187 ตอบกลับ
(ยาวหน่อยนะคะ) ที่อยากจะบอกคือ ขนาดเราจัดงานแต่งนะคะ ก็ไม่พ้นคนจะคิดหรือพูดลับหลัง คนจะพูดคือพูดค่ะแม่ แต่อย่าไปสนใจ เวลาจะพิสูจน์เอง เราแต่งช่วงโควิดนะแม่ งานเล็กๆ เชิญแค่ญาติ มีแต่คนมองว่าทำไมจัดเล็ก ไม่มีเงินมาจัดใช่ไหม (เราลาออกจากงานมาพักนึง ลงมาซ่อมบ้านให้แม่ และหางานแถวบ้านไปด้วยแต่หางานยาก ตอนนั้นเลยยังไม่ได้ พอบ้านเสร็จ แฟนเลยจะแต่ง เพราะชีวิตเราจะได้ไปโฟกัสจุดอื่นต่อ) และมีบางคนคิดว่าเราท้องก่อนแต่ง (ถามเราตรงๆเลยด้วยซ้ำ) ทั้งที่เราลงมาบ้านครึ่งปีอยู่กับครอบครัว แฟนอยู่ตจว. แต่คนที่ถามไม่รู้ ญาติก็ไม่ได้มาครบ คนแถวบ้านหลายคนก็ไม่ได้เชิญ เพื่อนที่มาก็น้อย ฝั่งเจ้าบ่าวก็ไม่มีใครมามีแต่เจ้าบ่าว (โควิดกลับมาระบาดเราห้ามครอบครัวเขาไว้เองเพราะอาจต้องมากักตัวหลายวัน กลับไปค้าขายก็ต้องกักตัวอีก เรากับครอบครัวฝั่งแฟนทำความเข้าใจกันแล้วค่ะ มีแต่คนรอบข้างไม่เข้าใจ และอธิบายไปก็ยังแอบไม่เชื่อ) คนก็มองเรื่องให้เกียรติ มองว่าหรือผช.มีคนอื่นซุกไว้ไหม ครอบครัวเขาเลยไม่มา สารพัดนะแม่ (วันงานแฟนตั้งมือถือวิดีโอคอลไลน์ง่ายๆกับครอบครัว) แต่แขกในงานหลายคนไม่รู้อยู่ดี ขบวนขันหมากก็ไม่ได้จัดเต็ม เลือกแค่ที่จำเป็น แต่เราเคยพูดกับญาตินะว่า คนรวย ดาราซุปตาร์ที่รวยมหาศาล มีเงินแต่งหรูหรา มีพิธีมงคลจัดเต็ม มีคู่ที่เลิกกันมากมาย ไม่มีอะไรการันตีค่ะแม่ว่ามีพิธีแล้วจะไม่เลิกกัน ก็แค่ทำให้ญาติฝั่งเจ้าสาวสบายใจ เราถ้าไม่ติดเรื่องครอบครัว จะไม่จัดงานแล้วด้วยค่ะ อายุ 30 กว่าๆแล้ว(ตอนจัดเลยไม่ได้จัดใหญ่หวังซองงาน) แต่ถ้าไม่มีโควิดก็อาจจะจัดอีกแบบ ส่วนเพื่อนที่ทำงานเก่าเราปล่อยท้อง (ยังไมได้แต่ง) แต่น้องยังไม่มาเลยค่ะ คนรู้จักอีกหลายคนที่เขาพร้อม ทั้งงาน เงิน ยังรอน้องมาอยู่เลย เสียเงินไปทำก็มากมายน่าเห็นใจ คนเราโชคชะตาต่างกัน (เราก็ขอให้เขาสมหวัง) จะไปคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ได้ แต่ยอมรับและอยู่กับปัจจุบันนะคะแม่ งานเราไม่มีรูปพรีเวดดิ้งเลยค่ะ เอารูปที่เที่ยวกับแฟนมาใช้ตกแต่งง่ายๆ ข้าวของก็สั่งออนไลน์มาทำเองจนคนรอบข้างกังวลตลอด แต่คุยกับแฟนแล้วว่าอนาคตถ้ามีน้องเราค่อยไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันเนอะ ไม่มีใครรู้อนาคตค่ะแม่ แฟนกับเราคบกันมาหลายปี เคยร้องไห้เลิกรา เพราะปัญหาเรื่องเงินมาก่อนเข้าใจค่ะ แต่เวลานี้แม่อย่าเครียด คิดเสมอลูกคือของขวัญค่ะ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ต่อให้ญาติเขาญาติเราสนใจหรือไม่ ลูกคือรักแท้ของเรานะคะ คิดแค่ว่าจะดูแลเขาให้เติบโตยังไงค่ะแม่ เลี้ยงเขาให้เป็นเด็กดี ญาติเราครอบครัวเคยลำบาก เลี้ยงลูกมาดีจนได้รางวัลแม่ดีเด่นจากชุมชน ลบคำสบประมาทไปโดยแกก็ไม่ได้คาดหวังไว้ ใครดีเราก็แค่ยินดีกับเขาค่ะ และพยายามทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นก็พอ มีลงก็มีขึ้นได้ค่ะ เราก็เคยผ่านช่วงเวลานอนร้องไห้เพราะหนี้ท่วมมาแล้ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อดทน กัดฟัน จนตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ สำคัญ ต้องเข้มแข็งนะแม่ สู้ๆ
ืขอเล่าเรื่องราวของตัวเองนะคะ ตอนนี้เป็นคุณแม่เต็มตัวแล้วค่ะ ลูกชายอายุ 1 ปี 1 เดือน ค่ะ เรื่องราวเกิดขึ้นตอนเมื่อ 3 ปี เราและสามีตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายค่ะยังไม่ได้แต่งงาน และมีคุยกันเรื่องแต่งงานกันว่าจะอะไรยังไงกัน แต่อยู่ด้วยกันก็ตัดสินใจปล่อยให้มีตัวเล็กเลยเพราะด้วยอายุเยอะทั้คู่ พอตัดสินใจแล้วก็ปล่อยธรรมชาติสรุปตัวเล็กมาเราตัดสินใจบอกบ้านพ่อแม่สามีแต่ยังไม่ได้บอกที่บ้านเรา พอผ่านไปท้องได้ 5 เดือนก็ตัดสินใจให้ที่บ้านสามีเข้าไปคุยแล้วจัดงานผูกข้อไม้ข้อมือตามประเพณี แล้วพอหลังจากนั้นตัดสินใจบอกที่บ้านว่าเราท้องค่ะ และพอคลอดน้องแล้วยังคิดว่าอาจจะจัดงานกันแต่พอคิดไปลูกชายครบ 1 ปีแล้วเราก็มีความสุขดีนะ ไม่เดือดร้อนอะไรเลยมีความสุขแบบฉบับบ้านเรา ขอแค่เรารักษาความรู้สึกครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย เท่านั้นก็พอแล้วค่ะ สิ่งที่เราคาดหวังคือการเลี้ยงเด็กน้อยให้โตมาแบบสมบูรณ์แบบในแบบครอบครัวเราค่ะ โดยไม่ไปเบียดเบียนหรือให้ใครเดือดร้อนทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทางออกนะคะคุณแม่สิงสำคัญดูแลทั้งร่างกายและจิตใจให้ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
ของเราก็วาดฝันไว้ว่าอยากมีงานเเต่งเหมือนกันค่ะ แต่พอเอาเข้าจริงๆเจ้าตัวเล็กมาสะก่อน ก็เลยจัดแค่เล็กๆใน 2 ครอบครัว ไปทานข้าวร้านอาหารกันญาติเขาญาติเรา แค่ญาติสนิทๆ มาทำพิธีให้ถูกต้อง ไหว้ขอขมาพ่อแม่ จ้างคนมาทำพิธี ไม่ได้จัดงานอะไรค่ะ ก็โอเคดีนะคะ อบอุ่นๆในครอบครัว ทำพิธีเสร็จก็ไปทานข้าวกันร้านอาหาร จบ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องจัดงาน ไม่เปลืองงบประมาณด้วยค่ะ ยิ่งด้วยช่วงนี้เงินทองค่อยข้างหายาก สำหรับใครที่มีกำลัง อยากจัดก็ไม่ผิดค่ะ แต่บ้านเรารู้สึกว่าเก็บเงินไว้ให้เจ้าตัวเล็กค่ะ สินสอดก็แค่มีไว้ในตอนยกขันหมาก จะได้ครบตามพิธี แต่สุดท้ายทางบ้านเราให้คืนหมดค่ะ เพราะถือว่าเป็นเงินเก็บของทั้งสองคน ให้ลูกๆไว้เลี้ยงตัวเล็กค่ะ เเละตอนนั้นแม่เเพ้ท้องหนักมากด้วยค่ะ เลยไม่อยากจัดงาน เพราะไม่น่าจะไหว สู้ๆนะคะแม่ เเค่ให้บ้านเขาไปพูดคุยกับบ้านเรา สู่ขอทำพิธีกันแบบง่ายๆ ขอขมาพ่อแม่ค่ะ สู้ๆนะคะแม่ เพื่อเจ้าตัวเล็ก จัดงานใหญ่โตไม่สำคัญเท่าคนสองคนประครองความรักและคำว่าครอบครัวไว้ให้ดีหรอกค่ะ การจัดงานไม่ได้การันตีความรักค่ะ ลองคุยกับทางบ้านดูนะคะ
ขอบคุณมากๆๆๆนะคะ สำหรับคำแนะนำดีดี กำลังใจดีดี ขอบคุณมากๆนะคะ 🤍🤍
ส่วนตัวเราเป็นคนไม่ได้คาดหวัง หรืออยากมีงานแต่งอยู่แล้วค่ะ ด้วยพิธีการ ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เราอาจจะติสแตกด้วยมั้งคะ 🤣 ครอบครัวเราเข้าใจในตัวของเราและความคิดของเราดีค่ะ แม่เรามักจะบอกอยู่เสมอว่า เอาที่หนูมีความสุข แม่แล้วแต่หนู ส่วนพ่อแม่แฟนอยากจะจัดให้ ถามย้ำอยู่หลายรอบ บอกงานเล็กๆก็ยังดี เราเลยคุยไปว่าถ้าจะจัดจริงๆรอคลอดลูกก่อน อยากถ่ายพรีเวดดิ้งและอยากให้มีลูกอยู่ในงานด้วย น่ารักดี เราว่าเผลอๆลูกคลอดออกมาแล้วจริงๆถึงตอนนั้นเราอาจจะอยากเก็บเงินจัดงานไว้เลี้ยงลูกก็ได้ค่ะ ลืมเรื่องพวกนี้ไปเลยจากที่ไม่เคยได้คิดในหัวอยู่แล้ว ลองมามองย้อนดูถึงจุดประสงค์ของการจัดงานแต่งดูให้ดีๆนะคะ เพื่อใคร ? ถ้าเพื่อตัวเราเอง ในขณะที่เราไม่ได้พร้อม? มันเพื่อเราจริงๆหรอ? ….. เคยมีญาติผู้ใหญ่ถามแฟนเรานะคะว่าเมื่อไหร่แต่ง เราก็ตอบแทนแฟนไปเลยค่ะว่า เราไม่อยากแต่ง เราไม่ศรัทธา ไม่ใช่การรับประกันว่าจะไปกันรอด เราเฉยๆกับงานแต่งค่ะ สำคัญที่ความสุขของคนสองคน การถามแบบนี้เป็นการเสียมารยาทที่สุด
เจอพ่อแม่ดี ฝังเขาดีก็ดีใจด้วยนะคะ แต่สิ่งที่เราเจอมันไม่ได้ดีแบบนี้ค่ะ ชอให้มีความสุขนะคะ 🤍
อย่าคิดมากนะครับ สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครถือแล้วครับ ผมคบกับแฟนมา8ปี คิดว่ารอให้พร้อมก่อนค่อยแต่งแล้วค่อยมีน้อง แต่สุดท้ายเมื่อไหร่จะพร้อมตามที่เราพอใจ สรุปแล้วมันยากมากถ้าจะรอพร้อมจริงๆ เพราะงั้นเลยตั้งสินใจตรวจสุขภาพพร้อมมีบุตร แล้วก็มีเลยตามแผน โดยยังไม่แต่งงาน ยังไม่จดทะเบียน ยังไม่ผูกข้อมือเลย โดยส่วนตัวผมกับแฟนคิดว่ามันสิ้นเปลืองจัดงานต่ำๆก็หลายหมื่น อาจถึงหลักแสน เลยตกลงกันว่า ถ้ามีน้องก่อน แล้วจดทะเบียนเลย หลังจากนั้นอีก2-3ปี ถ้ามีเงินเหลือจริงๆจะจัดงานแล้วให้ลูกอยู่ในงานด้วย เค้าจะได้มีรูปตัวเองในงานด้วยลองคิดแบบนี้นะครับมองอะไรในแง่บวกไว้เยอะๆ สุดท้ายแล้วคอนเฟิร์มครับมีแน่นอนท้องก่อนแต่งแบบตั้งใจด้วย ไม่สนใครมองยังไงสนแค่คนที่เรารักเค้า แล้วเค้ารักเรา ถ้าโอเคก็พอแล้วครับ แนะนำอย่าคิดมากครับ รักลูกรักตัวเองเยอะๆ เงินที่จะจัดงานเอามาบำรุงลูกดีกว่าครับ สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้
ขอบคุณมากๆๆ เลยนะคะ ทั้งคำแนะนำแบะกำลังใจดีดี 🤍
คุณแม่ ใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆคิด ค่อยๆตั้งสติ ตอนนี้เราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว สิ่งที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตอนนี้ คือการดูแลตัวเองดีๆ ดูแลน้องในท้องให้ดีที่สุด อะไรที่มันเป็นเรื่องนอกกาย ปล่อยมันไปก่อน บ้านนี้ก็มีน้องก่อนเหมือนกัน ไม่ได้แต่ง แค่ผูกแขนง่ายๆ เราะโฟกัสที่ลูก ลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ เอาไว้เมื่อพร้อม คลอดน้องออกมา ค่อยแต่งก็ได้ค่ะแม่ ก็ดีอีกแบบนะคะ ถ้ามีเข้าตัวเล็กร่วมในงานแต่งด้วย 😊 คุณแม่ไม่ต้องคิดมากนะคะ เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะดีจึ้น เมื่อน้องออกมาลืมตาดูโลก เดี๋ยวปู่ย่าตายาย เขาจะดีขึ้นเอง ช่วงนี้เขาอาจกดดัน แต่ก็พยายามคิดแง่บวกไว้นะคะ ทำทุกอย่างเพื่อตัวเล็ก แต่งงานตอนนี้ มีแต่เสียเงิน เอาเงินไว้ดูแลลูกดีกว่านะคะ 😊 เป็นกำลังใจให้นะ อย่าคิดสั้นอีกนะคะ เราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว และมันไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร สู้ๆนะแม่
ดีใจจังเลย ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับพลังบวกดีดีที่มีให้ ขอบคุณคำแนะนำและกำลังใจดีดีนะคะ ขอบคุณจากใจค่ะ 😊🤍
แม่คงจะกดดันเพราะทางบ้านตัวเอง และอารมณ์น้อยใจทางฝั่งบ้านแฟน เราเป็นคนนึงที่ไม่ได้แต่งงาน และไม่มีแม้แต่ผูกข้อไม้ข้อมือ เหตุผลเพราะตกลงเรื่องค่าสินสอดกันไม่ได้ พ่อเราเรียกเยอะ ฝั่งผู้ชายไม่มี มีแค่เงินเก็บของเราสองคนก้อนนึง ซึ่งไม่พอกับที่พ่อเรียกมา ยื่นคำขาดมาถ้าไม่ได้เท่านั้นไม่ต้องมา อายคน สุดท้ายเราเลยตัดสินใจ โอนเงินที่มีอยู่ให้พ่อไป บอกค่าสินสอด ผ่านมาหลายปี ที่ไม่มีงานแต่ง ไม่มีการผูกข้อมือ เราเสียใจน้อยใจทางฝั่งบ้านแฟนที่ไม่ช่วยเลย แล้วก็เสียใจที่พ่อเราทำแบบนั้น จนปัจจุบันก็ยังเสียใจเวลานึกถึงเรื่องนี้ ก็พยายามลืมค่ะ ดีหน่อยช่วงนั้นเราไม่ได้ท้อง ไม่งั้นคงเครียดมากแน่ๆ ส่งผลเสียกับลูก แม่ทำใจให้สบายนะคะ อย่าไปคิดถึงมันมาก พยายามคิดถึงแต่เรื่องลูก เตรียมเสื้อผ้า เตรียมความพร้อมสำหรับเลี้ยงลูก เป็นกำลังใจให้นะคะ
สิ่งที่คุณพิมพ์มามันคือเรื่องของเราทั้งหมดเลย เป็นแบบเดียวกันเลยค่ะ เลยไม่รู้จะทำยังไง มันเครียดและกดดัน หลายๆอย่าง จนตอนนี้ไม่กล้าเข้าไปหาพ่อแม่ เพราะรู้สึกอึดอัด ตอนนี้ท้องได้5เดือน ได้แค่ลูบท้องคุยกับลูกว่าขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ไวๆ ได้แต่ร้องไห้กับลูก พูดกับใครไม่ได้ เลยต้องมาพิมพ์ระบายในนี้ ขอบคุณมากๆนะคะ ดีใจมาก ที่เข้าใจ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจดีดี นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ 🤍
ของแม่บ้านนี้ก็ท้องก่อนแต่งค่ะ ตอนคบกันได้6เดือนมาเซ่นผีแล้ว พอคบกันได้1ปี6เดือนเราก็ท้อง เราก็บอกกับพ่อแม่เราช่วงแรกๆก็มีกดดันค่ะ พ่อแม่บอกให้หาเงินมาแต่งเร็วๆแกเบื่อชาวอายชาวบ้านนินทา แต่เราก็บอกแกไปว่าแต่งแน่แต่งแน่นอนแต่รอให้ลูกโตพอรู้เรื่องก่อน ให้เขามาเป็นพยานในงานแต่งโตไปเขาจะได้รู้ว่าเขาอยู่ในงานสำคัญนะ จนทุกวันนี้พ่อแม่เราเขาก็ไม่ว่าไท่พูดอะไรดีใจด้วยซ้ำรักหลานมากรักมากกว่าลูกเสียอีก🤣 เรากับสามีอยากแต่งงานกันมากเหมือนกัน รอเก็บเงินไปเรื่อยๆตอนนี้แฟนทำงานได้แค่คนเดียวแหนก็กดดันตัวเอง รอให้ลูกพอรู้เรื่องทำงานเก็บเงินค่อยว่ากันแน่นอนค่ะ🥰 เราไม่ได้มาสนใจว่าชาวบ้านหรือใครจะว่ายังไง คนใกล้ตัวเราเค้าก็นินทาว่าร้ายเราเรารู้แต่เราไม่สน มีเงินก็ออมทองก็ได้ค่ะเผื่อไว้ในวันข้างหน้า
ตกในสภาวะเดียวกันเลยค่ะ เคยปรึกษาพ่อของลูกด้วยว่าควรจะยุติการตั้งครรภ์ดีมั้ย แต่พ่อของลูกไม่ยอม และก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเค้าจะรับผิดชอบเราหรือป่าว เราก็เลยปล่อยไปสู้และให้กำลังใจตัวเองไปวันๆ จนทุกวันนี้อายุครรภ์20สัปดาห์แล้วเหมือนเด็กน้อยในครรภ์เริ่มดิ้น ความรู้สึกความมหัศจรรย์ของลูกในท้องมันทำให้โฟกัสคิดแต่จะทำยังไงให้เค้าแข็งแรงสมบูรณ์ตั้งแต่ในครรภ์ กำลังใจจะมาทันทีที่เราลูบหน้าท้องแล้วตัวน้อยๆดิ้นอยู่ข้างใน หันกลับมาโฟกัสที่ลูกในครรภ์ดีกว่า โมเม้นต์อย่างอื่นเราทำทีหลังได้ คลอดลูกถ่ายพรีเวดดิ้งตามหลังก็มี แต่เชื่อเถอะค่ะคุณแม่ พอคลอดออกมาคุณแม่จะรู้ว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ เป็นกำลังใจให้แม่เช่นกันนะคะ ขอให้แม่และน้องแข็งแรงๆ นะคะ 🤍🤍🤍
ผมกับแฟนก็ไม่ได้แต่ง และไม่มีความคิดจะแต่งเพราะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธี ใช้เวลานาน ต้องเตรียมตัว แต่มีความคิดเล่นๆว่าจะถ่ายPreกันเก็บไว้ดูเล่น ส่วนเรื่องมีน้อง ก็มีตามตั้งใจครับไม่ได้พลาดอะไรคิดว่าพร้อม แต่เอาเข้าจริงก็กลางๆครับ เรื่องเงินเป็นหลักเพราะแฟนไม่มีน้ำนมน้อยมากได้แค่ 2 Oz. 3-4ครั้งต่อวัน เลยมีเรื่องค่านมเข้ามาก่อนเวลาอันควร ซ้ำเข้าไปอีกStep ลูกแพ้โปรตีนต้องกินนมแบบย่อยโปรตีน ค่านมแพงขึ้นอีก พอครบ1ปี ลูกเลิกแพ้กินนมปกติได้ ก็ให้นมอย่างดี ทั้งนี้ยังมีค่าอื่นๆอีกเยอะ แพมเพิด ค่าเรียนในอนาคต เรื่องการเงินผมจัดว่าไม่เหนื่อยมาก แต่ก็อยากให้คิดว่า ไม่แต่งอะดีแล้วครับเก็บเงินไว้ให้ลูก ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเค้า อาหาร ของใช้ วัคซีน ค่าเรียน ประกัน อื่นๆ
Anonymous