Rattanaphon profile icon
PlatinumPlatinum

Rattanaphon, Thailand

สมาชิก VIP
My Orders
Posts(11)
Replies(110)
Articles(0)

คุณแม่ตั้งครรภ์กับการทานหวานอย่างเหมาะสม

คุณแม่ตั้งครรภ์กับการทานหวานอย่างเหมาะสม ความหวานที่เราทานอยู่ในปัจจุบัน มาจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล น้ำผึ้ง และผลไม้ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานแต่พอดี เพราะหากทานเกินความพอดี จะนำไปสู่โรคเบาหวานแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ได้ โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้บริโภคน้ำตาล ไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน อีกทั้งองค์การอนามัยโลกยังออกคำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาล โดยย้ำว่าให้บริโภคต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณพลังงานทั้งหมดที่ได้รับในแต่ละวัน คำแนะนำในการทานหวานให้ดีต่อสุขภาพคุณแม่และทารก เมื่อความหวานมาจากหลากหลายที่ และแฝงมาในอาหารแปรรูปที่มองไม่เห็นเหมือนขนม เช่น น้ำอัดลม สิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยหลีกเลี่ยงโรคเบาหวานแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ หรือเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดคือ คุณแม่ต้องไม่ตามใจปาก โดยไม่ควรที่จะทานของหวานตลอดเวลา หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหารหลัก แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทานหวานได้ เรามาเลือกวิธีเลือกทานอาหารหวานแต่พอดี โดยสามารถทำได้ดังนี้ 1.ถ้ารู้สึกอยากดื่มน้ำอัดลมให้ชื่นใจ ดับกระหาย ขอให้คุณแม่เปลี่ยนมาเป็นดื่มน้ำผลไม้สดที่ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม หากต้องการเพิ่มความสดชื่น ให้นำน้ำผลไม้สดนำมาใส่น้ำแข็ง เวลาดื่มจะช่วยให้คุณแม่เย็นชื่นใจ และดับกระหายได้เหมือนกัน เหตุที่ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลม เพราะน้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีน้ำตาลถึง 7 – 10 ช้อนชานั่นเอง2.หากอยากทานผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น ทุเรียน ขอให้คุณแม่เปลี่ยนมาเป็นแก้วมังกรหรือฝรั่ง เนื่องจากมีปริมาณความหวานไม่สูงมาก เหตุที่ควรหลีกเลี่ยงทุเรียน เพราะทุเรียน 1 พูใหญ่เทียบเท่าปริมาณน้ำตาล 3.2 ช้อนชา 3.อยากทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หากคุณแม่ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเป็นการรับแป้งเกินความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ เพราะแป้งจะเข้าไปสะสมในร่างกาย แล้วเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ ทำให้อ้วนและเป็นเบาหวานได้ง่าย อาจจะเปลี่ยนเป็นทานสลัดผัก หรือผลไม้สดแทน เพื่อไม่ให้รับแป้งเกินไป และการทานผักหรือผลไม้ ยังเป็นการนำวิตามินต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้อีกด้วย 4.อยากทานไอศกรีม รสช็อกโกแลต รสกะทิ หรือรสต่างๆ ที่มีความหวานค่อนข้างสูง ให้คุณแม่เปลี่ยนมาทานไอศกรีมรสผลไม้ประเภท Low Sugar หรือ Sugar Free แทน เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างต่ำ สำหรับไอศกรีมช็อกโกแลต 1 สกู๊ป เทียบเท่าปริมาณน้ำตาล 3 ช้อนชา 5.อยากทานโยเกิร์ตรสผลไม้รวม ขอให้คุณแม่เปลี่ยนเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติแล้วใส่ผลไม้สดแทน เนื่องจากผลไม้ที่มาพร้อมโยเกิร์ตนั้น เป็นผลไม้เชื่อม ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ และทารกในครรภ์เลย 6.อยากทานผลไม้กระป๋องเย็นๆ น้ำเชื่อมในผลไม้กระป๋อง มีความหวาน และมีน้ำตาลที่สูงมาก คุณแม่ควรเปลี่ยนเป็นผลไม้แช่เย็นแทน เช่น แคนตาลูป เป็นต้น การทานหวาน ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน อาหาร เครื่องดื่ม หรือผลไม้ หากคุณแม่ทานน้ำตาลมากเกินที่ร่างกายต้องการ ย่อมเกิดเป็นผลเสีย และส่งผลกระทบไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ได้ ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีควรหันมาใส่ใจในสิ่งที่ทานเข้าไป จำกัดปริมาณน้ำตาลให้เหมาะสมในแต่ละวัน หากคุณแม่ทานหวานอย่างพอเหมาะ ย่อมดีต่อสุขภาพครรภ์อย่างแน่นอนค่ะ

Read more
คุณแม่ตั้งครรภ์กับการทานหวานอย่างเหมาะสม
undefined profile icon
Write a reply

แม่ๆมีอาการปวดหัวกันแบบใหนค่ะ? มาดูวิธีการบรรเทากันค่ะ

วิธีบรรเทาอาการปวดหัวในคนท้องให้ได้ผล คุณแม่สามารถบรรเทาอาการการปวดหัวนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ยา อาจเริ่มจากการนวด ประคบร้อนเย็น แช่ตัวด้วยน้ำอุ่นให้รู้สึกผ่อนคลาย หากคุณแม่ไม่รู้สึกปวดหัวมากนักก็ลองออกกำลังกายโดยการเคลื่อนไหวแบบช้าๆ ก็จะบรรเทาอาการได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ลองปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ที่อาจมีการเหนี่ยวรั้งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องมากเป็นพิเศษ หมั่นยืดเส้นยืดสายแบบเบาๆ หรืออาจเลือกใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ไทลินนอลและพาราเซตามอน ที่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลและการได้รับอนุญาตจากแพทย์ด้วย อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นในคนท้อง โดยปกติเป็นอาการปวดทั่วๆ ไปที่พบได้อยู่แล้ว การดูแลตัวเองด้วยวิธีที่กล่าวไปข้างต้น จะช่วยบรรเทาให้อาการปวดลดลง โดยแนะนำว่าหลีกเลี่ยงการใช้ยาให้เป็นทางเลือกสุดท้ายหากทนไม่ไหวจริงๆ เท่านั้นค่ะ

Read more
แม่ๆมีอาการปวดหัวกันแบบใหนค่ะ? มาดูวิธีการบรรเทากันค่ะ
undefined profile icon
Write a reply