เจ็บปวดที่งดงาม
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ มีแต่คนบอกว่าเราต้องคลอดก่อนกำหนดแน่ๆ เพราะเราขี่มอไซค์บ่อย ขี่ยันวันคลอด เดินก็เยอะ แถมน้องกลับหัวเร็ว กลับหัวตั้งแต่ 28-29 วีคแล้วก็อยู่ท่าเดิมมาตลอด เริ่มมีอาการเจ็บเตือนตั้งแต่ 33 วีค แต่สุดท้ายเราคลอดตอน 38+6 เกือบจะโดนเร่งคลอดแล้วค่ะ ขนาดทำทุกวิธีที่แม่ๆแนะนำมา ทั้งกินสับปะรด นั่งท่าผีเสื้อ เดินเยอะๆ ให้คุณพ่อช่วย แต่ไม่ได้ผลสักอย่าง จนเราถอดใจคิดว่าถ้าน้องอยากออกก็ออกมาเอง วันคลอดเรายังคิดว่าแค่เจ็บเตือนด้วยซ้ำ คิดว่าคงไม่คลอดวันนี้หรอกเพราะเจ็บเตือนแบบนี้บ่อยจนชิน เราเริ่มมีอาการปวดท้องน้อยตั้งแต่ตี 5 ปวดไม่กี่วิแล้วก็หาย เราก็คิดว่าเจ็บเตือนปกติ เลยขี่มอไซค์ออกไปซื้อของกิน จน 7 โมงมีอาการปวดอีกรอบ หลังจากนั้นก็ปวดทุกๆชม.แต่ปวดครั้งละไม่ถึงนาที เราก็ยังเฉยๆ แล้วก็เริ่มปวดถี่ขึ้นช่วงประมาณ 11 โมง แบบ 10 นาทีปวด ปวดครั้งละไม่กี่วิ เราก็ยังเฉยอยู่ แต่ก็คิดว่าคงใกล้ละ เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไว้เผื่อจะคลอดจริงๆ จนเที่ยงครึ่ง เราเริ่มปวดถี่ทุก 5 นาที เราเลยตัดสินใจโทรหาพ่อสามี เพราะตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้านเลย แต่เรายังปวดแบบทนได้ ตัดสินใจอยู่นานว่าจะไปโรงบาลดีไหม เราไม่มีน้ำเดิน ไม่มีมูกเลือด เราเลยคิดว่าปากมดลูกน่าจะยังเปิดไม่เยอะ เลยไม่รีบ ไปถึงโรงพยาบาลเกือบๆบ่าย 2 พยาบาลก็ให้เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อตรวจปากมดลูก ปรากฏว่าเปิดไป 4 เกือบ 5 เซนแล้ว แต่พยาบาลบอกว่าดูเหมือนเชิงกรานจะแคบนะคุณแม่ ไม่รู้จะคลอดเองได้ไหม เท่านั้นละ ใจเสียเลยค่ะ เพราะเราตั้งใจจะคลอดเอง จากที่ปวดแบบทนได้ พอพยาบาลมาตรวจปากมดลูกเท่านั้นละ เจ็บถี่ๆเลยจ้า ก็นอนรอพยาบาลเอาเอกสารมาให้เซ็น แล้วก็ยอกว่าเดี๋ยวจะสวนถ่ายนะแม่ เราก็เกร็งๆนิดนึงเพราะเกิดมาไม่เคยโดนสวนถ่ายเลย พอพยาบาลสวนถ่ายเสร็จ แม่เอ้ยยยย วิ่งไปเข้าห้องน้ำเกือบไม่ทัน เป็นการถ่ายที่ทรมานมาก เหมือนมันยังไม่สุด แล้วก็ปวดบีบมากๆ ปวดจนลืมปวดท้องคลอดไปเลย เราก็ไม่กล้าเบ่งแรงด้วยเพราะปากมดลูกเปิดไปครึ่งนึงแล้ว นั่งอยู่นานพอสมควรกว่าจะเริ่มดีขึ้น พยาบาลก็ให้เราเดินไปห้องรอคลอด ระหว่างที่กำลังจะเดินไปที่เตียง หันไปเห็นพม่าคนนึงกำลังรอคลอดอยู่ ร้องแหกปากโวยวายเหมือนเจ็บมากๆ จนเราใจเสียเพราะเราก็ท้องแรกด้วย ได้ยินแต่เสียงพม่าคนนั่นร้อง พยาบาลบอกให้ลองเบ่งก็ไม่เบ่ง พยาบาลสั่งให้ทำอะไรไม่ทำทั้งนั้นคือร้องแหกปากอย่างเดียว เราได้แต่มองแล้วหน้าเสียไปเลย คิดในใจว่ามันเจ็บขนาดนั้นเลยหรอวะ แล้วก็มีพยาบาลคนนึงเดินมาหาเรา คงจะเห็นสีหน้าเรา เลยบอกว่าไม่ต้องกลัวหรอกแม่ ถ้าเชื่อที่พยาบาลบอกก็จะพอช่วยได้ แต่ถ้าแม่อยากจะแหกปากแบบนั้นก็ได้นะคะ แต่มันไม่มีประโยชน์ เราก็ยิ้มแห้งๆให้พยาบาล คือตอนนั้นเราเริ่มปวดบีบในระดับนึงแล้วแต่ก็ยังพอทนได้ นอนอยู่สักพักหมอก็มาตรวจปากมดลูกเราอีกรอบ หมอตรวจเจ็บมากเพราะหมอบอกลืมเจลล่อลื่น ล้วงเข้าไปแบบนั้นเลย เราเจ็บมากแต่ไม่กล้าร้องกลัวจะโดนด่า หมอล่วงแรงจนน้ำคร่ำเราแตกคามือหมออ่ะ 555 หมอก็พูดเหมือนพยาบาลคนแรก ว่ารู้สึกเชิงกรานจะแคบๆนะแม่ ตอนนี้ปากมดลูกเปิด 6 เซนแล้ว ทนอีกนิดนะคะ โอโห หลังจากน้ำเดินนี่แหละ เจ็บปวดที่แท้จริง เราปวดมากๆ ปวดแบบทำอะไรไม่ถูก พลิกตัวไปมา น้ำตาไหลออกมาอัตโนมัติ คือสุดจะบรรยายจริงๆ ตอนนั้นเห็นหน้าแม่ลอยมาเลย คิดถึงแม่มาก เจ็บจนอยากขอผ่าแบบไม่อยากทนแล้ว เลยตัดสินใจเรียกพยาบาลบอกว่าหนูไม่ไหวแล้วค่ะ หายใจไม่ออก ช่วยหนูด้วย พยาบาลก็เอาออกซิเจนมาให้ เดินมาจับมือเราบอกว่าทนหน่อยนะมันจะเจ็บแบบนี้ล่ะ ปากมดลูกเปิดเยอะแล้ว ทนหน่อยๆ ในใจคือคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว เมื่อไหร่จะเปิดครบสักที ไม่ไหวแล้วจริงๆ พยาบาลเลยตรวจปากมดลูกให้อีกรอบ เปิดไป 7 เซน คือเราท้อมาก เหลืออีกตั้ง 3 เซนแต่เราไม่ไหวแล้ว พยาบาลบอกว่าอย่าพึ่งเบ่งก่อน เดี๋ยวมดลูกจะบวม บอกให้เรานอนรอ ไม่ถึงครึ่งชม.เราก็เรียกพยาบาลอีก คือมันเจ็บสุดๆแล้วจริงๆ พยาบาลก็ถามว่ามีลมเบ่งรึยังแม่ เราไม่เคยคลอดเลยไม่รู้ว่าลมเบ่งเป็นยังไง แต่ก็บอกไปว่าอยากเบ่งแล้ว พยาบาลก็มาตรวจดู ก็เปิดไป 8 เซนกว่า พยาบาลบอกยังเปิดไม่ครบเลยแม่ กลัวมดลูกบวม แต่ลองเบ่งดูก่อนก็ได้ เพราะเหมือนเชิงกรานแม่แคบ อาจจะต้องผ่า คิดในใจอีเหี้ยยยยยย แล้วที่ทนเจ็บมาทั้งหมดนี้คือ .... เราเลยลองเบ่ง ภาวนาขอให้ออกเถอะไม่อยากเจ็บ 2 ต่อ และเหมือนยังมีบุญอยู่บ้าง พยาบาลบอกก็ไม่แคบเท่าไหร่นะ น่าจะพอเกิดได้อยู่ เบ่งมาเรื่อยๆเลยแม่เปิด 9 เซนแล้ว พยาบาลอีกคนก็เดินไปตามหมอมา พอเห็นหน้าหมอเท่านั้นละ แม่เอ้ยยยย อยากจะมุดแผ่นดินหนี หมอผู้ชาย คือเค้าเป็นเพื่อนเราสมัยเรียน เรียนห้องเดียวกันเลย แล้วตอนนี้คือเรานอนฉีกขา แผ่ซะเต็มที่เลยจ้าาา เอาวะช่างมัน ตอนนี้มันเจ็บมากกว่า ทำไงก็ได้ให้คลอดได้เถอะ ระหว่างที่เราลองเบ่งอยู่ หมอคุยกันว่าหัวใจน้องเต้นดร้อปไป 3 นาที อาจอันตราย หมอเลยสั่งพยาบาลให้ไปเตรียมเลือด เตรียมอุปกรณ์เพราะอาจจะต้องผ่า เหมือนจะร้องไห้อีกรอบอ่ะ ปากมดลูกเปิดมา 9 เซนแล้ว จะมาผ่าชั้นจริงๆหรอ พยาบาลก็บอกให้เราลองเบ่งยาวๆ เบ่งไปเรื่อยๆก่อนระหว่างเตรียมของ ถ้าคลอดได้จะได้คลอดเอง เราก็สูดลมหายใจเบ่งยาวสุดแรงเกิด แล้วพยาบาลก็บอกว่าได้อยู่นะหมอ ติดกระดูกนิดเดียวเหมือนจะหลุดออกแล้ว คลอดเองได้แต่อาจต้องใช้เครื่องช่วยดูด เราใจชื้นขึ้นมาทันที พยาบาลเข็นเราไปห้องคลอด พอเห็นหน้าหมอเราเลยตัดสินใจหลับตาปี๋เลย คือจะทำไรก็ทำเหอะ เราเบ่งอยู่หลายทีตอนนั้นคือไม่สนใจใครจะพูดอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ด้วยว่าหมอทำอะไรบ้าง พยาบาลบอกเบ่งมายาวๆเลยแม่ เห็นผมน้องแล้ว เราสูดลบหายใจแล้วเบ่งสุดๆ แล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ คิดว่าหมอน่าจะกรีดช่องคลอด แต่เราไม่ได้เจ็บตรงนั้น เราปวดท้องอยากเบ่งมากกว่า และแล้วก็ พรึดดด หัวน้องออกมาแล้ว แต่เรายังปวดอยู่ ปวดมาก เราเลยเบ่งซ้ำอีกรอบแล้วตัวน้องก็หลุดออกมา พร้อมความรู้สึกโล่งเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ 5555 น้องคลอดเวลา 18.02 น. น้ำหนัก 2,990 ก็ถือว่าแม่เจ็บไม่นาน หลังจากหมอจัดการตัดสายสะดืออะไรเสร็จ ก็มาถึงขั้นเย็บแผล เราเลยลืมตาเพราะความปวดมันหายไปหมดแล้ว ทีนี้ก็เผชิญหน้ากับหมอ หมอก็ถามว่าจำหมอได้ไหม เราบอกต้องจำได้สิ เรียนห้องเดียวกันอ่ะ แล้วหมอก็แนะนำเราหลายๆอย่าง ตอนแรกก็อาย เขินหมอ แต่พอคุยกันไปสักพัก รู้สึกดีจังที่เพื่อนมาทำคลอดให้ ได้ปรึกษาอะไรหลายๆอย่าง และก็ได้คำชี้แนะเยอะมากๆสำหรับคุณแม่มือใหม่ หมอให้เรานอนอยู่ในห้องคลอดอีก 2 ชม.ก่อนจะย้ายไปห้องพักฟื้น พยาบาลก็เข้ามาถามว่าของแม่ใช้เครื่องช่วยดูดน้องออกมาใช่ไหมคะ เราก็ทำหน้างงๆเพราะตอนนั้นหลับตาตลอด และก็ไม่รู้ด้วยว่าหมอใช้ตอนไหน หันไปมองหน้าลูกปรากฏว่าตาช้ำเลือดอยู่นิดนึง แต่หัวน้องไม่ปูด ถือว่าโชคดีมาก มองไปมองมาน้ำตาก็ไหล เห็นปากเล็กๆ มือน้อยๆเท้าน้อยๆของลูกมันน่าเอ็นดูมาก คิดในใจนี่หรอคนที่อยู่ในท้องเรามา 9 เดือน คนนี้สินะที่เราจะต้องทุ่มเททุกอย่างให้เค้า ความรู้สึกคือมันตื้นตันมาก ยิ้มทั้งน้ำตาเลยค่ะ เจ็บปวดครั้งนี้จำไม่ลืมจริงๆ แต่มีความสุขมากๆ ยาวหน่อยน้า ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ?
ลูกคนแรก