เมื่อต้นปีเดือน มค. แม่ติดเชื้อโควิดตอนนั้นอายุครรภ์ 31สัปดาห์ เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ. แม่ไม่ได้กินยาฟาวิดพิราเวียร์นะคะ คุณหมอให้เป็นยาต้านแบบฉีดแทน มีอาการท้องแข็งนิดหน่อย (อาจเพราะน้องโกงตัว) หมอกลัวว่ายาที่ให้จะมีผลข้างเคียงกับลูก เลยปรึกษากันกับหมอสูติฯให้มาดูแลเรื่องลูก หมอสูติฯเลยมาติดเครื่องฟังคลื่นหัวใจให้ทุก3วัน และฟังเสียหัวใจลูกวันละ3ครั้ง ตอนนั้นลูกดิ้นดีมากหัวใจเต้นปกติ ระยะรักษาตัวโควิดรวมกักตัวทำให้เราขาดการฝากครรภ์กับที่คลินิกไป1เดือน แต่ตอนนั้นคิดอยู่แล้วว่าจะมาฝากครรภ์ต่อและคลอดที่ รพ. ที่รักษาโควิดเพราะมีสิทธิ์บัตรทองอยู่ ถึงวันที่เข้าฝากครรภ์แรกกับทาง รพ. หมอได้ให้ซาวด์ดูลูก ตอนนั้นอายุครรภ์ 34 สัปดาห์ ลูกมีน้ำหนัก 1725 ก. หมอแจ้งว่าน้องค่อนข้างตัวเล็ก ให้ทานอาหารเน้นโปรตีน กลับจาก รพ. แม่เลยกินไข่ต้มวันละ 2ฟอง นมกล่องวันละ3กล่อง นมแพะเช้า-ก่อนนอน กล้วย2-3ลูก น้ำเต้าหู้ น้ำมะพร้าว ตอนนั้นคิดว่าไปตรวจอาทิตย์หน้าขอให้หนักเพิ่มขึ้นเป็น2000+ ขึ้นก็ยังดี ในช่วงอาทิตย์นั้นลูกดิ้นน้อยลง ลองเอานิ้วดันลูกถึงจะขยับตัว พอไปหาหมอในอาทิตย์ต่อมา 35สัปดาห์เราได้แจ้งหมอว่าลูกดิ้นน้อย หมอบอกลูกอาจตัวใหญ่ขึ้นพื้นที่น้อยลงแต่จะซาวด์ดูอีก1รอบ ซาวด์รอบนี้น้ำหนักลูก 1817 ก. ขึ้นมาไม่ถึง100 ก.เลย😭 หมอที่ฝากบอกน้องตัวเล็กไป เลยติดต่อให้หมอที่เชี่ยวชาญเรื่องครรภ์เสี่ยงมาดู พอหมออ่านประวัติว่าเคยติดเชื้อโควิดมาหมอพูดคำแรกเลยว่า ‘ตามตำราเลย แม่ตั้งครรภ์เข้าไตรมาสสุดท้ายแล้วติดเชื้อโควิด ได้รับยาต้าน น้องอาจจะตัวเล็กกว่าทารกทั่วไป แต่หัวใจ ปอด หลอดเลือด รกของน้องทุกอย่างปกติดี’ แม่เลยถามว่านอกจากตัวเล็กแล้ว พัฒนาการอย่างอื่น เช่นสมอง กับอวัยะอื่นๆจะมีผลด้วยมั๊ย หมอบอกตรงนี้ต้องติดตามอาการไปเรื่อย จากนี้ไปหมอนัดตรวจฟังคลื่นหัวใจลูกทุกอาทิตย์จนถึง 38สัปดาห์แล้วหมอจะซาวด์ดูอีกรอบนึงเพื่อเตรียมคลอด แม่กังวลมากว่าลูกจะคลอดน้ำหนักน้อยเกินแล้วจะได้เจอลูกช้า กลัวหมอเอาลูกเข้าตู้อบนาน แม่กังวลไปต่างๆนานา
#คุณแม่ๆช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ใครมีตัวช่วยดีๆช่วยเพิ่มน้ำหนักลูกแนะนำแม่หน่อยค่ะ จากเครียดอยู่แล้ว เครียดหนักกว่าเดิม #ท้องแรกคะ
ปล.ลูกชอบออกเที่ยว ไปข้างน้องดิ้นโชว์หมอไม่หยุด อยู่บ้านเงียบกริบ 🤣