บทเรียนไม่ควรฝากท้องรพ.เอกชนที่เดียว

เราฝากเอกชนได้ถึง 5 เดือนค่ะ แล้วมีภาวะแท้งคุกคาม ยา รพ เอกชนแพงมาก เม็ดละ 60-70 บาท เราเลยย้ายมาฝาก รพ รัฐ และซื้อยาข้างนอกกินต่อจากยาที่หมอสั่ง เม็ดละ 29-30 บาทค่ะ และฝาก รพ รัฐได้ถึง 35 w มีภาวะคลอดก่อนกำหนด ท้องแข็งถี่ ได้แอดมิท 10 วัน ที่ รพ รัฐค่ะ และหลังจากนั้นเราเลยขอออกจาก รพ รัฐ ไปคลอดเอกชนค่ะผ่าคลอดค่ะ คลอดตอน 36+1 w ค่ะ น้องหอบนิดหน่อยค่ะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผ่าคลอด 42000 และค่าออกซิเจนน้อง 15000 ค่ะ นอน รพ 4 คืน 5 วัน และกลับบ้านพร้อมแม่ค่ะ ประทับใจ รพ เอกชนมากค่ะ ให้เต็ม 10 แอดมิท รพ รัฐ บ่นให้เราตลอด ว่าเราฉี่บ่อย พักบ้าง ท้องยิ่งแข็ง จะได้พักหรอ บ่นทำไม คนท้องก็ต้องฉี่บ่อย ใครจะอยากฉี่บ่อย เราเสียความรู้สึกมากๆ เอกชนแพงค่ะ แต่ดูและดีมาก สามีเราบอกเอาความสะดวกสบายทั้งแม่และลูกค่ะ

บ้านนี้ก็ท้องแข็งบ่อยค่ะตอน 26 วิค พอไปหาคุณหมอตรวจเช็คหลายๆอย่าง แม่มีภาวะคลอดก่อนกำหนด คุณหมอเขียนใบส่งตัวให้แอตมินโรงพยาบาล ( แม่ฝากพิเศษที่คลีนิก คุณหมอเป็นอาจารย์หมอที่โรงบาลรัฐ-และเอกชนในจังหวัดค่ะ ) ค่าใช้จ่ายทุกอย่างฟรีหมดยกเว้นค่ายาที่ต้องกอนรายเดือนตกเฉลี่ยเดือนล่ะ 1,800 บาทกินไปจนกว่าอายุครรภ์ 36 วิค และให้แม่นั่งๆนอนๆลดปัจจัยเสี่ยงทุกอย่าง ตอนนี้ 29 วิคกว่าปล้วค่ะ อดทนและสู้ไปพร้อมๆกันนะค่ะแม่ เจอปัญหาแบบนี้แม่จิตรตกมากค่ะ ผวงไปหมดกลัวไปหมดพยามทำใจให้สบายแต่วันไหนลูกดิ้นน้อยหรือมีอะไรผิดแปลกแม่ก็อดเครียดไม่ได้จริงๆค่ะ

จริงๆแล้วถ้าคิดจะฝากท้อง ร.พ เอกชนต้องเงินพร้อมทุกเมื่อค่ะ ของเราฝาก ร.พ ส่งเสริมสุขภาพ จ่ายเองเหมือนกันค่ะแต่ถูกมากค่าซาวเสียครั้งละ100 บาท ถ้าคุณหมอซาวให้ไม่เสียเงินค่าหมอ 50 บาท ค่ายาแต่ละตัวไม่เกิน 100 บาท ตลอดการฝากครรภ์ เสียไม่ถึง3,000 ค่ะ พอจะใกล้คลอดคุณหมอจะทำเรื่องส่งตัวไปที่ ร.พ รัฐให้ ตามที่คุณแม่ระบุ ร.พ ค่ะ วันออกจาก ร.พ เสียเงินไป 5,045 บาท ส่วนของลูกต้องจ่าย 3,000 แต่คุณหมอแนะนำให้แจ้งเกิดลูกแล้วใช้สิทธิ์ บัตรทองได้เลย ขอให้คุณแม่และน้องปลอดภัยแข็งแรงไวๆ นะค่ะ(คลอดธรรมชาติ นอน ร.พ 2คืน 2วันค่ะ) คลอดวันที่12 ก.ค 2563

กำลังเจอเหตุการณ์เดียวกันค่ะ ตอนนี้ท้องได้ 32w โรงบาลที่ฝากครรภ์ดีมากค่ะ บอกให้ไปใช้สิทธิประกันสังคมประหยัดไม่เสียเงินสักบาทดีกว่า ดีขึ้นแล้วก็ค่อยไปคลอดตามโรงบาลที่ฝากครรภ์เหมือนเดิม มาตรวจโรงบาลประกันสังคมแล้วหมอ ที่โรงบาลจะให้แอดมิด แต่หมอเห็นว่าปากมดลูกไม่ได้เปิด น้ำยังไม่เดิน ไม่ร้ายแรงค่ะ หมอถามว่าจะแอดมิดไหมหรือจะไปพักที่บ้าน7วัน ห้ามไปทำงาน เลยขอหมอมาพักที่บ้าน เพราะอยู่โรงบาลก็ไม่ได้ทำไร แค่นอนกินยากับฉีดยาทุก6ชั่วโมง กลับไปอยู่บ้านยังได้ทำอะไรได้บ้างค่ะ

รพ.รัฐ ถูกกว่า แต่เวลาก็อาจจะมีให้เราน้อยกว่า เพราะคนเยอะ ขึ้นอยู่กับความสะดวกมากกว่าค่ะ อย่างเราล่าสุด สังเกตว่า ทำไมน้องดิ้นน้อยจัง เราฝากเอกชน ไปหาหมอ หมอก็จับเข้าเครื่องเช็คการดิ้นเลย จ่ายเพิ่ม 250 บาท แต่สบายใจ เราว่าถ้าเป็น รพ. รัฐ คงแค่จับๆ แล้วก็บอกว่าดิ้นหรือไม่ดิ้น คหสต. นะคะ แต่สำหรับเรา เราเลือก รพ. ที่หมอมีเวลาให้เรา และหมอเต็มใจดูแล ทุกกรณี เพราะแม่มือใหม่แบบเราบางทีก็ขี้กังวลค่ะ กลัวไปหมด ขอให้แม่และน้องปลอดภัย แข็งแรงเร็วๆ นะคะ แม่ฝากเอกชนที่ไหนเหรอคะ

บ้านนี้ฝากคลีนิคค่ะ ตอนแรกฝากรพ.รัฐเจาะเลือดที่รพ.แต่ฝากต่อที่คลีนิค วันนั้นท้องแข็งถี่+มีเลือดปนฉี่ออกมา ไปหาหมอที่รพ.ได้atmit หมอให้นอนให้ยายับยั้งตอนนั้น อายุครรภ์ที่34week นอนให้ยายุบนเตียงนอนอย่างเดียวลุกได้เฉพาะเข้าห้องน้ำอยู่ที่ห้องร.คลอด 12วันนอนห้องพิเศษ3วัน จ่ายค่ารพ.+รักษาไปเกือบ2000แต่ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเยอะมาก คลอดก้คลอดรพ.รัฐที่เดิม ปล.ตอนที่นอนมีคนลาวมาทำงานแล้วแต่งงานกับคนไทยมารักษาด้วยอาการเดียวกันค่ารักษา น่าจะตกเกือบๆแสนค่ะน่าสงสารมาก

เราว่าไม่จำเป็นต้องฝาก 2 ที่นะคะ มันอยู่ที่ร่างกายของแม่ ฝาก 2 ที่การรักษาและให้ยารวมถึงคำแนะนำไม่เหมือนกันอยู่แล้ว จะทานยาทั้ง 2 ที่เลยหรอ จะยึดอะไรเป็นหลัก ถ้าสุดท้ายเลือกคลอด รพ.รัฐ แล้วอีกที่จะไปฝากตั้งแต่แรกทำไม ถ้าฝากเอกชนต้องเงินพร้อมอยู่แล้วพร้อมรับความเสี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ ส่วนใครที่ไม่ชัวร์ให้ตัดสินใจดีๆก่อนไปฝากน่าจะเป็นทางออกดีกว่า แล้วแต่สิทธิ์การรักษาที่มี แล้วแต่กำลังทรัพย์ด้วย

ของแม่บ้านนี้มีอาการท้องแข็งเหมือนกันค่ะตอน 27 week 3 วัน ต้องนอน รพ.11 คืน ช่วงการรักษาต้องเข้า ICU ด้วย 3 คืน ในส่วนของการรักษายามีทุกสูตรจริงๆค่ะ ทั้งยาระงับคลอดแบบให้ผ่านเส้นเลือด(สายน้ำเกลือ) ยากิน รวมถึงยากระตุ้นปอดเด็กหากน้องคลอดออกมาจริงๆเด็กจะได้มีปอดที่ค่อนข้างสมบรูณร์ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนอนรพ.เอกชนซึ้งใช้สิทธิประกันสังคมขอดูใบเสร็จจากพยาบาล หมดไป156,000 บ.ค่ะ มีส่วนต่างที่ต้องจ่ายเองคือยากันแท้ง 580บ.ค่ะ

บ้านนี้มีเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันเลยจ้า ฝากสมิติเวช แต่เป็นตอน 33 w หมอให้ยาระงับกับขยายปอดเด็กจำนวน5เข็ม ตอนนี้กินยาแคปซูลเม็ดสีแดง ตอนนี้36+4 w แล้ว ทาง รพ. ก็แนะนำว่าถ้าปวดท้องหรือมีอาการน้ำเดินก่อน36 ให้เราเข้า รพ. รัฐ เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่จริงๆต้อง37w บ้านนี้ในท้องตัวใหญ่น้ำหนักเกินเกณฑ์ตอนซาวล่าสุด 35w น้องหนัก3200k ตอนนี้แม่เลยสบายใจ😂😂 สู้ๆนะคะคุณแม่ ขอให้ปลอดภัยทั้งคู่จ้า

คนรู้จักเราเขาฝากคลีนิค แต่ตอนคลอดคุยกับหมอและขอให้หมอคลีนิคไปผ่าที่เอกชน หมอไปนะคะ แต่ลูกเขาไม่มีปัญหา (จ่ายตามแพ็กเกจคลอด) อีกคนพี่สาวเรา ฝากและคลอด รพ เอกชน มีประกัน ตอนคลอดเด็กมีปัญหาสายรกพันคอ สุดท้ายได้ทำเรื่องย้ายลูกไป รพ รัฐ ..... รพ เอกชนแพงค่ะ ไม่รวมในเงินประกันที่ทำ และ รพ รัฐ เครื่องมือ , อุปกรณ์ เขาพร้อมกว่า