คุณแม่ที่เป็นโรคซึมเศร้า

เราคนนึงที่เป็นซึมเศร้าหลังคลอดเมื่อเกือบๆสองปีที่ผ่านมาค่ะ และเคยพบจิตแพทย์รักษาได้ยามากินแล้ว แต่เรากินยากินๆหยุดๆและหยุดยาเองเพราะเราให้ลูกกินนมแม่ แล้วอาการมันก็ดิ่งลงจนใช้ชีวิตไม่มีความสุขมองทางไหนมันดูเศร้าหดหู่แย่ไปหมด และตอนนี้เราท้องอีกคน35วีคแล้วท้องลูกคนนี้เรามีอาการหนักมากๆ ร้องไห้แบบไร้เหตุผล เครียดทุกเรื่อง ไม่เคยยิ้มไม่มีเสียงหัวเราะให้กับอะไรใดๆทั้งสิ้น จนเราตัดสินใจกลับไปพบจิตแพทย์และได้กลับมากินยาตั้งแต่20วีค จนถึงปัจจุบันตอนนี้35วีคแล้วเด็กก็แข็งแรงปลอดภัยดีนะคะ มันจะมียาที่คนท้องสามารถทานได้อยู่ค่ะหมอเค้าจะให้ยาต้านเศร้าหญิงตั้งครรภ์ในโดสที่ต่ำๆไม่อันตรายต่อทารกในครรภ์ค่ะ เราขอแนะนำถ้าแม่ไม่ไหวให้ไปพบจิตแพทย์เถอะค่ะมันคือทางออกที่ดีที่สุด ดีกว่าปล่อยให้มันดิ่งลงไปซ้ำๆแบบนั้นแล้วมันจะแย่ลงไปเรื่อยๆนะคะ ส่วนตัวเราตอนนี้อาการดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ โรคซึมเศร้ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากจริงๆคนไม่เคยเป็นไม่มีวันเข้าใจ ตอนนี้แม่ต้องรักษาจิตใจตัวเองให้ดีที่สุดก่อนแล้วพอจิตใจเราดีขึ้นเราจะมีความสุขในการเลี้ยงน้องที่จะคลอดออกมา กอดๆกันนะแม่ ไม่ได้มีแม่ที่เป็นคนเดียวมีเพื่อนเยอะแยะค่ะ สู้ไปด้วยกันน้า❤️✌️

เราเป็นซึมเศร้าและแพนิคก่อนการตั้งครรภ์มา 5 ปีค่ะ ทานยาต้านเศร้าตั้งแต่ก่อนท้องจนวันนี้ก็ยังทานอยู่ค่ะ ปรึกษาคุณหมอตลอดตั้งแต่วางแผนตั้งครรภ์ หากจิตใจไม่โอเคจริงๆ การไปหาหมอไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ มันคืออาการป่วยที่เราเผชิญอยู่ ถ้ายังไม่อยากทานยา ลองปรึกษานักจิตบำบัดก่อนได้ค่ะ เรารักษาทั้ง 2 แบบ และอาการดีขึ้นเยอะมากๆ แล้วค่ะ นักจิตวิทยา/จิตบำบัด : ไม่ใช้ยา แต่จะรับฟังและให้วิธีการคิด มุมมองใหม่ๆ จิตแพทย์ : ต่างจากนักจิตบำบัดแค่ ใช้ยาเพิ่มเข้ามา ตอนนี้เราตั้งครรภ์ 29+4w น้องแข็งแรงดีค่ะ ชีวิตมันอาจจะเหนื่อยไป หนักไปบ้าง แต่รักตัวเองและภูมิใจที่เราอยู่มาได้จนถึงวันนี้นะคะ กำลังจะมีเจ้าตัวน้อยแล้ว ยิ่งต้องรักตัวเองให้มากๆ ก่อนที่จะรักคนอื่นนะคะ 😊

ต้องหาหมอนะคะ คนที่เป็นมาก่อน หลังคลอดโอกาสที่ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายลูกสูงมากค่ะ แม่ใจเย็นๆ เข้าใจ ยอมรับแล้วรักษาหาทางแก้ไขนะคะ ส่วนตัวไม่ซึมเศร้า แต่เลี้ยงลูกเอง ยังเหนื่อยแทบบ้า หมดไฟกับทุกอย่างเลยค่ะ ไม่มีเวลาพักเลย เหนื่อยมากจริงๆ ถ้าเป็นโรคนี้แล้วไม่รักษา โอกาสเกิดเหตุต่างๆสูง และอันตรายมากค่ะ

เราเป็นซึมเศร้าก่อนตั้งครรภ์ + ไบโพล่า กินยารักษามาตลอดค่ะ พอท้องไปพบคุณหมอ ต้องหยุดยาทั้งหมดเหลือแต่ ต้านเศร้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าหยุดยาเองค่ะ การหยุดยาเองมีเอฟเฟค อันตรายมาก ตอนนี้คลอดน้องได้ 4 เดือนแล้วยะงคงกินยาต้านเศร้าทุกวันค่ะ ห้ามหยุดยา ยังไงไปปรึกษาคุณหมอนะคะแม่

ลองหาหมอดูนะคะแม่แล้วจะสบายใจขึ้นเยอะค่ะ เครียดมากไม่ดีต่อลูกในท้องน้าาา เดี๋ยวตอนคลอดจะแย่กว่านี้อีกค่ะไหนจะภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เราแทบขิต รักษาตั้งแต่เนิ่นๆดีกว่าค่ะแม่ ไปปรึกษาคุณหมอระบายให้หมอฟังในเรื่องที่เราพูดกับใครไม่ได้โล่งขึ้นเยอะค่ะ

เราก็เป็นตอนท้องร้องให้ทุกคืนเเต่ก็พยายามคิดในทางบวกให้มากๆคิดให้ไกลคิดถึงอนาคตให้มากๆ ตอนท้องไม่เท่าไหร่พอคลอดลูกหนักกว่าเดิมเเต่ยังดีที่มีเเม่ยายคอยซัพพอร์ตกันตลอดเลยรอดมาได้ทุกวันนี้ #อยากให้เเม่คิดถึงลูกในท้องให้มากๆนะคะสู้ไปด้วยกันค่ะ

หนักตั้งแต่แรกๆเลยค่ะ ดึ่งสุดๆ เคยผูกคอเกือบตุย แต่เชือกที่ผูกเป็นเชื่อกฟางมันขาดเลยรอดมาได้ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าท้อง(น้าจะได้1เดือนกว่าๆ )พอหลังคลอดร้องไห้ทุกวัน บางวันทรมานจนต้องได้กรีดแขนตัวเอง🙂🥲

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ปกติก็รักษาซึมเศร้าอยู่แล้ว พอรู้ว่ามีน้องเลยหยุดกินยา เพราะกลัวว่าจะมีผลกระทบกับน้อง ตอนนี้32วีค คือ ดิ่งมากๆ ร้องไห้ตลอด พยายามสู้ค่ะ แต่ก็กลัวว่าจะไม่ไหวก่อน😥😭

ควรไปค่ะ หลังคลอดมันหนักมากแม่ เราไม่ได้เป็นซึมเศร้าหลังคลอด 3 เดือนยังเกือบตายค่ะ ดิ่งแบบร่วงลงไปเลย ทุกวันนี้ลูก 1.2 ขวบแล้วก็ยังขุดตัวเองกลับมาไม่ได้เลยค่ะ 🥲

ไปปรึกษาคุณหมอนะคะ เราก็เป็นซึมเศร้า พอรู้ว่าท้องก็แจ้งคุณหมอ หมอก็ปรับตัวยาให้ ไม่ส่งผลกับน้องในท้อง ไม่ต้อง จิตตกหงุดหงิดเพราะอาการด้วยค่ะ