิ้นเพื่อบอกคุณแม่ว่าหนูไม่ชอบนะ นั่นเอง
ลูกดิ้นบอกเพศได้ด้วยนะ นอกจากวิธีอัลตราซาวด์แล้ว เชื่อกันว่า เราสามารถทำนายเพศลูก จากการดิ้นของลูกในท้องได้ด้วยนะครับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆมายืนยันถึงความแม่นยำของเรื่องดังกล่าว แต่หากคุณแม่ท่านใดจะลองทายเพศลูก จากการดิ้นของลูกในท้องดู ก็ไม่เสียหายอะไร และหากได้ผลแม่นยำหรือไม่อย่างไร ก็อย่าลืมมาแชร์ให้เราฟังกันได้นะครับ โดยวิธีการก็มีดังนี้
1. หนูตื่นแล้วนะ ลูกน้อยในท้องของคุณแม่หลายคน มักจะชอบดิ้นมากเป็นพิเศษในตอนกลางคืน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ใช้พลังงานน้อยลง จึงทำให้เลือดที่ออกมาจากหัวใจของคุณแม่ถูกส่งไปยังมดลูกมากขึ้น ลูกน้อยได้รับออกซิเจนมากขึ้น ลูกในท้องจึงเริ่มดิ้น เริ่มขยับตัวบิดขี้เกียจ หลังจากที่นอนคุดคู้อยู่ในท้องของคุณแม่มาทั้งวัน เพื่อบอกให้คุณแม่รู้ว่า “หนูตื่นแล้วนะ”
3. ลูกดิ้นแรง บางครั้งหากคุณแม่รู้สึกว่าลูกดิ้นแรงมาก หรือรู้สึกเหมือนกับว่าลูกกำลังเตะอยู่ในท้อง ก็อาจจะเป็นไปได้ที่คุณแม่จะมีโอกาสได้ลูกชาย เพราะทารกในครรภ์ที่เป็นผู้หญิงนั้นอาจจะดิ้นบ่อยกว่า แต่จะดิ้นเบากว่า ในขณะที่ทารกในครรภ์เพศชายอาจจะชอบดิ้นแรงๆ หรืออาจมีการเคลื่อนไหวแบบกระตุก หรืออาจจะชอบเตะเหมือนว่าเค้ากำลังเตรียมพร้อมที่จะเล่นฟุตบอล
2. ลูกดิ้นบ่อย หากว่าลูกในท้องดิ้นบ่อย ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณอาจจะได้ลูกสาว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทารกในครรภ์เพศหญิงมักจะมีความแข็งแรงกว่าทารกในครรภ์เพศชาย โดยมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนว่า โครโมโซม XX ของทารกเพศหญิงนั้นจะมีความคงที่กว่าโครโมโซม XY ของทารกเพศชาย จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทารกเพศหญิงดิ้นบ่อยกว่าทารกเพศชายนั่นเองครับ
3. หนูชอบนะ คุณแม่เคยสังเกตไหมครับว่า ลูกน้อยในครรภ์อาจดิ้นแรงเป็นพิเศษ หรือดิ้นถี่ๆ เวลาที่ได้ยินเสียง หรือเวลาที่คุณแม่ทำกิจกรรมบางอย่าง เช่นเวลาเปิดเพลง ร้องเพลง หรือเวลาที่คุณแม่เอามือลูบท้อง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าลูกน้อยมีการตอบสนองต่อกิจกรรมนั้นๆเป็นพิเศษ เวลาที่คุณแม่อารมณ์ดี ลูกในท้องก็อาจชอบใจ และอารมณ์ดีตามไปด้วยเหมือนกัน