#ร่วมกิจกรรม #ความประทับใจ
"เรื่องราวความประทับใจของฉัน" "ประสบการณ์การคลอดลูกคนแรก" "ประสบการณ์การคลอดลูกคนแรกของฉันในวัย 20 ปี" ฉันคลอดลูกคนแรกด้วยอายุครรภ์ 41+6 w. โดยการคลอดธรรมชาติ วันนั้นตรงกับวันศุกร์ ที่ 1 - มี.ค. - 62 เวลา 15.48 น. ฉันเข้าไปแอดมิทที่โรงพยาบาลตั้งแต่เที่ยงของวันพฤหัส ที่ 28 - ก.พ. - 62 โดยที่ยังไม่มีอาการปวดท้อง น้ำเดิน หรือมีมูกเลือด แต่ที่ต้องแอดมิทเพราะวันนั้นฉันได้ไปตรวจตามนัดของห้องเวชกรรมตามปกติทุกๆ 1 สัปดาห์ แต่อายุครรภ์ของฉันจะครบ 42 สัปดาห์แล้ว ซึ่งมีความเสี่ยงที่รกจะเสื่อม หมอจึงสั่งแอดมิท และรอให้ยาเหน็บ เพื่อกระตุ้นให้ปากมดลูกบางลง และทำคลอด ในวันที่ 01- มี.ค. ในคืนวันที่ 28 - ก.พ. หมอ และพยาบาลให้ฉันนอนรอในห้องรอคลอดเฉยๆ เพื่อรอให้ยาเหน็บในเช้าของวันที่ 1 - มี.ค. แต่ให้ฉันงดน้ำ งดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน พร้อมให้น้ำเกลือ จนเช้าวันที่ 1 มี.ค. เวลา 06.00 น. พยาบาลได้มาปลุกฉันให้ลุกขึ้นอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน พร้อมกับบอกให้ขับถ่าย และปัสสาวะให้เรียบร้อย จน 06.30 พยาบาลก็ให้ฉันขึ้นไปนอนบนเตียงรอคลอด พร้อมกับป้ายยาเหน็บไว้ตรงปากมดลูก (ไม่ใช่ยาเร่งคลอด เพราะปากมดลูกไม่เปิด จึงไม่สามารถให้ยาเร่งคลอดได้) ยาเหน็บเป็นยาที่ทำให้ปากมดลูกบางลง และปวดท้องคลอด ผ่านไป 6 ช.ม. ตั้งแต่ 06.30 ถึง ประมาณราว 12.30 ฉันชิวมากไม่เจ็บไม่ปวดแต่อย่างใด ฉันคิดว่าฉันคงได้ผ่าแน่ๆในเช้าวันพรุ่งนี้ เพราะหมอบอกไว้ว่าถ้าวันนี้ฉันยังไม่คลอด พรุ่งนี้จะต้องผ่า เพราะอายุครรภ์ครบ 42 w. พอดี หมอจะปล่อยให้อายุครรภ์เลยไปจากนี้ไม่ได้ รอได้แค่ 42 w. แต่อีก 30 นาทีต่อมาฉันก็เริ่มปวดท้องนิดๆ พยาบาลจึงมาติดเครื่อง NST เพื่อวัดการบีบตัวของมดลูกให้ฉัน ฉันปวดท้อง แต่มัเพราะตอนนั้นปวดถี่แล้วนแค่นิดเดียว แล้วมันก็เริ่มปวดถี่ขึ้นถี่ขึ้น แต่ฉันยังทนมันได้ จนผ่านไป 1 ช.ม. ฉันบอกให้สามีเรียกพยาบาลให้มาดูปากมดลูกว่าเปิดหรือยัง เพราะความรู้สึกตอนนั้น คือฉันปวดมาก ปวดทุกๆ 20-30 วิ แต่ก็ยังทนได้ เพราะปกติเวลาฉันมีประจำเดือน ฉันก็จะปวดมากอยู่แล้ว แต่แค่ตอนนี้มันถี่ขึ้นมากๆ หลังจากที่บอกให้สามีเรียกพยาบาลแล้ว พยาบาลก็เค้ามาตรวจปากมดลูก ซึ่งพยาบาลบอกตอนนี้ 3 เซนแล้ว จากที่ไม่เปิดเลยถือว่าเปิดเร็วมาก แล้วหันมากบอกฉันว่า เก่งมาก ความอดทนสูงมาก เปิด 3 เซนแล้ว พึ่งเรียกพยาบาล บางคนครึ่งเซนก็จะไม่ไหวแล้ว แล้วฉันก็ขอพยาบาลทานน้ำไป 2-3 รอบ แต่เค้าก็ไม่ให้ทาน ฉันก็ยิ้มเห่ยๆให้ไป ทั้งๆที่หิวน้ำมาก และกลัวไม่มีแรงเบ่งเพราะงดอาหารมา 12 ช.ม.แล้ว ผ่านไป 5 นาที ฉันบอกสามีว่า ปวดอึ ลมเบ่งมาแล้วเรียกพยาบาลให้หน่อย พยาบาลก็เข้ามาตรวจซึ่งตอนนั้นปากมดลูกเปิดไป 9.5 เซน พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลจึงย้ายฉันเข้าไปในห้องคลอด และไปตามหมอมา พอฉันเข้ามาในห้องคลอด บรรยากาศในห้องคลอดแอร์เย็นมาก พยาบาลให้ฉันนอนถ่างขาบนเหล็กอะไรสักอย่างฉันเองก็เรียกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าขายหยั่งรึเปล่า หลังจากนั้นหมอบอกให้เบ่งฉันก็เบ่ง แต่ก็ไม่ออก พยาบาลให้ฉันเบ่งอีกครั้งและกรีดจิมิฉัน หลังจากนั้นก็ให้ฉันเบ่งต่ออีกประมาณ 5-6 ครั้งก็ไม่ออก หมอเข้ามาประเมินบอกว่าเชิงกร้านแคบไม่สามารถคลอดเองได้ เลยให้พยาบาลย้ายลงเตียงเพื่อจะส่งตัวไป รพ.ประจำจังหวัด แล้วบุรุษพยาบาลก็ลากฉันไปหน้าประตูห้องคลอด แต่พยาบาลชุดใหม่บอกหมอว่าฉันน่าจะคลอดเองได้ให้พากลับไปเตียงเดิมก่อน (เป็นพยาบาลกะบ่าย พึ่งมาผลัดกะกับกะเช้า ) หลังจากนั้นพยาบาลก็เข้ามานับจังหวะให้ฉันเบ่งอยู่ต่ออีก 10 นาทีก็ไม่ออกอีก พยาบาลจึงตัดสินใจล้วงมือเข้าไปแล้วใช้นิ้วสะกิดถุงน้ำคร่ำให้แตก ฉันรู้สึกตอนพยาบาลเอานิ้วสะกิดถุงน้ำคร่ำ มันเหมือนตอนที่เราเอาน้ำใส่ในลูกโป่ง แล้วใช้นิ้วหยิกมันให้แตก แต่ฉันก็ยังไม่คลอด พยาบาลเลยแจ้งหมออีกครั้ง หมอเลยสั่งให้ส่งตัวด่วน แล้วหมอก็เข้าไปเตรียมอุปกรณ์ และให้ฉันหยุดเบ่ง แล้วเหตุการณ์ก็เหมือนเดิมบุรุษพยาบาลมาลากเตียงฉันออกจากห้องคลอดจนไปถึงประตูหน้าห้องรอคลอด แต่ฉันไม่ฟังหมอ ลมเบ่งมาฉันก็เบ่งเพราะมันห้ามกันไม่ได้ สุดท้ายหัวน้องออกมาหน้าประตูห้องรอคลอด ฉันเลยโดนยกเลิกส่งผ่า ให้เอาตัวกลับห้องคลอด หลังจากนั้นพยาบาลบอกให้เบ่งอีกฉันก็ไม่เบ่งเพราะไม่มีลมเบ่ง ฉันเลยบอกพยาบาลไปว่า "พี่ค่ะถ้าลมเบ่งมาหนูจะเบ่งเอง ตอนนี้ไม่มีลมเบ่ง หนูเบ่งไม่ได้ ไม่มีแรง" พยาบาลเลยบอกว่าถ้าค้างหัวน้องนานแบบนี้น้องจะเป็นอันตราย และนับให้ฉันเบ่งบวกกับโดนกรีดจิมิเป็นครั้งที่ 2 ก็ยังเบ่งไม่ออก จนเบ่งต่ออีก 3 ที ครั้งสุดท้ายฉันรวบรวมแรงทั้งหมดเบ่งจนน้องหลุดออกมาทั้งตัว พร้อมกับเสียงกรี๊ดของฉัน ซึ่งฉันไม่เคยกรี๊ดดังขนาดนั้นเลยในชีวิต มันรู้สึกวูบ และโล่งไปพร้อมๆกัน มันรู้สึกแบบพลุบ แต่ฉันอธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ถูก ฉันอยากถามพยาบาลว่าน้องครบ 32 ไหม แต่ฉันไม่มีแรงเลย หลังจากนั้นพยาบาลก็มาเย็บแผลฝีเย็บให้ ตอนแรกฉันนึกว่าจะเจ็บแบบตอนกรีด แต่ฉันไม่รู้สึกอะไร คงเพราะพยาบาลฉีดยาชาให้ (แต่ฉันไม่รู้ว่าฉีดให้ตั้งแต่ตอนไหน) จากนั้นพยาบาลก็ให้ฉันดูเพศลูก ซึ่งฉันได้ลูกสาวตามที่หวัง ฉันไม่ทราบเพศลูกมาก่อน เพราะจะมาลุ้นวันคลอดเลย เพราะไม่อยากคิดมาก หรือกังวลเรื่องเพศลูก เวลาหมอซาวด์ฉันจึงไม่ได้ถาม หลังจากนั้นพยาบาลได้พาฉันไปห้องพักฟื้นหลังคลอด ส่วนลูกต้องให้ออกซิเจนเพราะน้องมีอาการหายใจเร็ว หลังจากนั้น 1 ช.ม. พยาบาลก็อุ้มน้องมาให้ฉันให้นม และบอกว่าหลังจากนี้ต้องงดนมน้อง 1 คืน จนหมอจะสั่งให้ทานได้ เพราะน้องยังหายใจเร็ว อาจสำลักได้ จนเช้าอีกวันนึงน้องก็ได้ทานนมปกติ สรุปแล้วฉันปวดท้องรวมๆคลอดแค่ 2 ชั่วโมง ปวดไม่มากแบบทนได้ แต่ปวดสุดคือแผลฝีเย็บ (ฉันได้ใส่สายสวนฉี่ด้วยก่อนจะส่งผ่า แต่ไม่รู้สึกอะไร) ปวดมากจนฉันไม่กล้าขับถ่ายอยู่ 8 วัน กลัวแผลฉีก เพราะกรีด 2 รอบ แต่สุดท้ายแผลก็ปริอยู่ดี เพราะฉันนั่งไม่ระวัง โดนเย็บแผลใหม่อีก 6 เข็ม หลังไปตรวจแผลฝีเย็บหลังคลอด 10 วัน แต่เจ็บมาก เข็มเป็นเหมือนเบ็ดตกปลา ไหมละลายเป็นเหมือนลวดสีทอง ฉันเจ็บมากเจ็บสุดๆขาสั่นเลยก็ว่าได้ ใครว่าเย็บแผล กรีดจิมิไม่เจ็บฉันบอกเลยไม่จริง มันเจ็บแต่เจ็บต่างกัน อันนึงปวดในท้องในมดลูก อันนึงปวดที่แผลตรงจิมิ สุดท้ายแล้วฉันขอเป็นกำลังใจให้แม่ๆทุกคนที่กำลังจะคลอดนะคะ "เพราะคำว่าแม่ยิ่งใหญ่ที่สุด" "ชิงเครื่องนึ่งขวดนม" #ร่วมกิจกรรม #ความประทับใจ
ลูกหมูมีนา' ดญ.ปีกุน