แม่ๆท่านไหนเคยเอาไฟฉายโทรสับ ส่องท้องบ้างคะ เมื่อกี้ลูกดิ้นหนักมาก แม่เลยเปิดแฟลชถ่ายวีดีโอลูก 23วินาที สักพักลูกก็ไม่ดิ้น แม่แอบกังวลคะ ว่าลูกจะเป็นอันตราย ตอนนี้ 34+2 วีค #แม่ท่านไหนเคยเอาส่องช่วยตอบด้วยนะคะจะได้หายกังวล?
#ลองอ่านดูนะคะ พัฒนาการมองเห็นของทารก พัฒนาการมองเห็นของทารกนั้น เริ่มขึ้นเมื่อทารกในครรภ์เจริญเติบโตขึ้น ส่วนแรกของระบบการมองเห็นที่เริ่มพัฒนาก็คือ เส้นประสาทตา โดยที่ ในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของการตั้งครรภ์ เซลล์จากเนื้อเยื่อสมองที่กำลังพัฒนาจะมารวมตัวกัน และเริ่มพัฒนาเป็นเส้นประสาทตา 2 เส้น โดยอยู่คนละข้างของศีรษะ และเซลล์ชั้นนอกของทารกในครรภ์ก็จะเริ่มพัฒนาเป็นเลนส์ตา หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน หรือประมาณสัปดาห์ที่ 8 ของการตั้งครรภ์ ชั้นของเซลล์ที่ด้านหลังของดวงตา ทำหน้าที่รับและประมวลผลแสง จะเริ่มพัฒนาขึ้น สัปดาห์ที่ 16 เซลล์เหล่านั้นได้เริ่มที่จะรับแสงได้แล้ว แม้ว่าลูกน้อยยังไม่สามารถเปิดเปลือกตาได้ แต่ดวงตาของลูกน้อยก็สามารถเคลื่อนไหวไปทางด้านข้างได้เล็กน้อย เพื่อตอบสนองต่อแสง เมื่อเข้าสู่ในช่วงท้ายของไตรมาสที่ 2 หรือประมาณสัปดาห์ที่ 26 ของการตั้งครรภ์ ตาของทารกเริ่มที่จะพัฒนาเต็มที่แล้ว ลูกน้อยไม่เพียงสามารถรับรู้แสงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเปิดเปลือกตา เริ่มลืมตาและกะพริบตาในยามตื่นได้แล้ว แม้ว่าภายในท้องของคุณแม่จะไม่มีอะไรให้ลูกน้อยได้ดูมากนัก แต่ลูกน้อยก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของแสงภายนอก โดยตั้งแต่ในช่วงเดือนที่ 7 ของการตั้งครรภ์ ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่อาจจะลองวิธีใช้ไฟฉายส่องท้อง เพื่อกระตุ้นสมองและการมองเห็นของลูกในครรภ์ ซึ่งถ้าเขารู้สึกได้ เขาก็อาจจะเริ่มตอบสนองด้วยการเตะกลับมาได้ครับ วิธีใช้ไฟฉายส่องท้อง กระตุ้นสมองและการมองเห็นของลูกในครรภ์ รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึง วิธีการกระตุ้นทารกในครรภ์ ด้วยการใช้ ไฟฉายส่อง ไว้ว่า ทารกในครรภ์สามารถกะพริบตา เพื่อตอบสนองต่อแสงไฟที่กระตุ้นได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน การส่องไฟที่หน้าท้อง จะทำให้เซลล์สมองและประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นมีพัฒนาการที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการมองเห็นหลังจากที่คลอดออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การส่องไฟฉายที่ท้อง ไม่จำเป็นต้องไปเล็งว่าแสงจะเข้าตรงกับนัยน์ตาของลูก เพียงแค่ให้ลูกรู้ว่ามีแสงส่องเข้ามาก็น่าจะพอแล้วละครับ วิธีการใช้ไฟฉายส่องท้อง 1.ในตอนกลางคืน คุณแม่อาจให้คุณพ่อใช้ไฟฉายส่องที่หน้าท้อง โดยเปิดและปิดไฟฉายสลับกันไปมา พร้อมทั้งบอกกับลูกทุกครั้งว่า “แม่จะเปิดไฟแล้วนะ – ลูกมองเห็นแสงไหมจ๊ะ – แม่จะปิดไฟแล้วนะ – ลูกมองไม่เห็นแล้วใช่ไหมจ๊ะ” 2.ใช้ไฟฉายส่องไปที่หน้าท้อง เพื่อกระตุ้นสมองส่วนที่รับรู้แสง แล้ววาดวนเป็นวงกลมรอบสะดืออย่างช้าๆ ทารกในครรภ์จะเริ่มเคลื่อนไหว และเริ่มสนใจในแสงไฟ แต่หากส่องนานและบ่อยจนเกินไป ก็อาจทำให้ลูกน้อยรู้สึกเบื่อ และความสนใจจะน้อยกว่าตอนที่เริ่มส่องไฟได้เหมือนกันนะครับ 3.นอกเหนือจากไฟฉายแล้ว คุณแม่อาจลองใช้สัญญาณไฟกะพริบ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกปรับสภาพการมองเห็นได้ดีขึ้น แต่ต้องวางให้ห่างจากบริเวณหน้าท้องพอสมควรเพื่อความปลอดภัยนะครับ ที่สำคัญแสงต้องไม่สว่างจ้าเกินไป 4.หากใช้ไฟฉายส่องที่หน้าท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ แล้วทารกในครรภ์มีการตอบสนอง เช่น เตะ ถีบหน้าท้อง หรือลูกดิ้น นั่นก็หมายความว่าลูกน้อยสามารถรับรู้ได้และเกิดการตอบสนองนั่นเอง 5.สำหรับไฟฉายที่จะนำมาใช้สำหรับส่องท้องนั้น ควรเป็นแบบ 2 ท่อน 3 ท่อน หลอดธรรมดา ห้ามใช้แบบหลอดแรงสูงเด็ดขาด เพราะแสงที่จ้าเกินไปแทนที่จะเป็นผลดี แต่กลับจะทำให้เกิดอันตรายต่อจอประสาทตาของทารกได้ 6.นอกจากการกระตุ้นสมองและการมองเห็นของลูกในครรภ์ ด้วยวิธีใช้ไฟฉายส่องท้องแล้ว การออกไปยืนรับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าหรือยามเย็น ก็เป็นการช่วยกระตุ้นลูกในท้องได้อีกวิธีเช่นกันนะครับ
อ่านเพิ่มเติมเราทำค่ะ เอาไฟส่องท้อง เปิดเพลงโมสาร์ทให้ลูกในท้องฟัง ทำให้ลูกอารมณ์ดี ส่วนไฟส่องท้องเคยอ่านเจอมาว่า เด็กสามารถมองเห็นตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่จะเห็นแค่แสงสว่างเฉยๆ
ปกติ ใช้ไฟฉายส่องได้คะ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการ ตั้งแต่ในครรภ์ ทั้งคุยกับลูก เปิดเพลง ทำได้ตามช่วงอายุครรภ์คะ ในแอปนี้จะบอกนะคะ
มีแม่ไม่ หลายคนทำครับ บอกว่าเกี่ยวกับพัฒนาการ แต่บ้านนี้ไม่เคยทำครับ / รอแม่ๆที่รู้มาตอบนะครับ
ไม่แนะนำให้ใช่ไฟฉายโทรสัพนะคะ มันแรงเกินไป มันจะทำให้ลูกน้อยในท้องแสบตา #อ่านมาจากหนังสือคะ
เล่นคะ ตอนนี้ท้องจะ6เดือนส่องไฟคุยกันคะแต่ไม่ได้ส่องทุกวัน ลูกน่าจะชอบกระตุ้นเค้าดีคะ
ไฟฉายโทรสับน่าจะสว่างเกินไปนะคะน้องอาจจะแสบตาได้ค่ะ
ไฟส่องจะช่วยกระตุ้นประสาทการมองเห็นของน้องคะ
ให้ใช้ไฟฉากคะ เพราะโทรศัพท มีเครือสัญญาน