หยิบอาหารกินเอง

เขาเรียกว่าฝึกBLW หรือ Baby Led Weaning ค่ะ คำถาม classic ...เริ่มได้เมื่อไหร่? -ก็เริ่มได้เมื่อลูกนั่งเองได้ดีแล้ว และให้ดีคือเริ่มมีการคว้าโน่นนี่นั่นเข้าปากด้วย โดยประมาณคือ 6 เดือนเป็นต้นไป (ถ้ามีโรคประจำตัว/คลอดก่อนกำหนด ถามหมอเด็กก่อนนะจ๊ะว่าลูกเราเหมาะจะทำได้ไหม) อุปกรณ์ที่ควรมี? - high chair เลยจ้ะ สำคัญมากๆ** ดอกจัน10ตัว เก้าอี้กินข้าวแบบมีพนักพิงหลัง และควรเป็นแบบสูง (ระดับเดียวกับโต๊ะกินข้าวผู้ใหญ่เพราะลูกจะเหมือนได้นั่งร่วมโต๊ะกินไปกับเราด้วยเลย) เพราะวิธีนี้ลูกต้องนั่งกินเท่านั้น!! ย้ำ นั่งเท่านั้นนะแจ๊ะ!! ไม่นอน ไม่เดิน ไม่วิ่ง ไม่กินบนรถ โอเค๊! -ผ้าพลาสติกปูรองใต้โต๊ะ ช่วยให้เราทำความสะอาดได้ง่าย (เพราะจะเลอะเทอะอย่างหนักแน่นอน555) อาหารที่ใช้เริ่ม? -เริ่มอะไรที่นิ่มๆแต่ไม่เละและจับถนัดมือก่อน เช่นผักนึ่งหรือ ผลไม้เนื้อนิ่ม ไข่เจียว ไข่แดงต้มสุก แต่ถ้าเริ่มกินเองคล่องแล้วแนะนำเป็นอาหารแบบเดียวกับบนโต๊ะผู้ใหญ่แต่แยกออกมาให้ลูกก่อนจะปรุงรสลูกจะแฮปปี้มาก (บอกว่ากินเหมือนผู้ใหญ่ก็จริงแต่ต้องไม่ใช่พวกที่สุ่มเสี่ยงต่อการสำลัก เช่น พวกอาหารทรงกลมเปลือกแข็งขนาดเล็กทั้งหลาย เหล้ายาปลาปิ้งก็ไม่เอานะแจ๊ะ เฮลโหลววว มีสติด้วย!!! ขออาหารถูกหลักโภชนาการจ้ะ😅) สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับหลักการของ BLW ก่อนเริ่มทำ? -ห้ามปล่อยลูกไว้คนเดียวตอนกินเด็ดขาด!!! **ดอกจันอีก 20ตัว** ต้องมีผู้ใหญ่ที่สติดี และเข้าใจวิธีการกินอาหารแบบนี้อยู่ด้วยตลอดเวลา -มีฟันหรือไม่มีฟันไม่ใช่ประเด็นในการเริ่ม ลูกจะใช้เหงือกเป็นตัวบดอาหารจ้ะ อย่าดูถูกเด็กเหงือกนะเออ กัดและเคี้ยวบดไก่ย่างละเอียดเชียวแหละ😁 -รอให้ลูกหยิบเข้าปากเอง ไม่ต้องป้อน ไม่ต้องดันมือช่วยหรือเชียร์อัพใดๆ แรกๆลูกอาจจะแค่ขยำเล่นโดยไม่ได้เอาเข้าปากก็ไม่ต้องซีเรียส เดี๋ยวก็กินเอง บางคนใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะกินก็มี อย่ากดดันลูกว่าต้องกินได้เท่านั้นเท่านี้ เค้าจะเป็นคนกำหนดปริมาณที่เค้าจะกินเอง ให้เค้ารู้สึกว่าเวลากินเป็นเวลาแห่งความสุข เรามีหน้าที่แค่นำเสนออาหารให้เค้าได้รู้จักอย่างหลากหลาย บนพื้นฐานของความมีประโยชน์ ถูกหลักโภชนาการ และปลอดภัยก็พอ😉 -อาการขย้อน (gag reflex) เหมือนเวลาที่หมอเอาไม้กดลิ้นดูคอแล้วเราอ๊อกนั่นแหละ แบบนั้นเลย มีได้เป็นปกติไม่ต้องตกใจ (จริงๆเด็กที่ป้อนอาหารก็มีอาการนี้เหมือนกันแต่อาจจะน้อยกว่า) gag ของผู้ใหญ่จะเกิดเมื่อคอหอยถูกกระตุ้น แต่จุดกระตุ้น gag ของเด็กจะอยู่ตื้นกว่าของผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นก็จะถูกกระตุ้นได้ง่ายกว่า จริงๆแล้ว gag เป็นกลไกป้องกัน"ปกติ"ของร่างกายเพื่อไม่ให้อะไรหลุดลงไปติดคออุดทางเดินหายใจเราได้ คือเมื่อเกิด gag อาหารจะถูกขย้อนออกมาด้านหน้า เด็กก็จะเคี้ยวให้ละเอียดอีกครั้งแล้วค่อยกลืนใหม่ บางคนอาจจะอาเจียนออกมาเลยก็มี แต่ลูกจะเริ่มเรียนรู้ที่จะจัดการกับอาหารนั้นๆได้ดีขึ้น เช่นไม่กัดคำใหญ่เกินไป และเรียนรู้การเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนก็จะเกิดน้อยลงเรื่อยๆ ต่างกับอาการที่อาหารติดคอและไปขวางทางเดินหายใจ (choke) ที่จะไอไม่ออก หน้าซีดหน้าเขียว ดูทุรนทุราย และมีสีหน้าเปลี่ยน อันนี้ต้องรีบช่วยเลยทันที (ซึ่งจะมีพูดถึงในโพสถัดๆไปอย่างละเอียด) ซึ่งถ้าเรานั่งดูอยู่ตลอด เลือกอาหารให้เหมาะสม และที่สำคัญคือให้ลูกนั่งกินบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังโอกาสเกิดก็น้อยมาก ยิ่งเวลากินเค้าจะก้มตัวมาข้างหน้านิดๆด้วยนี่ยิ่งดีเลย **ประเด็นคือ ถึงแม้จะเป็นการป้อน แต่ถ้าไม่ได้ให้ลูกนั่งกินให้ดี ลูกก็สามารถเกิด choke ได้เช่นกันนะจ๊ะ** -อุจจาระของลูกอาจเห็นเป็นเศษอาหารเล็กๆที่ทานเข้าไปปนออกมาด้วยในช่วงแรกๆ ไม่ผิดปกติ สักพักก็จะปรับตัวจนถ่ายปกติเอง -ควรมีความรู้พื้นฐานในการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีที่เด็กมีอะไรหลุดลงคอจนอุดกั้นทางเดินหายใจ (choke) อย่างถูกต้อง อันนี้ถึงไม่ได้ให้ลูกกินอาหารด้วยวิธีนี้ก็ควรรู้!!! และควรให้คนที่ดูแลลูกให้เรารู้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญมากเลย -อื่นๆก็เหมือนกับการกินโดยการป้อน คือต้องสร้างสุขนิสัยที่ดีในการกิน กินเป็นที่ ไม่ดูทีวี/tablet ไม่เล่นของเล่น ถึงเวลาก็เก็บ แต่อาจจะเผื่อเวลาให้มากขึ้นหน่อยถ้าใช้วิธี BLW ในช่วงแรกๆ ประโยชน์ของการให้ลูกกินโดยวิธี BLW (ในความคิดแม่หมอ) -สร้างทัศนคติที่ดีต่อการกินของลูก...ลูกมีความสุขกับการกินอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องคอยล่อหลอกเลยเวลาให้กินแบบนี้ เพราะลูกอยากจะกินและทำเลียนแบบเราอยู่แล้ว😄ใครที่ลูกกินยากน่าลองมาก😉 -ฝึกพัฒนาการทั้งเรื่องการเคี้ยวและการใช้กล้ามเนื้อมือ...อันนี้เห็นได้ชัดเลย ลูกแม่หมอตอนกินแก้วมังกรแรกๆ จับขึ้นมาก็ขยำจนเละคามือตลอดเพราะกะแรงไม่ถูกเลยได้แค่เลียๆดูดๆที่ติดอยู่ตามง่ามนิ้ว😂 แต่พอชิ้นหลังๆลูกสามารถกะแรงจับแก้วมังกรโดยไม่เละคามือได้สำเร็จ (หน้าตานางดีใจมาก😆) แต่อารามกัดคำใหญ่ไปอี๊ก 555 ก็เจอ gag ไปตามระเบียบ (อิแม่แอบตกใจเล็กน้อยแต่เก็บอาการ555) -ลูกช่วยตัวเองได้เร็วขึ้น เป็นการฝึกการรับผิดชอบต่อตัวเองในเบื้องต้น -ไม่ต้องเสียเวลาปั่นอาหาร/ป้อนอาหาร ข้อจำกัด/ข้อเสียของ BLW (ในความคิดของแม่หมออีกเช่นกัน) -ตามทฤษฎีเค้าคือจะไม่ซีเรียสกับปริมาณอาหารที่กินในช่วงขวบปีแรก (เน้นกินเพื่อความสนุกสนานและเรียนรู้) เพราะถือว่าให้เด็กกินนมเป็นหลัก แล้วพอกินอาหารได้ดีเด็กจะลดปริมาณนมเอง แต่ๆๆๆ อย่างที่เรารู้ๆกันว่าในเด็กที่กินนมแม่นั้นปริมาณของธาตุเหล็กไม่เพียงพอ แล้วอีกซักพักแคลเซียมก็จะไม่พอด้วย เด็กบางคนที่เริ่มวิธีนี้แรกๆกินได้น้อยมากถึงแทบไม่กินเลย(เอาแต่บี้อาหารเล่น ปาเล่น) บางคนกินเวลาช่วงนี้เป็นเดือนๆ ซึ่งจะกินแต่นมแม่เป็นหลักไปจนเกือบขวบนี่ไม่ดีแน่ๆ เราต้องคอยสังเกตปริมาณและชนิดของอาหารที่ลูกกินอย่างละเอียดด้วย -บริบทบางครอบครัวทำได้ยาก เช่น บ้านแม่หมอทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่ กลางวันปู่ย่าตายายเลี้ยงให้ ส่วนมากกินข้าวนอกบ้านกัน ถ้าทำกินในบ้านก็มักเป็นอาหารใต้รสจัด เอาเข้าจริงมาทำแยกให้ลูกทุกมื้อไม่สะดวกเท่าทำอาหารปั่นแช่ฟรีส 1-2 อาทิตย์ครั้งล่ะ😅😅 และก็เนื่องจากปู่ย่าตายายเลี้ยงนี่เอง ที่ยังไงก็ยืนยันที่ขอป้อนหลานดีกว่า เพราะทำใจกับ gag reflex ไม่ได้จริงๆ แม้เราจะอธิบายแล้วก็ตาม (ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะขนาดเราเองแรกๆยังตกใจเลย) -หลังมื้ออาหารนี่สภาพเละเทะมากจ้าาาาาา😑😑ต้องทำใจ แต่มันก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ (ผ้าพลาสติกช่วยท่านได้😂) แล้วสรุปแม่หมอทำแบบไหน? -mix and match โลดจ้า 555 คือมีมื้อที่ป้อนด้วย เพราะแม่หมอเองทำงานนอกบ้านไม่ได้คอยดูเองตลอด และต้องการปริมาณที่ชัดเจนว่าลูกกินได้เพียงพอตามที่เรากะไว้แน่ๆ และอีกเหตุผลก็คือคุณยายที่เลี้ยงให้ตอนกลางวัน เธอบอกว่าเธอ#สะดวกแบบนี้😂 แต่บางมื้อที่แม่หมออยู่ด้วยและพร้อมทำอาหารก็ให้เค้ากินเอง หรือพวกมื้อผลไม้ว่างนี่จะให้หยิบกินเองเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญคือไม่ว่าจะให้ลูกกินแบบไหนก็ต้องทำให้มื้ออาหารเป็นเวลาแห่งความสุขของทุกคนในบ้าน ไม่บังคับยัดเยียด ไม่อารมณ์เสีย ให้กินเมื่อถึงเวลา ไม่กินคือเก็บ(อย่างอารมณ์ดีและไม่เสริมนม/ขนมระหว่างมื้อ) ไม่มีการเดินไปกินไปหรือเล่นไปกินไปก็โอเคแล้วจ้ะ และถึงจะใช้วิธีป้อนอาหารบดช่วงแรกแต่เมื่อถึงวัยหนึ่งประมาณ 8-9 เดือนขึ้นไป ก็ควรเริ่มหัดให้ลูกช่วยตัวเองบ้าง ค่อยๆฝึกใช้ช้อนส้อมตักข้าวกินเอง ใช้หลอดดูดน้ำเองและเลิกขวดนมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก็ถือว่าเป็นการฝึกวินัยในการดูแลตนเองได้เหมือนกัน😊 สุดท้าย...BLW เหมาะกับใคร? -แม่หมอคิดว่าถ้าจะทำ 100% เลยอาจจะเหมาะกับแม่ full time หรือบ้านที่คนเลี้ยงหลักมีความเข้าใจในหลักการและวิธีการเป็นอย่างดี แล้วก็ทำอาหารกินเองที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยอาจจะต้องปรับอาหารของเราให้เหมาะที่จะทำเผื่อลูกด้วย รวมถึงต้องสังเกตอย่างจริงจังว่าลูกได้อาหารเข้าไปเพียงพอจริงไหม

มีประโยชน์มากค่ะ เคยลองปรึกษาแฟนให้ลูกลองหยิบอะไรกินเองมั้ย ตอนนี้ได้7เดือนแล้ว เก้าอี้กินข้าวก็มี โดนด่าใหญ่เลย 😂ปล. เด็กเหงือกไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ ลูกเคยดึงนิ้วไปกัด เจ็บมากขนาดฟันยังไม่ขึ้น