5 ตอบกลับ
โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่หรือช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร? ปกติแล้วเยื่อบุมดลูกของเราควรอยู่ภายในมดลูก แต่กลับไปเจริญอยู่ในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น รังไข่ เอ็นยืดมดลูก ผนังช่องท้องหรือลำไส้ เนื่องจากเซลล์เหล่านี้เป็นเซลล์ที่มีชีวิต สามารถเจริญเติบโตได้จากการได้รับฮอร์โมนในร่างกายมากระตุ้น โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงหรือที่เราต่างรู้จักกันดีในชื่อของ ฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยเมื่อเริ่มแรกที่มีการเกาะหรือฝังตัวของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกตามที่ต่าง ๆ เซลล์ เหล่านี้จะมีขนาดเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลคล้ายจุดห้อเลือด ในแต่ละเดือนก็จะโตขึ้นและกลายเป็นถุงน้ำ ซึ่งภายในบรรจุด้วยของเหลวซึ่งก็คือเลือดนั่นเอง เมื่อมีการสะสมของเลือดนาน ๆ สีเลือดจึงเปลี่ยนเป็นสีเข้ม และน้ำบางส่วนในก้อนถูกดูดกลับ จึงทำให้เกิดลักษณะของเหลวสีน้ำตาลเข้ม และข้น คล้ายสีและลักษณะของช็อกโกแลต จึงเป็นที่มาของชื่อ ช็อกโกแลตซีสต์นั่นเอง เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับโรคนี้ โดยพบว่าร้อยละ 10-20 ในกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีประจำเดือน และพบบ่อยขึ้นร้อยละ 30-40 ในกลุ่มที่มีภาวะมีบุตรยาก ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่แต่งงานและมีเพศสัมพันธุ์อย่างสม่ำเสมอ ในระยะ 1 ปี ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ โรคนี้ที่พบได้บ่อยขึ้นในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการวินิจฉัยที่เร็วและแม่นยำขึ้น เช่น การตรวจอัลตร้าซาวด์ และคนไข้ส่วนที่เคยคิดว่าการปวดท้องประจำเดือนเป็นเรื่องปกติ ตื่นตัวมารับการตรวจมากขึ้น
อะไรคือปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคนี้? พบว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่หรือช็อกโกแลตซีสต์นั้นได้แก่ พันธุกรรม หรือกลุ่มที่เกิดจากการทำงานของรังไข่มากเช่น กลุ่มที่มีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังน้อย มีรอบเดือนสั้น หรือมีปัจจัยขัดขวางการไหลของประจำเดือน เช่น มีการปิดของเยื่อพรหมจรรย์ เลือดประจำเดือนไหลออกทางช่องคลอดไม่ได้ เลือดจึงไหลกลับเข้าช่องท้องมากขึ้น อาการของโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ปวดท้องประจำเดือน โดยมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนปวดประจำเดือนทั่ว ๆ ไป และจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในทุก ๆ เดือน เช่น เคยปวดและหายโดยไม่ต้องทานยาจนต้องทานยา หรือเคยใช้ยากินแต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นยาฉีดแก้ปวด ปวดหรือเจ็บลึก ๆ ที่ช่องคลอดหรือท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธุ์ เนื่องจากพังพืดจากตัวโรค ยึดมดลูกไว้ ทำให้มดลูกไม่สามารถเคลื่อนไปมาได้อิสระ โดยเฉพาะพังพืดบริเวณเอ็นยึดมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดเวลามีแรงกระแทกที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธุ์ ภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากโรคนี้มักพบถุงน้ำบริเวณรังไข่ ทำให้ประสิทธิภาพในการตกไข่เสียไป หรือเกิดพังผืดบริเวณท่อนำไข่ทั้งสองข้าง ทำให้ไข่ไม่สามารถ เกิดการปฏิสนธิ หรือเดินทางมาฝังตัวที่มดลูกได้
เคยได้ยินหมอบอกว่า ซีสมันเจริญเติบโตได้เพราะเลือดประจำเดือนค่ะ การที่เราไม่มีประจำเดือนเพราะตั้งครรภ์ จะส่งผลให้ซีสฝ่อไปเอง
บ้านนี้ก็เป็นซีสค่ะแต่หายแล้วเด่วมันก็ฝ่อไปเองค่ะ แม่อย่าคิดมากอย่าเครียดนะค่ะ ดูแลสุขภาพเพื่อลูกค่ะ
Benjawan Rungrawee