สวัสดีค่ะคุณแม่ๆ เมื่อวานหม่ามี้ได้พาลูกชายในท้อง 28+4 วีค ไปพบคุณลุงหมออดิศร ตามนัด ก็ได้อัลตร้าซาวด์ดูความสมบูรณ์และการเจริญเติบโตของลูก ส่วนหม่ามี้ก็ได้รับวัคซีน Tdap ซึ่งเป็นวัคซีนรวม คอตีบ ไอกรน บาดทะยักด้วย
ตั้งแต่ท้องมา จนถึงตรวจล่าสุด น้ำหนักของหม่ามี้ขึ้นไปที่ 5-5.5 kg. ซึ่งถือว่าขึ้นได้เหมาะสมดีแล้วน้ำหนักลูกก็อยู่ที่ 1,234 g. ค่ะ ก็เกินค่ามาตรฐาน 50 percentile มานิดหน่อย
หม่ามี้เข้าใจไปเองว่าน้ำหนักลูกขึ้นน้อยเกินไป คุณลุงหมอเลยอธิบายว่า การเช็คค่าน้ำหนักของลูกในท้องตามแบบของคุณหมอสูติฯ MFM แบบคร่าวๆ จะดูที่ค่า 10/50/90 percentile (หม่ามี้แนบรูปตารางค่าน้ำหนักไว้ให้แล้วนะคะ)
หมายความว่า ลูกในท้องไม่ควรมีน้ำหนักน้อยกว่า 10 percentile และไม่ควรเกิน 90 percentile
คุณแม่ที่ทานโปรตีนได้ถึง ทานได้ดีแล้ว ลูกจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 50 percentile หรือเกินมานิดหน่อย อยู่ตรงกลางๆ ระหว่าง 50 กับ 90 percentile
ยกตัวอย่างเช่น ลูกชายในท้องหม่ามี้ 28 วีค น้ำหนัก 1234 กรัม ค่า 50 percentile คือ 1186 กรัม ก็เลยค่ามาตรฐานมา หมายความว่า ลูกมีน้ำหนักที่เหมาะสม น้ำหนักลูกขึ้นด้วยโปรตีน ไม่ใช่แป้ง น้ำตาล ก็จะทำให้คุณแม่ๆ ได้ลดความเสี่ยงเรื่องภาวะครรภ์เป็นพิษ น้ำคร่ำรั่ว น้ำคร่ำลด รกเสื่อม คลอดก่อนกำหนด ตัวลูกเองก็จะมีความเสี่ยงเรื่องภาวะหายใจเร็วหลังคลอด ภาวะตัวบวมหลังคลอด ภาวะเบาหวานแรกคลอด หรือภาวะเสี่ยงอื่นๆ หลังคลอดน้อยลง
คุณลุงหมอ บอกว่า อย่ากังวลเรื่องขนาดท้อง หรือน้ำหนักลูกมากไปนัก เพราะเด็กทารกที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุด และมีปัญหาเสี่ยงสุขภาพแรกคลอดและหลังคลอดน้อยที่สุด คือ เด็กที่มีอัตราการเจริญเติบโต เกาะกราฟเส้นแดงมาตรฐาน เด็กกลุ่มนี้ ก็จะมีน้ำหนักแรกคลอดอยู่ที่ 3-3.5 kg. ซึ่งถือว่าจ้ำม่ำ ตัวใหญ่ดีอยู่แล้ว
และผลดีต่อคุณแม่คือ จะไม่ค่อยปวดหลัง ปวดขา ปวดเอว ไม่ค่อยมีอาการมือ-เท้าบวม ไม่ค่อยมีภาวะกรดไหลย้อน ซึ่งมาคิดๆ ดู หม่ามี้เข้าไตรมาสที่3 ยังเดินเหินแบบชิลล์มากๆ ไม่ค่อยปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา มือเท้าไม่บวม ไม่มีกรดไหลย้อน นอนหลับสบายทุกคืน
คุณหมอจึงเน้นให้โฟกัสที่โภชนาการอาหารของแม่ ให้เป็นอาหารโปรตีนสูง ไฟเบอร์สูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ น้ำตาลต่ำ ไขมันต่ำ จะบำรุง และลงลูกที่สุด ดีต่อแม่และเบบี๋ในท้องที่สุดด้วยค่ะ
Nui PL