ท้อง5week

มีอาการเหม็นและคลื่นใส้ ไม่หยุด ทานยาแก้แพ้ ก้อไม่ดีขึ้น ทำไงดีค่ะ

1 ตอบกลับ
 profile icon
เขียนข้อความตอบกลับ
VIP Member

เคล็ดลับ รับมืออาการแพ้ท้อง #1 กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยเปเปอร์มินท์ แม่ท้องมักจะมีความไวต่อกลิ่นต่างๆ ซึ่งกลิ่นบางกลิ่นก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้ แต่กลิ่นหอมบางกลิ่นก็ช่วยลดอาการแพ้ท้องได้เช่นกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยเปเปอร์มินท์ โดยคุณอาจเติมน้ำมันหอมระเหยชนิดนี้ไว้ในห้องตอนกลางคืน เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็จะสามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ #2 ขิง ขิง เป็นสมุนไพรที่ช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ ท้องผูก และอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี คุณแม่สามารถดื่มน้ำขิงสดผสมกับชาเพื่อลดอาการแพ้ท้อง รวมทั้งสามารถนำไปผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่น หรือชงดื่มร้อนๆก็ได้นะครับ แพ้ท้อง กินน้ำขิง #3 อย่าปล่อยให้ท้องว่าง เมื่อมีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน สิ่งสุดท้ายที่คุณมักจะนึกถึงก็คืออาหาร แต่อย่างไรก็ตาม หากแม่ท้องกินอาหารตามเวลาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่อดอาหาร เมื่อในท้องมีอาหารก็จะช่วยต่อสู้กับอาการแพ้ท้องได้ หากปล่อยให้ท้องว่างก็จะทำให้คลื่นไส้มากกว่าเดิม ดังนั้นอาจจะหาขนมหรือขนมปังติดบ้านหรือติดตัวไว้เวลาหิว หรืออาจจะใช้วิธีเปลี่ยนจากการกินอาหารมื้อปกติสามมื้อ มาเป็นอาหารมื้อเล็กห้ามื้อดูก็ได้นะครับ #4 ดื่มน้ำมากๆ หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องควรดื่มน้ำมากๆ หรืออาจจะดื่มน้ำผลไม้ หรือนมเพิ่มไปก็ได้ ซึ่งของเหลวเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ นอกจากนั้นการดื่มน้ำมากๆยังจะช่วยป้องกันอาการเหนื่อยล้า อาการบวม และอาการวิงเวียนศีรษะ อีกทั้งลูกน้อยในครรภ์ยังได้รับประโยชน์จากน้ำที่แม่ท้องดื่มเข้าไปด้วย เพราะน้ำจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นเข้าสู่เซลล์ ลำเลียงวิตามิน แร่ธาตุ และฮอร์โมนให้กับเซลล์เม็ดเลือด ซึ่งจะส่งผ่านรกไปยังลูกในครรภ์ได้ ดื่มน้ำยังไงให้มีน้ำนม #5 ฝึกสมาธิ ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง หากแม่ท้องได้มีการนั่งสมาธิเพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด ก็จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้บ้าง นอกจากนั้นยังเป็นการทำให้จิตใจซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกในท้องนะครับ #6 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ยิ่งแม่ท้องมีอาการอ่อนเพลียมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้อาการแพ้ท้องยิ่งแย่ลงมากขึ้นเท่านั้น คุณควรฟังเสียงร่างกายของคุณ เพราะบางครั้งมันก็ส่งสัญญาณเพื่อจะบอกกับคุณว่า ถึงเวลาที่คุณควรนอนพักผ่อนบ้างได้แล้วล่ะ หากคุณมีงานคั่งค้างหรือมีสิ่งที่ต้องทำมากมาย อย่างน้อยควรหาเวลาสั้นๆเพื่องีบหลับระหว่างวันก็พอช่วยได้อยู่บ้าง

อ่านเพิ่มเติม
คำถามที่เกี่ยวข้อง