ป้อนกล้วย

คนแก่ยิ่งพูดก็ยิ่งทำ บ้านนี้ใช้วิธีพูดดีๆค่ะ “ลองป้อนได้นะแต่ค่อยๆให้ทีละนิด ป้อน2ช้อน วันนี้ขอดูก่อนว่าน้องกินไปแล้วถ่ายมั้ย ถ้าไม่ถ่ายต้องเว้นการป้อนไปก่อนนะ” แล้วต่อด้วย “ถ้าท้องอืดก็จะงอแงสงสารหลาน” **เค้าขอป้อนตอน3เดือนกว่าๆ โชคดีที่น้องไม่ยอมกิน กินแล้วอ้วกนมออกมาหมดเลย แกเลยไม่ป้อนอีก

เอาสมุดฝากครรภ์ให้เขาอ่านเลยค่ะ บอกเขาไปเลยว่าถ้ามันไม่จริงว่าควรป้อนหลัง6เดือนเขาจะมาเขียนเพื่ออะไร เอาพวกข่าวให้เขาดูเยอะๆเลยค่ะ เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพราะลำไส้เยอะ ถ้ายังเถียงเราอีกบอกไปเลยจ้า กว่าหมอจะเรียนจบถ้าที่บ้านรู้มากกว่าหมอก็ไม่ต้องไปหาหมอนะคะเวลาเป็นอะไรมา

เบื่อกับคำว่าแต่ก่อนก็เลี้ยงมาแบบนี้มาก​ ผู้ใหญ่ที่บ้านก็ประมาณนี้เหมือนกันค่ะ​ จะเอาน้ำมาป้อนบ้างล่ะ​ เอาแป้งโยคีมาทาบ้างล่ะ(ลูกเราเป็นG6PDเค้าแพ้อะไรที่มีส่วนผสมพวกการบูน​ พิมเสน​ ซึ่งในแป้งมี)​เครียดเหมือนกันเพราะเราจะหมดกำหนดลาคลอดแล้ว​ กลัวเค้าเอากล้วยมาป้อน

หลัง 6 เดือนดีที่สุดคะแม่ ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายน้องยังทำงานไม่สมบูรณ์ นมแม่ล้วน น้ำเปล่าก็ไม่ต้องคะ เป็นอะไรขึ้นมาไม่คุ้มคะ แค่ลูกทานนมแม่แล้วร้องงอแงท้องอืดทุกเย็นมา2-3เดือนก็เหนื่อยแล้วคะ

ชี้แจงไปค่ะ ว่าสมัยก่อนกับสมัยนี้มันต่างกัน โรคก็เยอะขึ้น แล้วถ้าหลานเป็นอะไรขค้นมาจริงๆ ย่ากับอาจะรับไหวมั้ย รอหลัง 6 เดือนค่อยป้อนละกันนะ บอกไปว่าเรื่องนี้คุณหมอห้ามจริงๆ

เป็นเหมือนกันเลยคะจะป้อนกล้วย แต่ดีนะหนูไม่ให้เลี้ยงเลยแค่ให้เล่นให้อุ้มพอ คตแก่คนโบราณก็งี้แหละคะ อธิบายก็หาว่าเราเถียง หนักใจคะ

ให้ทานกล้วยหลัง 6 เดือนดีที่สุดค่ะ เพราะกระเพาะของลูกช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือนมาสามารถย่อยโปรตีนจากนมเเม่หรือนมวัวได้เเค่นั้นค่ะ

ถ้าเป็นเราๆไม่ให้เข้าใกล้ลูกเราอีกแล้วค่ะ ไม่ให้ลูกเสี่ยงอีกเด็ดขาด ต้องปกป้องลูกนะคะ ไม้แก่ดัดยาก พูดให้เค้าเชื่อเราก็ยาก

เข้าใจเลยค่ะ ผู้ใหญ่ชอบพูดแบบนี้กันมากเป็นเราก็เครียดและจะไม่ให้เข้าใกล้ลูกอีกเลย ลูกเราเลี้ยงในแบบเราไปค่ะ

เอาไปเลี้ยงที่อื่น เรายอมเหนื่อยดีกว่ามาเจอเเบบนี้