โพสต์นี้อาจเป็นโพสต์สุดท้าย
สวัสดีค่ะแม่ๆ ขออนุญาตระบายในโพสต์นี้หน่อยนะคะ นี่อาจเป็นโพสต์สุดท้ายของแม่แล้วก็ได้ อย่างน้อยๆก่อนแม่จะไป แม่ก็อยากระบายความในใจที่แม่ไม่สามารถหันไประบายกับใครได้อีก ขอพื้นที่ตรงนี้ ให้คนป่วยอย่างแม่ได้มีสิทธิ์พูดสิ่งที่อยู่ลึกๆในใจออกไปหน่อยนะคะ🙏🏻 จะดราม่ากันก็ได้เพราะชีวิตแม่ดราม่ามามากพอแล้วและแม่อาจจะไม่ได้กลับมาอ่านคอมเม้นท์ของแม่ๆอีกแล้วนะคะ แม่ขอแทนตัวเองว่า เอ นะคะ เอ เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง มีโรคซึมเศร้าที่เป็นมานานกว่า 7 ปีแล้ว และยังคงรับการรักษาอยู่ ปัจจุบันมีลูก 3 คน คนที่ 3 อายุเพิ่ง 1 เดือน 19 วัน คนละพ่อกับลูก 2 คนแรก กับพ่อของลูกคนที่ 3 นี่มีปัญหาระหองระแหงกันมานานพอสมควรแล้วค่ะ ตั้งแต่ตั้งท้องแรกๆ ก็ผิดใจกันจนต้องแยกกันอยู่แต่ยังไม่เลิกรา เออุ้มท้องมาคนเดียว ทำงานหนักทุกวันจนวันคลอด ขับรถไปคลอดเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง มาพักฟื้นที่บ้านแม่ แต่แม่และคนในครอบครัวเอ ไม่ค่อยจะชอบเอตั้งแต่รู้ว่าเอตั้งท้องกับพ่อของลูกคนนี้แล้ว ตลอดระยะเวลาที่เอพักฟื้นอยู่บ้านแม่ เอจะได้ยินคำพูดเจ็บๆจากแม่เสมอ เช่น คนอย่างมึงก็สมควรแล้ว / กูไม่ช่วยมึงเด็ดขาด ไปตายโหงข้างหน้าเอาเถอะ และการกระทำอีกหลายๆอย่างที่ทำให้หัวใจเอเจ็บและน้อยใจจนสุดจะบรรยาย เอแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำทุกวัน บางวันทนไม่ไหวก็หอบลูกวันเดือนเศษๆขับรถกลับไปที่บ้านพักที่ทำงานซึ่งห่างจากบ้านแม่เกือบๆ 20 กิโลฯ ไปที่นั่นเพื่อนไปร้องไห้โฮกอดลูกอยู่คนเดียว เอเป็นคนแข็งๆ ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นง่ายๆ แม้จะสนิทแค่ไหนก็ตาม คนรอบข้างจึงมองว่าเองเก่งและเข้มแข็งมาก ทั้งที่ความจริงกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง เดือนกรกฎาคมนี้เอต้องกลับไปทำงานแล้วเพราะเอไม่มีเงินแม่แต่บาทเดียวที่จะไว้ซื้อข้าวกิน เงินเดือนที่เอเก็บสะสมไว้หมดไปกับค่าคลอดและของเตรียมคลอด เอมีภาระคือลูกอีก 2 คนที่ต้องรับผิดชอบ เงินเดือนในแต่ละเดือนแทบจะไม่ชนเดือนเลยด้วยซ้ำ บางวันเอก็อดข้าว ยอมกินน้ำเปล่าเพื่อแก้หิว เก็บเงินไว้ส่งเสียลูกๆ สังคมรอบตัวเอเลวร้ายไปหมด แม้แต่คนที่ควรจะซัพพอร์ตจิตใจเอมากที่สุดอย่างคนในครอบครัวก็ไม่เคยจะเห็นใจกัน เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย เพื่อนสนิทที่คบกันมาเกือบ 20 ปีเอยังโดนเขาหักหลัง สุดท้ายก็ผู้ชายที่เอเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต ฝากความหวัง ฝากอนาคตไว้กับเขา เขาดีกับเอ เสมอต้นเสมอปลายกับเอมาตลอดระยะเวลาที่ครองคู่กัน เขาต้องการมีลูก แต่เอก็ไม่ได้ยอมมีตั้งแต่แรก ผ่านไปหลายปี เอเห็นความดี และเริ่มเห็นใจเขา เพราะเขาอายุก็มาก ห่างกับเอ 10 ปี เอเลยตัดสินใจปล่อยให้ตัวเองมีลูก แต่กว่าจะติดก็เกือบ 2 ปี วันแรกที่เขารู้ว่าเอท้อง เขาดีใจมากๆ ดีใจจนร้องไห้ออกมา เหมือนชีวิตเอในตอนนั้นกำลังจะสมบูรณ์แบบและมีความสุข แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ทำให้เอกับสามี มีปัณหากัน เคลียร์กันไม่ลงตัว จบกันที่ต้องแยกกันอยู่ แต่ยังต้องเจอหน้ากันทุกวันเพราะทำงานที่เดียวกัน ตอนเอท้องได้ 6 เดือน เขาเดินมาขอร้องเอไว้ว่า เก็บเด็กในท้องไว้นะ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย... เอเคยทำร้ายร่างกายตัวเองเวลาที่เครียดมากๆ และเคยพยายามฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะมีคนมาเจอแล้วช่วยไว้ได้ทัน จนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ เวลานี้ เอเหนื่อยมากๆ เอตอบไม่ได้ว่าเอเหนื่อยกับอะไร เอรู้แต่ว่า การใช้ชีวิตของเอ มันเป็นอะไรที่บั่นทอนเอลงทุกวัน ทุกวัน เอไม่อยากจะพยายามมีชีวิตอีกแล้ว เวลาที่เอขับรถ บางครั้ง ในสมองเอก็สั่งการให้ขับรถให้เร็วที่สุดและพุ่งชนเสาไฟฟ้าให้เต็มแรง แต่เอพยายามบังคับร่างกายว่าอย่าทำ.... ณ ตอนนี้ที่เอกำลังพิมพ์ น้ำตาเอหยดลงบนหน้าจอโทรศัพท์จนเปียกไปหมด เอร้องไห้อีกแล้ว เอร้องไห้ทุกวัน เอไม่เคยชินกับชีวิตแบบนี้เลย เอเหนื่อย เหนื่อยไปหมด หมดแรงที่จะใช้ชีวิต หายใจทุกวันนี้ยังเหนื่อย เอเหมือนคนจมน้ำสูงแค่ระดับหัวเข่าแต่กลับไม่ยอมเอาหัวขึ้นมาจากน้ำ เพียงเพราะคำว่า เหนื่อย ไม่อยากจะใช้ชีวิตอีกต่อไปแล้ว.... สำหรับแม่ๆมี่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ เอ อยากขอบคุณที่สละเวลาอ่านบทความที่แทบจะหาสาระไม่เจอบทนี้ และอยากขอโทษ ที่เอไม่สามารถทำตัวเองให้เข้มแข็งให้มากกว่านี้ เอหมดหวังกับชีวิตแล้วจริงๆ ขอบคุณ และ ขอโทษ จากหัวใจจริงๆ 🙏🏻