หนักใจค่ะ ญาติผู้ใหญ่ จะให้เราป้อนข้าวบด ป้อนน้ำ ให้ลูก ตั้งแต่อายุ 1 เดือน

หนักใจค่ะ ญาติผู้ใหญ่ท่านหวังดี จะให้เราป้อนข้าวบด ป้อนน้ำ ให้ลูกตั้งแต่ 1 เดือน แต่!! "เราไม่เห็นด้วยค่ะ" หมอเค้าก็เตือนว่าอย่าให้เด็กกินอะไรนอกจาก "นม" จะกล้วยบด จะข้าวบด ก็ห้าม เพราะกระเพาะเด็กเล็กยังย่อยของพวกนั้นไม่ได้ ให้อายุ 6 เดือนขึ้นไปก่อน ค่อยให้กิน ไม่งั้นเด็กจะท้องอืด ลามไปถึงลำไส้อักเสบ เด็กบางคนถึงขั้นเสียชีวิต เพราะย่อยของพวกนั้นไม่ได้จนลำไส้เน่าตาย เราพยายามอธิบายตามที่หมอบอกแล้ว แต่ผู้ใหญ่ท่านไม่ฟังค่ะ ท่านให้เหตุผลว่า เลี้ยงมาแบบนี้ไม่รู้กี่คนแล้วแข็งแรงดีทุกคน ท่านบอกว่ายิ่งให้กินข้าวช้าเท่าไหร่ ลูกเราจะยิ่งเอ๋อเท่านั้น เค้าเห็นมาเยอะแล้ว เด็กที่รอจน 6 เดือนถึงให้กินข้าวจะไม่ค่อยเต็มบาทพัฒนาการช้าทุกคน(มันจริงหรอ?) แถมบอกเราอีกว่า "อย่าไปเชื่อหมอมาก" พูดบ่อย และหลายครั้งมากที่เจอหน้ากัน จนตอนนี้เราสับสนค่ะ ไม่รู้จะเอาทางไหนดี ถ้าเชื่อผู้ใหญ่ไม่อยากให้ลูกเราเอ๋อ เราก็กลัวลูกเราจะเป็นอะไรไป เพราะย่อยไม่ได้ แต่ถ้าเชื่อหมอเพราะไม่อยากให้ลูกท้องอืดลำไส้มีปัญหา ก็ขัดใจผู้ใหญ่อีก หนักใจมาก ขอ พ่อ แม่ ที่มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำเราทีค่ะ เราควรทำไงดี ? จะไปทางไหนดี ?? *ปล.ตอนนี้ลูกเรา อายุ 20 วันเองค่ะ รอครบ 1 เดือนผู้ใหญ่เค้าจะป้อนข้าวแล้ว จะเลี่ยงยังไงดี ถ้าเป็นอะไรมาสงสารลูกค่ะ

169 ตอบกลับ

จากประสบการณ์ของตัวเองนะคะ ที่บ้านเป็นแบบนี้เลย ชอบแอบเอาน้ำเอาส้มให้ลูกเรากิน จนเราทนไม่ไหว แกล้งพาลูกไปหาหมอ เลือกวันที่ลูกงอแงมากๆ (วันนั้นลูกก็เป็นใจให้แม่มากร้องไห้ไม่หยุดเหมือนใกล้จะตาย ก่อนไปหาหมอเราได้ไลน์เตี๊ยมกับหมอไว้แล้ว) พอไปถึงหมอยิวคำถามเลยว่านอกจากนมแม่ให้น้องกินอะไรหรือเปล่า เราก็ตอบไม่ค่ะ หมอก็หันไปถามยาย ยายก็อึกอักเลิกๆ ลักๆ หมอเลยเค้นจนยายพูดความจริงว่าเอาส้มให้น้องกิน เข้าทางหมอ หมอก็ใส่ใหญ่เลยทีนี้ พูดแบบน่ากลัวจนเห็นภาพ หลังจากไปหาหมอกลับมาวันนั้น ไม่มีใครจะมายัดเยียดลูกเราให้กินนั่นกินนี่อีกเลย วันนั้นเราขอบคุณหมอมากๆ หมอบอกว่าร้อยละ 99 เป็นแบบนี้ทุกบ้าน

ถ้าแกจะบอกว่าหมอจะไปรู้อะไร เลี้ยงมาห้าหกคน หมอเขารักษามากี่ร้อยกี่พันคน อีกอย่างหมอเขาเรียนมา เขาไม่ได้อาศัยประสบการณ์ ถ้าแกจะเข้าใจแบบนี้ถ้าแกป่วยบอกแกอย่าไปหาหมอนะคะ หมอจะไปรู้อะไร ปล. ถ้าพูดแรงไปต้องขอโทษด้วยนะคะ

ถ้าไม่มีวิธี พาผู้ใหญ่ไปพบหมอด้วยเลยคะ แล้วเราปรึกสาหมอว่าจะทำยังไงให้หมอโกหกและบอกผู้ใหญ่ที ว่าน้อง ระบบลำไส้ไม่เหมือนเด็กทั่วไป เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ต้องทานได้แต่นมแม่อย่างเดียวจนถึง 6 เดือน ถ้าทานก่อน จะย่อยไม่ได้ ทำให้เสียชีวิตคะ หลานใครใครก้รักคะ ลองดูนะคะ มีวิธีอีกเยอะ คุณแม่ใจเย็นๆนะคะ เราสามารถปรับให้ผู้ใหญ่เข้าใจในยุคสมัยคะ แต่ต้องค่อยๆ เพราะคนโบราณจะเชื่อโบราณเพราะเค้าเลี้ยงลูกหลานมาจนโต แต่สมัยก่อนโรคมันน้อย ความเสี่ยงน้อย ข้าวกล้วยยังปลอดภัยกว่าสมัยนี้เยอะคะ สมัยนี้ไม่พ่นยา แต่มลพิษก้ซึมมาจากอากาศเหมือนกันคะ ลองวิธีที่บอกดูนะคะ

ลูกเราค่ะเราต้องหนักแน่น ผู้ใหญ่ก็ผู้ใหญ่เหอะค่ะ เอาลูกเราไว้ก่อนพอเป็นอะไรมายังไงก็ต้องไปหาหมอเอาเหตุผลนี้มาคุยก็ได้ค่ะและบอกเค้าว่าหมอบอกมาแบบนี้ ทุกวันนี้ถ้าเค้าไม่สบายเค้าไม่ไปหาหมอหรอค่ะยังไงก็ไปหาหมออยู่ดีเพราะฉะนั้นควรเชื่อหมอบอกเค้าแบบนี้ค่ะ บ้านนี้ ให้นมลูกยันจะ2ขวบไม่เห็นลูกจะเอ๋อเลยยิ่งกินนมแม่เยอะเท่าไหร่ฉลาดเท่านั้นค่ะ ลูกเรายังท่องก.ไก่ถึงฮ.นกฮูกได้ตั้งแต่ขวบกว่าๆเลยค่ะแม่แม่สู้ๆนะคะ เราผ่านมาแล้วจนทะเลาะกะผู้ใหญ่เหมือนกันค่ะ แต่เราห่วงลูกเราก่อนผู้ใหญ่ถ้าเค้าจะดื้อก็จัดการเลยค่ะถ้าเราใช้เหตุผลแล้วไม่ฟัง

ถ้าอุ้มลูกหนีไปได้ หนีไปค่ะ ถ้าไม่ได้ ให้ถามกลับว่าถ้าเป็นมะเร็งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับปีนี้อันไหนโอกาสรอดมากกว่ากัน วิวัฒนาการทางการแพทย์และงานวิจัยมันมีให้ศึกษามากขึ้น ลองเอางานวิจัยตปท.ให้อ่าน อย่าพูดว่าไม่เชื่อหมอ เพราะถ้าป่วยหนักวิ่งหาหมอกันทุกคน การให้ความรู้เรื่องเริ่มต้นการกินอาหารสำหรับเด็กมันเริ่มต้นที่ 6 เดือนเป็นเรื่องที่สากลยอมรับ มันเป็นการป้องกันการเกิดปัญหา โชคดีแค่ไหนที่ป้อนๆ กันมายังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ ตอบไปด้วยความมั่นใจนะคะ ถ้ายังไม่ฟัง พาไปหาหมอด้วยกันและกระซิบหมอค่ะ ว่าเค้าจะป้อนอาหารเด็ก ให้หมออธิบาย

เข้าใจความหวังดี.. ของคนนอก.. ของเรานี่ถ้า3เดือนเมื่อไหร่แม่ผัวจะป้อนข้าวแร่ะ.เราพูดดักไว้เลยว่า.โนค่ะไม่ถึง5, 6เดือนไม่ป้อนเด็ดขาด​ เพราะถ้าลูกเป็นอะไ​ร​ขึ้น​มา​ ลูกเรารับเต็มๆค่ะ​ (เราเป็​น​แม่แท้ๆจะมาสั่งได้ไงถึงคุณแม่จะเลี้ยงลูกแม่มาแบบนั้นก็เถอะไป๊.)​ และยังมีอีกหลายๆอย่่างที่คนโบราณว่าไว้มันก็มีถูกบ้าง​ จริง​บ้าง​ งมงายบ้าง​ กุศโลบายบ้าง​ ต้องพิจารณา​เป็น​เรื่อ​งๆไปค่ะ.เพราะเดี๋ยวนี้​ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเยอะละ​ _ถ้าคิดว่าหลาน.อย่าเยอะ.มันอึดอัดมันไม่สบายใจ​ลูกใครลูกมัน​ จบแยกค่ะแม่ค่ะ.เซ็ง.☹️ ปั๊ดโท๊ะ😤💢💣💥💥💣

เอาจริงๆนะ แม่ไม่แข็ง ปล่อยให้เค้าชักจูง ก็จะเป็นแบบนี้แหละ วิวัฒนาการมันก้าวไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะหมอเค้าเรียนมา เคสตัวอย่างมีให้เห็น เค้าถึงเอามาบอกเอามาสอน ส่วนคนแก่ เห็นโลกมาเยอะก็จริง แต่เห็นแค่แถวบ้าน ไม่ได้เห็นถึงจังหวัดอื่น ประเทศอื่น โรคเอ๋อ ลูกไม่เป็นหรอกค่ะ ถ้าแม่ไม่ได้เป็นไทรอยด์ อีกอย่างมีวัคซีนป้องกันค่ะ แม่ลองคิดละกันนะคะว่า ถ้าลูกเราโชคไม่ดี กินข้าวไปแล้วลูกมีปัญหา ใครจะช่วยแม่แก้ปัญหา คนแก่หรือหมอ อันนี้เราไม่ได้ว่าแม่นะ เราเข้าใจ แต่อยากให้แม่คิดดีๆค่ะ

วุ่นวายสุด

บ้านนี้ให้เริ่ม6เดือนค่ะ เจอปัญหานี้เหมือนกันพูดตั้งแต่น้องได้ 2สัปดาห์ ว่าให้เริ่มป้อนกล้วยน้ำว้าแต่เราบอกไปว่าหมอแนะนำให้เริ่มหลัง6เดือนดีกว่า เขาก็ไม่เชื่อบอกว่าอย่าไปเชื่อหมอเยอะ เราก็บอกไปว่าเข้าใจนะว่าเขาเป็นห่วงหวังดี แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาคงเอาคืนมาไม่ได้ เราคงรับผิดชอบไม่ไหวและคงไม่มีใครมารับผิดชอบให้เราและลูกเรายังไม่เดือดร้อนร้องหาข้าวหรืออะไรทั้งนั้นนอกจากนม พูดไปแบบนี้หลังจากนั้นไม่ได้ยินเสียงยุให้ป้อนข้าวอีกเลยค่ะ555ไม่รู้ว่าพูดแรงไปหรือปล่าวนะ

ส่วนตัวเราเชื่อหมอค่ะเพราะเขาเรียนมามีการทดลองวิจัยศึกษาอย่างละเอียด ต่างจากคนสมัยก่อน แต่บางเรื่องที่ไม่ร้ายแรงไม่เป็นอันตรายก็ทำตามเพื่อเลี่ยงการเกิดปัญหาฮ่าๆๆ แล้วแต่กรณี

6เดือนแรกต้องนมแม่ล้วนครับ น้ำไม่จำเป็นต้องให้ครับ เพราะนมแม่ประกอบด้วยน้ำ80%แล้ว อาหารอื่นอย่าพึ่งให้ครับ ลำไส้น้องยังไม่แข็งแรง ท้องอืดสามารถตายได้นะครับ สมัยก่อนไม่ค่อยมีอะไรกินหากินยาก เด็กนมแม่ล้วนเลยขาดสารอาหาร สมัยนี้ของกินเยอะครับหากินง่าย ของมีประโยชน์ทานเข้าไปเยอะๆเลยครับ ใช้ตัวเรานี่แหละครับ เป็นเครื่องบดให้ลูก แข็งแรงกว่ากินกล้วยกินข้าวแน่นอนครับ ส่วนเรื่องพัฒนาการมันอยู่ที่สมองเด็กและคนสอน โรคเอ๋อเป็นที่สมองครับไม่ได้เป็นที่ของกิน

ขอบคุณมากเลยค่ะ

พึ่งโดนมาหมาดๆเรยจ่ะ ไห้น้องชิมครีมขนมฟันโอ นี่โมโหมาก แม่สามีเอง บอกแค่ไห้ชิมครีมไม่เปนไร เราก็บอกเดี๋ยวมันติดหวาน น้อง5เดือน22วันเรายังหวงอยุ่เลย และช่วงนี้รับรุ้รสชาติแล้วด้วย เบื่อมากจะให้กินกล้วยตั้งแต่2เดือนเราก็ยืนยันเสียงเเข็งเรยว่าไม่ไห้ แฟนก็พูดเหมือนเข้าข้างแม่เค้า เราก็เรยสวนกับว่าถ้าลูกเป็นอะไรขึ้นมามีปัญญาพาไปรักษาหรอ!!!!! จบ แต่เราดีอย่างคือเลี้ยงเองไม่มีพ่อแม่ฝั่งไหนมาช่วยเลี้ยง ไม่ต้องทนลำคาญเวลาเค้าสั่งนุ่นนี่นั่น

เชื่อหมอค่ะแม่...ลูกของเราเลี้ยงในแบบของเราเถอะค่ะ เพราะถ้าลูกเราเป็นอะไรขึ้นมาผู้ใหญ่เค้าไม่ได้มารับผิดชอบอะไรได้หรอกค่ะ คนเป็นแม่ทนเห็นลูกเจ็บปวดไม่ไหวหรอกค่ะ เชื่อผู้ใหญ่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่พวกท่านบอกจะเชื่อได้ทั้งหมด ทำและฟังในสิ่งที่เหมาะสม และเราคิดว่ามันดีและปลอดภัยต่อลูกดีกว่าค่ะ บ้านนี้ก็ไม่เคยฟังผู้ใหญ่หรอกค่ะ ตั้งใจจะเลี้ยงลูกในแบบของเราเอง ฟังหมอ ดีที่สุด เพราะเค้าคือคนที่ดูแล และ รักษาลูกเราได้...✌

คำถามยอดฮิต