คืนวันที่9สิงหา เวลาตีสาม เราเจ็บท้องแบบปวดๆหายๆ เหมือนปวดท้องประจำเดือน และก็มีมูกเลือดไหลออกมา เราก็ตกใจเหมือนกัน และก็กลับเข้าไปนอนต่อจนถึงเช้า พอเช้ามาก็รู้สึกปวดอีก เลยตัดสินใจไปโรงบาล พอไปถึงโรงบาลเค้าก็ให้เราไปเปลี่ยนชุดรอคลอด และจะมีผู้ช่วยหมอมาทำความสะอาดช่องคลอดเรา และก็วัดปากมดลูกว่าเปิดกี่เซ็นแล้ว ปากมดลูกเปิดได้สามเซ็นแล้ว และเค้าก็ให้เราไปนอนรอบนเตียง ให้น้ำเกลือเรา ให้เรางดอาหารงดน้ำ เราก็นอนปวดท้องทุรนทุรายโครตเจ็บปวดที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ไปรอหมอตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายโมง หมอก็มา และหมอก็มาวัดปากมดลูกว่าเปิดกี่เซ็น มดลูกเปิดได้ห้าเซ็น หมอบอกจะมาตรวจอีกบ่ายสาม และหมอก็มาวัดปากมดลูกอีก มดลูกยังเปิดห้าเซ็นเหมือนเดิม สี่โมงหมอจะผ่าคลอดให้ เค้าก็เสียบสายสวนปัสสาวะให้เรา และก็เข็นเราเข้าห้องผ่าตัด เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก กล้าๆกลัวๆแต่ก็อยากเห็นหน้าลูก ห้องผ่าตัดเย็นมาก และในห้องผ่าตัดมีหมอและผู้ช่วยหมอรวมแล้วประมาณสิบคน ถามเราเยอะมาก ถามพร้อมกันอีก เรานี่เบลอหมดละ และเค้าก็ทำความสะอาดหน้าท้องที่จะผ่าคลอด และก็จับแขนขา อุปกรณ์ไรเยอะแยะเต็มไปหมด และก็ให้เราดมยาสลบ และหลังจากนั้นเราก็ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกตัวอีกทียุห้องพักฟื้นละ ฟื้นมาตอนสองทุ่ม ยังเบลอๆมึนๆยาสลบยุเลย และเค้าก็เข็นเรามาห้องรวม รอดูหน้าลูก ลูกอบสองชั่วโมง และเค้าก็อุ้มลูกมาให้ พอเห็นหน้าลูกเท่านั้นแหละ ความเจ็บนี่หายไปเลย ดีใจที่เค้าปลอดภัย มีแขนขาอวัยวะครบ 32 พึ่งรู้ว่าการเป็นแม่คนมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง ก็แปลกใจกับตัวเองเหมือนกัน ว่าเราผ่านมาได้ไงว่ะ ไม่ชอบการผ่าตัด ไม่ชอบเข็มฉีดยา ไม่ชอบโรงบาล เป็นคนขี้กลัวมาก และอีกอย่างนึง ผ่าคลอดได้วันสองวันหมอก็ให้เราลุกเดินละ แถมยังอุ้มลูกและก็ให้นมลูกไปด้วย #ความเจ็บปวดที่งดงาม #และลูกก็คือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต #ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว #เรื่องที่เราอยากจะแชร์ก็มีแค่นี้แหละ #ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านจนจบ #ความสุขเล็กๆของผู้หญิงคนนึง ?
Somoo Naruemol