ประสบการณ์ผ่าคลอด
????อยากฟังแม่ๆมาเล่ามาแชร์กันหน่อยเร็ว
ยาวหน่อยนะคะ บ้านนี้ก่อนไป รพ.มีอาการ ปวดท้องตั้งแต่ 8 โมงเช้า มีมูกใสและคราบเลือดตอนค่ำๆ เที่ยงคืนเริ่มปวดทุก 5 นาที ไม่ไหวไปถึงตี 2 เข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจปากมดลูกเปิดกี่เซ็น เปิด 1-2 เซ็น หมอให้แอดมิท เข็นไปห้องรอคลอด ไม่ให้ญาติเข้าเลย ไม่ให้เอาอะไรติดตัวไว้สักอย่าง ตอนแรกว่าจะคลอดเอง พยาบาลเอายาสวนก้น ให้แม่ไปนั่งอึนานๆ อึให้สุด แล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โกนขนให้ ไปนอนรอฉีดยาเร่งคลอดทางสายน้ำเกลือ เจาะเลือดไปตรวจ เอาเครื่องมาให้กดนับลูกดิ้น เอาเครื่องมาตรวจที่ท้อง ตรวจปากมดลูก ถามว่าให้ความปวดท้องอยู่ที่ระดับไหน ให้คะแนนจากน้อยไปมาก 1-10 ระดับ ปากมดลูกไม่ยอมขยายเพิ่ม ลูกเริ่มดิ้นน้อยลง แม่เป็นเคสเฝ้าระวังตกเลือดและอื่นๆ เสี่ยงหลายอย่างมาก ตอนเที่ยงๆ หมอมาบอกแม่ว่าผ่าเนอะ เรียกสามีมาเซ็นอนุญาต แล้วก็เข็นเข้าห้องคลอด ใส่สายฉี่ นอนรอสักพัก เข็นเข้าไปห้องผ่า บล็อคหลัง นอนฟังหมอคุยกันชิวๆ ผ่าบ่ายเกือบบ่ายสอง ลูกร้อง 2 แอะ ทำความสะอาดลูกเสร็จ เอาลูกมาให้ดู ลูกจ้องแม่ตากลมบ๊อก ย้ายลูกไปห้องเด็ก ย้ายแม่ไปอีกห้อง เอาอะไรไม่รู้มาคุม สักพักร้อนๆ เหมือนอบปรับร่างกายไม่ให้หนาวสั่น ตรวจเสร็จช่วงเย็นๆ ก็เข็นออกจากห้องคลอด สามีและญาติ ก็เดินตามไปห้องพักฟื้น ให้นอนราบนิ่งๆ ห้ามหนุนหมอน งดน้ำงดอาหาร พอเที่ยงคืนเกือบตี 1 ก็เอาน้ำมาวางไว้ให้ลุกทานได้ พยาบาลเดินเข้าเดินออก วัดไข้ วัดความดัน เจาะเลือดไปตรวจหลายหลอดหลายรอบ เพราะแม่เลือดจางมาก วนไปวนมาทั้งคืน ตอนเช้าพยาบาลถอดสายน้ำเกลือและสายฉี่ออกให้ บังคับให้ลุกนั่ง และอธิบายเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง และข้อห้ามหลังคลอด แม่ก็ค่อยๆ จับราวลุกนั่งเอง อธิบายเสร็จ แม่ก็ค่อยลุกลงจากเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำเอง เดินไปดูลูกวนไปวนมาทั้งวัน ค่อยๆ เดินบ่อยๆ แล้วจะไม่เจ็บแผลค่ะ ตึงๆ จี๊ดๆ ตอนลุกนั่งนิดหน่อย ยิ่งนอนนานๆ ยิ่งเจ็บแผลกว่าเดิมมากค่ะ รพ.ที่คลอด ผ่าคลอดให้นอน 2 คืน เช้าวันที่ 3 เขาให้สามีไปทำเรื่องใบเกิดและชำระเงินค่าคลอด แม่ไปเรียนอบรมการเลี้ยงลูก เสร็จแล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ อ่อ พ่อน้องไม่สบายตอนแม่ใกล้คลอด ลูกติดหวัดทางลมหายใจแม่มาด้วยตอนอยู่ในท้อง ตอนอายุ 3 วัน ตรวจเจอปอดติดเชื้อ และค่าเหลืองเนื่องจากหวัดค่ะ ลูกอยู่ต่อ แม่กลับบ้านได้ ส่องไฟรักษาตัวเหลือง 1 วัน ให้ยาฆ่าเชื้อ 7 วัน ก็หายเป็นปกติดีค่ะ (หมอบอกว่าเป็นเพราะแม่มีประวัติซีดมาก เลยไม่ค่อยช่วยปกป้องน้องตอนอยู่ในท้องเท่าไหร่ค่ะ)
อ่านเพิ่มเติม
