แชร์ประสบการณ์ ผ่าไส้ติ่งตอนอายุครรภ์ 9 weeks ค่ะ
เริ่มแรกเลยคือมีอาการเหมือนแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะเลยไม่คิดอะไรมากเป็นอยู่ 2 วัน อาการปวดย้ายมาที่ท้องด้านล่างขวา ถ้าเท้าเอวก็ตรงนิ้วมือพอดี ก็มีคิดว่าใช่ไส้ติ่งไหมนะ แต่อาการแวดก็ไม่ได้ปวดมากมายอะไรเหมือนลำไส้บิดตอนอาหารเป็นพิษ ก็ทนไปวันกว่า เพราะมีนัดหมอสูติที่ฝากครรภ์ไว้ พอไปหาหมอก็แจ้งอาการปวดท้องแต่หมอบอกว่าน่าจะเป็นมดลูกขยายตัว กับท้องอืดให้กินยาธาตุน้ำขาวดู อัลตราซาวด์ด้วยหมอก็ว่าปกติ ก็กลับบ้านมาทนปวดอีกวันนึง วันต่อมาก็ไปหาหมออีกรอบคราวนี้หมอลองกดตรงที่เจ็บแล้วก็บอกว่าน่าจะเป็นไส้ติ่ง ส่งตัวต่อให้หมอศัลยกรรม หมอก็แจ้งว่าน่าจะใช่ไส้ติ่ง แต่เป็นรพ.เอกชน ค่าผ่าแพงมาก เลยส่งตัวไปรพ.รัฐเพราะเบิกได้ด้วย แล้วก็ไปอัลตราซาวด์ดูไส้ติ่ง ปรากฎว่าใช่จริงๆเลยได้ผ่าไส้ติ่งวันนั้นเลยตอนทุ่มกว่า หมอแจ้งว่ามีความเสี่ยงที่จะแท้งนะคะ แต่น้อยมาก จะไม่ผ่าก็ไม่ได้ เพราะถ้าไส้ติ่งแตกก็อาจจะติดเชื้อในกระแสเลือดก็เป็นอันตรายกับลูกอยู่ดี สรุปว่าไส้ติ่งแตกแล้วด้วย แต่อาการตอนนั้นคือไม่รุนแรงอะไรเลย นอนรอหมอพาไปผ่าชิลๆ ไม่มีไข้ ไม่ได้ปวดทุรนทุราย เหมือนมารพ.แล้วปวดน้อยกว่าอยู่บ้านด้วยซ้ำ ก็ได้นอนรพ.ไป3 คืน ให้ยาฆ่าเชื้อ เพราะลำไส้อักเสบด้วย แต่หมอก็ดีค่ะเค้ามีการปรึกษากับหมอสูว่าใช้ยานี้มีผลกับเด็กไหม สุดท้ายเลยอยากเตือนแม่ๆ ถ้าปวดท้องตรงขวาล่างแจ้งหมอสูเลยว่าขอเช็คว่าเป็นไส้ติ่งไหม แล้วก็ไม่โทษหมอสูค่ะ เพราะความถนัดของหมอก็ต่างกัน ตอนนี้ก็ผ่าได้2อาทิตย์กว่าแล้ว วันเสาร์นี้ว่าจะไปอัลตราซาวด์เช็คน้องดูหน่อยว่ายังสบายดีไหม ก็เป็นกังวลเล็กๆ เพราะนี่ไม่แพ้ท้องไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ 5555 #ท้องแรกคะ #เตือนแม่ๆบ้านอื่นนะคะ #ผ่าไส้ติ่งตอนท้อง