สำหรับแม่บ้านนี้ ส่วนตัวคิดว่า หลังคลอดทรมานกว่าค่ะ
กำหนดคลอด 6 พ.ย.63 แต่แม่แตก 26 ต.ค. 63 (38w3d)
🤰ก่อนคลอด
👶อาการเริ่มแรก ตอน7โมงและ9โมงเช้า วันที่ 26 ต.ค. แม่มีน้ำเดิน จึงตัดสินใจไปร.พ. หมอตรวจปากมดลูกบอกเปิด 1 ซม.กว่าๆ ให้แม่แอดมิดนอนร.พ. โดนฉีดยาเร่งคลอดทางน้ำเกลือ จน14.30 น้ำคล่ำแตก แล้วแม่ก็เริ่มมีปวดท้องบ้าง แต่เจ็บไม่มาก สัก16.00 แม่เริ่มปวดขึ้น แต่ก็ยังทนได้ หมอคอยมาตรวจทุกๆ1ชม. ช่วง 16.30 หมอตรวจปากมดลูกอีกครั้ง แล้วบอกให้แม่ไปรอในห้องคลอด ตอนนั้นปากมดลูกเปิด 2ซม. แม่คิดว่ากว่าจะคลอดอีกนาน เพราะกว่าจะ 10ซม.
👶พอเข้าไปห้องรอคลอด หมอให้ยาแก้ปวดทางสายน้ำเกลือ แล้วบอกจะมีอาการมึนงง แม่อย่าเพิ่งเบ่ง เดี๋ยวมดลูกบวม จะคลอดน้องไม่ได้ ต้องโดนผ่า แม่ก็รอไปเรื่อยๆ
จนประมาณ 18.00 แม่ข้างเตียงจะคลอดน้อง ซึ่ง😁ตอนนั้นแม่ก็เริ่มอยากเบ่ง แต่กั้นไว้ เพราะกลัวโดนผ่า กั้นอยู่ 3 ที จนรู้สึกกั้นไม่ไหวแล้ว จึงเรียกหมอ ว่าแม่อยากเบ่ง พอหมอมาดูก็รีบเรียกพยาบาลให้มาช่วย เพราะแม่ข้างเตียงก็จะคลอดเหมือนกัน และแม่ก็เบ่งอยู่3-4ทีแล้วหมอก็กรีดจิมิแม่(เจ็บตอนโดนกรีด แต่ก็พอทนได้)จากนั้นก็รู้สึกเหมือนอะไรหลุดออกมา😁😁ก็คลอดน้องออกมา หมอยกลูกมาให้แม่ดู จากนั้นแม่ก็จำไม่ได้แล้ว แม่น่าจะมึนยา #ปวดท้องไม่นาน #คลอดง่าย
🍼หลังคลอด
หลังจากคลอด 1 วัน แม่ปวดแผลฝีเย็บ ทรมานสุดคือการ ปวดปัสสาวะ แต่ปัสสาวะไม่ออก
😔พีคสุด วันที่ 2 ทั้งปวดแผล และอยากฉี่อยากอึ แต่ไม่ออก ปวดสุดๆ นั่งก็ไม่ค่อยได้แต่ต้องนั่งให้นมลูก จนต้องขอยาแก้ปวดเพิ่ม หมอมาตรวจแม่ และให้แม่ไปอบสมุนไพร อาการปวดจะได้ทุเลาลง
วันที่3 กลับบ้าน แม่ยังคงปวดแผล จนถึง วันที่ 10
🤔ก่อนคลอด แม่คิดไว้ อยากมีลูก 2 คน แต่พอเจออาการหลังคลอด แม่เริ่มเปลี่ยนใจ ตอนนี้แม่เข็ดก่อน😁😁
Rose Thitima