ประสบการณ์คุณแม่คลอดธรรมชาติ
รบกวนคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติเล่าประสบการณ์หน่อยได้ไหมคะ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวเตรียมใจของคุณแม่คนอื่นๆ รวมถึงเราด้วย 5555 ตอนนี้ 34 week แล้ว แอบกลัวๆหวั่นๆเหมือนกันคะ ขอบคุณนะค่าาาา ????????
วันนี้ 19/10/62 บันทึกประสบการณ์การคลอดลูกสาวสุดที่รัก ด.ญ.ปุณณภา วรรณเสน (น้องน้ำเปล่า) แม่ขอลำดับเป็นเหตุการณ์ ดังนี้ค่ะ 1. คืนวันที่ 17/10/2562 เวลาประมาณ 21.20 แม่อาบน้ำเตรียมเข้านอน แม่เจอมูกสีขาวใส+ปนขุ่น ออกมาจากช่องคลอด แต่แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะออกมาแค่นิดเดียว 2. วันที่ 18/10/62 เวลาประมาณ 03.20 แม่ตื่นจากความฝันเพราะรู้สึกปวดร้าวขาขวาเหมือนโดนหักขา ประกอบกับแม่มีอาการปวดท้องถ่ายหนัก แม่ก็เลยลุกเข้าห้องน้ำไป 1 รอบ 3. เวลาประมาณ 05.20 แม่รู้สึกเหมือนปวดถ่ายหนัก แต่เข้าห้องน้ำแล้วไม่สามารถถ่ายหนักออกมาได้ แม่ก็เลยกลับมานอนต่อ 4. แม่เริ่มนอนไม่ได้เนื่องจากรู้สึกหน่วง ๆ ท้องร้าวไปถึงด้านหลัง และร้าวลงทวารหนัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเวลาประมาณ 05.20 ถึง ประมาณ 07.00 5. แม่เริ่มชั่งใจว่านี่ใช่อาการจะคลอดหรือเปล่า เพราะหลายคนบอกแม่ว่าอาจจะเจ็บเหมือนเจ็บท้องประจำเดือน แต่แม่ไม่เคยเจ็บท้องประจำเดือนเลยในชีวิต 6. แม่เริ่มมีลางสังหรณ์ว่ามันคือใช่อาการจะคลอด เพราะตัวเล็กของแม่ก็ 38W+1D ถ้านับตามประจำเดือน แต่ถ้านับตามอัลตร้าซาวด์หนูก็อายุครรภ์ 38W+3D ประกอบกับแม่นึกถึงเรื่องมูกที่ออกมาเมื่อคืน 7. เวลาประมาณ 7.10 น. แม่ลุกอาบน้ำแต่งตัวและชวนคุณพ่อไป รพ.เพื่อตรวจดู 8. พอถึง รพ.คุณหมอให้คุณแม่เปลี่ยนชุดเพื่อตรวจภายในและติดเครื่องวัดการหดรัดตัวของมดลูกพร้อมเครื่องฟังเสียงหัวใจเด็ก แต่คุณหมอก็บอกคุณแม่ว่าท้องแรกอาจจะแค่เจ็บเตือน 9.เมื่อคุณหมอติดเครื่องวัดการหดรัดตัวของมดลูกพร้อมเครื่องฟังเสียงหัวใจเด็ก และตรวจภายในดูปากมดลูก ปากมดลูกก็ปรากฎว่าเปิด 1 เซ็นต์ 10. คุณแม่รีบขอกลับไปคลอดที่บ้านทันที แต่คุณหมอบอกไม่ให้ไป แม่ก็เลยขอไปคลอดที่ จ.หนองคาย คุณหมอก็เลยอนุญาต 11. ประมาณ 08.30 น.เมื่อกลับจาก รพ.คุณพ่อก็พาแม่เดินทางไปที่ จ.หนองคายทันที 12. เมื่อถึง รพ. จ.หนองคาย คุณหมอก็ติดเครื่องวัดการหดรัดตัวของมดลูกพร้อมเครื่องฟังเสียงหัวใจเด็ก พร้อมตรวจภายในดูปากมดลูก 13. เวลาประมาณ 10.40 น. มดลูกแม่เปิดเพิ่มแค่เซนต์เดียว คือทั้งหมดเปิด 2 เซนต์ 14. เวลาประมาณ 12.40 น. คุณหมอตรวจปากมดลูกอีกครั้งพบว่าเปิดเพิ่มอีก 1 เซนต์ 15. ห่างไปอีกไม่นานมดลูกบีบตัวถี่ แม่เริ่มทนไม่ไหว เลยเรียกพี่พยาบาลเข้ามาตรวจ พี่พยาบาลก็บอกว่าเปิดเพิ่มอีก 1 เซนต์รวมเป็น 4 เซนต์ ยังคลอดไม่ได้ แต่แม่เริ่มทนเจ็บไม่ไหวแล้ว คุณหมอจึงใส่ออกซิเจนช่วยให้ ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงให้ถึงน้องน้ำเปล่า 16. เวลาประมาณช่วง 13.05 - 14.00 เป็น 1 ชม.ที่แม่ทรมานมากที่สุดในชีวิตแม่ยอมรับว่าขาดสติมากไม่สามารถจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมปล่อยลมจากปากตามที่แม่เคยศึกษามาตอนตั้งท้องได้ 17. 1 ชม.นั้นแม่ดิ้นทุรนทุรายพร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องอย่างทรมานเพราะสติหลุดเนื่องจากความเจ็บปวดอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้ นาทีนั้นร้องขอให้คุณหมอผ่าเพราะรู้สึกเจ็บมากจนทนไม่ไหว แต่คุณหมอบอกว่าปากมดลูกเปิดตามธรรมชาติผ่าไม่ได้ ให้อดทนไปก่อน (ก่อนหน้านั้นแม่ตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าจะคลอดเองให้ได้ ยังไงก็จะสู้แต่นาทีนั้นคือไม้ไหวของแม่จริง ๆ) 18. ระหว่างนั้นมีพยาบาลมาแจ้งว่าการร้องไม่ได้ช่วยให้หายเจ็บ แม่ก็เลยพยายามที่จะไม่ร้อง พยายามอดทน โชคดีที่ตอนนั้นคุณพ่ออยู่ด้วยไม่ห่างเลย 19. คุณพ่อทำให้แม่รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว ทุกครั้งที่ท้องปั้นถี่+อาการเจ็บเกินทน ทุกครั้งที่แม่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และปล่อยลมออกทางปาก คุณพ่อก็จะทำแบบเดียวกันพร้อมทั้งจับมือแม่ไม่ยอมปล่อย สีหน้าของคุณพ่อแสดงออกถึงความเจ็บปวดทุกครั้งที่แม่เจ็บ และเวลาที่มดลูกคลายตัวคุณพ่อจะจุ๊บที่หน้าผากเพื่อให้กำลังใจให้แม่ 20. เมื่อลมเบ่งมาแบบเต็มที่คุณแม่ก็บอกคุณหมอว่าไม่ไหวแล้วคุณหมอจึงตรวจปากมดลูกอีกครั้ง ปรากฏว่าครั้งนี้เปิด 8 เซนต์ 21. คุณหมอไม่ให้คุณแม่เบ่งเพราะกลัวปากมดลูกจะบวมและหนาจนทำให้คลอดไม่ได้ แต่นาทีนั้นแม่ไม่ไหว เจ็บมาเมื่อไหร่แม่เบ่งเต็มแรง 22. เวลาประมาณ 14.10 ลมเบ่งแม่มา แม่เบ่งไป 2 ครั้งถุงน้ำคร่ำแม่แตก คุณพ่อรีบเรียกคุณหมอ คุณหมอรีบมาตรวจปากมดลูก ปรากฎว่าเปิดอยู่ที่ 8เซนต์เท่าเดิม 23. เวลาห่างมาไม่นานแม่ทนไม่ไหวจึงบอกคุณหมอว่าไม่ไหวแล้วขอเบ่ง คุณหมอมาตรวจภายในและให้แม่ลองเบ่งดู 24. คุณหมอพาคุณแม่เข้าห้องคลอด คุณแม่มีคุณพ่ออยู่ข้าง ๆ กำลังใจของคุณแม่มีมาเต็มเปี่ยม คุณหมอช่วยกันทำคลอดทั้งขย่ม ทั้งกรีดช่องคลอด ใช้เวลาอยู่ประมาณ 10-15 นาที แม่ก็ได้ยินเสียงน้อง 25. นาทีที่น้องพ้นออกมาจากช่องคลอดด้วยท่านอนตะแคง ความเจ็บทั้งหมดก็หายไปทันที เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่ได้ยินเสียงน้องร้อง แม่ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยิ้มให้กับกับคุณพ่อ 26. คุณหมอแจ้งเวลาเกิดน้อง 14.36 น. น้ำหนักน้องที่ 3,170 กรัม ความยาว 50 เซนติเมตร หลายคนบอกว่าน้องจะตัวเล็กเพราะตอนที่แม่ท้อง ท้องแม่เล็กมาก ๆ เป็นไงล่ะทีนี้555 27. หลังจากน้องคลอดออกมาคุณหมอก็ทำการคลอดรกนาทีนั้นไม่มีอะไรเจ็บเท่าตอนปวดเบ่งคลอดเลยซักนิด รู้สึกแค่ตึง ๆ ทั้งที่กรีดช่องคลอดไป 2 ครั้ง 28.หลังจากคลอดรกเรียบร้อยคุณหมอก็ทำความสะอาดพร้อมบอกว่าจะเย็บฝีเย็บให้ นาทีนั้นคิดในใจว่าจะเจ็บหรือเปล่า จึงถามคุณหมอไปว่าเจ็บหรือเปล่าคะ มียาชาหรือเปล่า คุณหมอบอกว่าไม่ค่อยเจ็บเพราะมียาชา คุณแม่รู้สึกสบายใจ 29. คุณหมอเริ่มเย็บช่องคลอด และแล้วคุณแม่ก็รู้ว่าเจ็บไม่นิดเหมือนกัน5555 แม่อดทนจนคุณหมอเย็บเสร็จและคุณหมอก็พาคุณแม่ออกมาจากห้องคลอด 30. นาทีที่เจ็บอีกรอบคือตอนที่ยาชาหมดฤทธิ์ และแผลฝีเย็บเริ่มบวม แค่ทั้งชีวิตนี้คุณแม่คิดว่าไม่มีอะไรจะเจ็บเท่าคลอดลูกอีกแล้ว แต่ความเจ็บทั้งหมดก็คุ้มค่ากับการแลกมากับลูกสาวคนเก่งของคุณแม่ ด.ญ.ปุณณภา วรรณเสน (น้องน้ำเปล่า) วันเกิด 18/10/2562 เวลา 14.32 น้ำหนักแรกคลอด 3,170 กรัม ความยาวแรกคลอด 50 เซนติเมตร คลอดที่ รพ.สมเด็จกระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย ขอขอบคุณคุณหมอ และพยาบาลทุกท่านที่ทำคลอดในครั้งนี้ #ติดตามพัฒนาการของน้องน้ำเปล่าได้ที่เพจ #Baby #Nampao 😘😘😘😘
อ่านเพิ่มเติม
มีลูกแล้ว