มะเร็งปากมดลูก

สวัสดีค่ะตอนนี้เราคลอดลูกมาได้ 8 เดือนแล้ว และได้รับแจ้งว่าผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีเซลล์ผิดปกติ อยากมาขอคำแนะนำ หรือใครมีความรู้ หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มาแชร์กันหน่อยค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเราไปตรวจหลังคลอดตามปกตินี่แหละ (ตรวจเดือนกุมภา)พยาบาลก็ตรวจแผล ตรวจว่ามดลูกเข้าอู่รึยัง และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แล้วบอกว่าจะแจ้งผลภายใน 1 เดือน ตอนนั้นเราคิดว่ายังไงตัวเองก็ไม่เป็นแน่นอน เลยไม่ได้สนใจ จนมาต้นเดือนกันยามีโทรศัพท์โทรเข้ามาหลายสายมาก มีทั้งเบอร์โรงพยาบาลและเบอร์ส่วนตัวของพยาบาล (ตอนนั้นไม่ว่างเลยไม่ได้รับ) พอรับพยาบาลก็แจ้งว่าผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของเรามีเซลล์ผิดปกติ ให้ไปตรวจเพิ่ม แล้วพยาบาลก็ถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์เพราะผลออกตั้งแต่มีนาแล้ว เค้าโทรมาแจ้งแต่เราไม่ได้รับ (มารู้ทีหลังว่าเค้าโทรมาโดยใช้เบอร์ส่วนตัว 1 สาย) เราคิดว่าเรื่องสำคัญเร่งด่วนทำไมโทรมาแค่สายเดียว พอผ่านไปหลายเดือนพึ่งมาโทรตามหลายๆสาย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก โทษตัวเองมากกว่าที่ตอนนั้นไม่ได้รับโทรศัพท์และไม่เอะใจเลยไม่โทรกลับ วันต่อมาเราเลยไปหาหมอ (รู้ตอนนี้แหละว่าพยาบาลโทรมาตอนมีนา 1 สาย) หมอดุว่าเราทำไมไม่ติดตามผล ทำไมปล่อปละละเลยให้เวลาผ่านไปขนาดนี้ ตอนนั้นเราก็ใจเสียคิดว่าเราก็ไม่ได้ตั้งใจไม่รับแต่มีคนโทรมาแค่สายเดียว (เราไปดูประวัติการโทรย้อนหลังเดือนนั้นไม่มีใครโทรมาเลย มีเบอร์แปลกแค่เบอร์นี้เบอร์เดียวและสายเดียว) หมอซักประวัติและส่งตัวเราไปอีกโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ส่องกล้อง วันถัดมาเราก็ไปโรงพยาบาลที่หมอส่งตัวมา เราได้พบและพูดคุยกับคุณหมอ หมอบอกให้เราเล่าว่าเป็นอะไรยังไงถึงได้มาหาหมอ เราก็บอกว่าเราตรวจหลังคลอดแล้วผลออกมาว่ามีเซลล์ผิดปกติ เลยมาหาหมอ หมอถามว่าทำไมมาช้าพอเราบอกเหตุผลหมอก็เข้าใจ และบอกว่าเรื่องสำคัญเร่งด่วนพยาบาลควรโทรมาติดตามคนไข้ถี่ๆหน่อย แล้วอธิบายคร่าวๆให้เราฟังว่าเราต้องส่องกล้อง ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพิ่มเติม ยังไม่ได้ฟันธงว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ตอนนี้ให้เรากลับไปศึกษาเกี่ยวกับการส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อก่อนคร่าวๆ เราได้คิวอีกทีเดือนตุลา ตอนนี้เราค่อนข้างกังวลมาก เพราะที่ผ่านมาเราเริ่มคิดว่าร่างกายเราผิดปกติ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะหลังคลอดรึป่าว อาการคร่าวๆที่เราคิดว่าปกติ 1.หลังจากน้ำคาวปลาหมดตอนต้นกุมภา เราเหมือนมีประจำเดือนตอนเดือนมิถุนา 2 รอบ รอบละ 7 วัน หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ประจำเดือนเราไม่มาเลย (เราให้นมลูก และได้ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนตอนกุมภาครั้งเดียว) 2.หลังจากเดือนสิงหาเรารู้สึกปวดท้องน้อยเหมือนจะเป็นประจำเดือน 3.เราน้ำหนักลด จากก่อนท้อง 52 ตอนท้องใกล้คลอด 59 คลอดได้ 1 เดือน 49 ปัจจุบัน 44 เราไม่แน่ใจว่าที่น้ำหนักเราลดเพราะเราเลี้ยงลูกเองรึป่าว 4.เราเพลียบ่อย ไม่ค่อยมีแรง เรากินได้ตามปกติเลย อาจจะมากกว่าเดิมนิดหน่อย อยากสอบถามว่าแบบนี้เข้าข่ายที่จะเป็นไหม แล้วถ้าเป็นมันมีวิธีการรักษายังไง เรากังวลมากเพราะกว่าจะรู้ตัวเวลามันก็ผ่านไปค่อนข้างนานเป็น 6 เดือนเลย เรากลัวมันจะลุกลามและเป็นหนักกว่าเดิม

2 ตอบกลับ

จากที่อ่านข้อความข้างต้น บอกเลยค่ะตอนแรกนึกว่าเป็นตัวเองเหมือนกันค่ะ คล้ายมากแม่บ้านนี้อาการปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเลย ก่อนท้องไม่เคยตรวจภายในแต่พอหลังคลอดตรวจภายในเท่านั้นัแหละ ไม่ว่าจะตรวจแผลหลังคลอดเอยอะไรเอย ผิดปิกติทุกอย่างเลยค่ะ ทั้งที่แม่ไม่มีอาการไรร่วมด้วยสักอย่างปกติหมด แต่ก็ตรวจติดตามความผิดปกติมาเรื่อยๆ 2อาทิตย์ผลออกหมอนัดใหม่เรื่อยๆ ทั้งส่องกล้องทั้งตัดชิ้นเนื้อ จนวันที่8กันยาที่ผ่านมาผลออกมาแบบชัวร์ๆ ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะ1 ต้นๆ ได้ยินเสียงหมอโทมาบอกเลยว่าแทบช๊อก (อะไรกันว่ะเนี่ย!! มีลูกคนแรก แล้วลูกเพิ่งจะแปดเดือน ลูกกำลังน่ารักเลยเชียว ลูกกินนมแม่อีกต่างหาก ทำไมต้องมาอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย) แม่สับสนมากทำไรไม่ถูกร้องไห้อยู่พักใหญ่ตอนนั้นบอกเลยว่าไปไม่เป็นเลยค่ะ หมอให้เลือกวิธีการรักษามีอยู่2อย่างระหว่างตัดยกมดลูกออกกับตรวจติดตามอาการทุกๆ4เดือนเป็นระยะ2ปี แต่ถึงยกมดลูกออกก้ไม่การันตรีว่าจะหาย100% หมอยังต้องนัดดูอาการอีกเรื่อยๆ แม่นี่เครียดหนักมาก รับเรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆ แต่พอได้ปรึกษาครอบครัวเเล้วก็ได้เลือกวิธีที่2ค่ะ เพราะถ้าถึงตอนนั้นไม่หายจริงๆอาจจะต้องได้ยกมดลูกออก เพราะอนาคตข้างหน้าแม่ยังอยากจะมีลูกอีกคน รอดูผลอีกทีตอน12ธันวาค้า ระหว่างนี้พ่อบ้านนี้ก็ซื้อสารสกัดเซซามินให้แม่ทานเพื่อรอเวลาไปฟังผลอีกรอบจ้า แต่ตอนนี้สภาพจิตใจแม่เริ่มปกติแล้วค่ะ กำลังใจสำคัญที่สุด โรคนี้มันชอบความเครียด ยิ่งเครียดยิ่งแย่ ยิ่งเปนแบบนี้ยิ่งต้องคิดถึงหน้าลูกเยอะๆ แล้วแม่จะผ่านมันไปได้ค่ะ คิดถึงหน้าลูกเยอะๆ น่ะค่ะ สุดท้ายแล้วไม่ว่าเรื่องจะเลวร้ายแค่ไหนในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราต้อฃยอมรับแล้วอยู่กับมันให้ได้ สำคัญตรงที่ว่าเราจะรับมือกับมันยังไงไม่ให้สภาพจิตใจแย่ไปกว่าเดิม ถ้าคิดในแง่บวกจริงๆ มันดีมากเลยนะค่ะที่เรารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นกำลังใจให้นะค่ะแม่ ที่ออกมาแชร์มาเล่าประสบการณ์ ไม่ได้มีแค่แม่บ้านนั้นเท่านั้นนะค่ะที่เจอแบบนี้ ยังมีอีกหลายๆ คนเจอเหมือกันค่ะ บางคนเขาอาจจะเจอเยอะกว่าเราด้วยซ้ำไป สู้ๆน่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ✌️✌️

มาอัพเดตเพิ่มเติมค่ะ วันที่ 20 ตุลา ไปหาหมอ หมอบอกว่าเรามีรอยโรคค่อนข้างใหญ่และต้องรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการตัดปากมดลูกออกประมาณ 1 เซน หมอได้ถามว่าในอนาคตยังอยากมีลูกอีกรึป่าว เพราะผลข้างเคียงคือจะทำให้หากเราตั้งครรภ์ครั้งต่อไปมีโอกาสที่จะทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ พูดคุยกันว่าเรายังอยากมีอีกแต่ถ้ามันจำเป็นต้องรักษาเราก็จะเลือกรักษาให้หาย หมอเลยทำการตัดชิ้นเนื้อที่มีรอยโรคนั้นออกไป แล้วบอกว่าอีก 2 อาทิตย์ให้กลับมาดูอีกครั้งว่ายังมีเซลล์ผิดปกติขึ้นอีกไหม ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องตัดปากมดลูก แต่ถ้ายังมีอีกหมอจะตัดปากมดลูกเราออก ซึ่งจะทำให้ปากมดลูกเราสั้นลง เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งเราโอเคมากๆ และรู้สึกขอบคุณหมอที่ลองให้ทางเลือกและโอกาสกับเรา

รอผลตรวจค่ะ ส่วนตัวรู้จักน้าของเพื่อนแกเป็นมะเร็งปากมดลูก แกก็อยู่ได้นานนะคะ จากสมัยเราประถม จนตอนนี้เรา 27 ละ แกก็ยังแข็งแรงปกติเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้รอไปตรวจเพิ่มเติมค่ะ แต่ก็ยังแอบกังวลนิดหน่อย แต่หมอก็บอกคร่าวๆมาแล้วถ้าเป็นจริงๆสามารถรักษาให้หายได้ในกรณีที่ไม่ได้เป็นลุกลามค่ะ

คำถามที่เกี่ยวข้อง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง