บทเรียนไม่ควรฝากท้องรพ.เอกชนที่เดียว

ท้องได้30+4วัน มีอาการท้องแข็ง ต้องแอดมิทด่วนเพื่อยับยั้งการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งยับยั้งทัน โชคดีที่ปากมดลูกยังไม่เปิด นอนรพ.ไป3-4วัน เจอคชจ.ไป 53,000 หมอบอกว่าถ้ายับยั้งไม่ทันจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ เด็กจะต้องอยู่ห้อง NICU คชจ.ประมาณ 600,000+++(เฉพาะแค่ลูก) ย้ายมานอนรพ.รัฐอีก2วัน โดนคชจ.ไป 10,000(ห้องพิเศษ) ตอนนี้เปลี่ยนมาฝากท้องที่รพ.รัฐแล้ว เพราะยังมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้ทุกเมื่อ หมอให้นอนอยู่กับบ้าน เคลื่นไหวให้น้อยที่สุด ตอนนี้นอนแต่อยู่บนเตียง ลุกไปเข้าห้องน้ำได้อย่างเดียว จนกว่าจะครบ37สัปดาห์ ต้องกินยายับยั้งการคลอดทุกๆ6ชม. อยากให้ทุกคนฝากท้อง2ที่ ทั้งรัฐและเอกชน ถ้าคลอดก่อนกำหนด เข้ารพ.รัฐ คชจ.จะถูกกว่า แต่ถ้าคิดว่าคลอดๆรพ.เอกชนไปก่อนแล้วค่อยย้ายเด็กไปรพ.รัฐ บอกได้เลยว่าไม่มีที่ให้ลงแน่ เพราะเพื่อนเราโดนมาแล้ว

บทเรียนไม่ควรฝากท้องรพ.เอกชนที่เดียว
41 ตอบกลับ
undefined profile icon
เขียนข้อความตอบกลับ

เราฝากเอกชนได้ถึง 5 เดือนค่ะ แล้วมีภาวะแท้งคุกคาม ยา รพ เอกชนแพงมาก เม็ดละ 60-70 บาท เราเลยย้ายมาฝาก รพ รัฐ และซื้อยาข้างนอกกินต่อจากยาที่หมอสั่ง เม็ดละ 29-30 บาทค่ะ และฝาก รพ รัฐได้ถึง 35 w มีภาวะคลอดก่อนกำหนด ท้องแข็งถี่ ได้แอดมิท 10 วัน ที่ รพ รัฐค่ะ และหลังจากนั้นเราเลยขอออกจาก รพ รัฐ ไปคลอดเอกชนค่ะผ่าคลอดค่ะ คลอดตอน 36+1 w ค่ะ น้องหอบนิดหน่อยค่ะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผ่าคลอด 42000 และค่าออกซิเจนน้อง 15000 ค่ะ นอน รพ 4 คืน 5 วัน และกลับบ้านพร้อมแม่ค่ะ ประทับใจ รพ เอกชนมากค่ะ ให้เต็ม 10 แอดมิท รพ รัฐ บ่นให้เราตลอด ว่าเราฉี่บ่อย พักบ้าง ท้องยิ่งแข็ง จะได้พักหรอ บ่นทำไม คนท้องก็ต้องฉี่บ่อย ใครจะอยากฉี่บ่อย เราเสียความรู้สึกมากๆ เอกชนแพงค่ะ แต่ดูและดีมาก สามีเราบอกเอาความสะดวกสบายทั้งแม่และลูกค่ะ

อ่านเพิ่มเติม
คำถามที่เกี่ยวข้อง