1 ตอบกลับ

#การอุ้มกอดบอกรักไม่เคยสปอยล์ใคร "อย่าอุ้มเยอะ เดี๋ยวติดมือ" "เธอน่ะชอบสปอยล์ลูก อุ้มอยู่นั่นแหละ" เคยได้ยินประโยคเหล่านี้หรือเปล่าครับ ... แล้วพอได้ยินแล้วคุณพ่อคุณแม่ 'เชื่อ' สิ่งที่ได้ยินแค่ไหนกัน เคยไหมที่รู้สึกกลัวว่า เราจะกอดลูก โอ๋ลูก หรืออุ้มลูกมากเกินไป ด้วยความกลัวที่ว่าเรากำลังจะสปอยล์ลูกอยู่ ทั้งที่ลูกก็ไม่ใช่กาวร้อนที่อุ้มแล้วจะแหลกติดมือได้ 555 และการที่ลูก 'ร้องไห้' ด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ นั่นหมายความว่า #ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย ลูกกำลังต้องการเราอยู่ ... ดังนั้น การอุ้มกอดบอกรัก ไม่เคยสปอยล์ใคร แต่การไม่กอด ไม่อุ้ม ไม่บอกรักต่างหากที่กำลังรั้งความสัมพันธ์ระหว่างเราและลูกให้ห่างกันมากขึ้น ๆ ทุกที เพราะขณะที่ร้องไห้ เสียใจ และไม่สบายตัว ... นั่นคือเวลาที่ลูกกำลังต้องการคนที่เข้าใจที่สุด แต่พ่อแม่ยังไม่มาอยู่เคียงข้างเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวจะสปอยล์ลูก ... พ่อแม่หลายคนไม่กล้าบอกรักลูก ... ด้วยความเข้าใจว่า 'การกระทำ' ที่พ่อแม่ทำในทุกวัน ลูกจะรับรู้มันได้เอง ทั้งที่เราก็รู้ว่า "มันอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้น" ... รักก็ต้องบอกรัก ห่วงก็ต้องบอกห่วง ห้ามอะไรหรือจะให้ทำอะไรก็ต้องบอกกันตรง ๆ จะมัวมาอ้อมค้อมกันไปทำไม ? โดยเฉพาะเด็กเล็ก เรายิ่งต้องอุ้มกอด เพราะนั่นคือ "สายใย" ที่ลูกสัมผัสได้ ความอบอุ่นที่รู้สึกได้จากกลิ่นที่คุ้นเคย จากเสียงหัวใจเต้นของแม่คนเดิมที่อยู่เพื่อเขา จาก #แม่ที่มีอยู่จริง ... วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า การอุ้มทำให้สมองสงบลงท่ามกลางความรู้สึกไม่ปลอดภัย เจ็บปวด หรือความเครียด ... เพียงแค่คนเลี้ยงที่คุ้นเคย 'อุ้ม' เด็กเท่านั้น หัวใจจะเต้นช้าลง กล้ามเนื้อจะคลายตัวออก และสมองจะผ่อนคลายมากขึ้นเพียงเพราะการอุ้มและกอดเท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลชัดเจนว่าส่งผลดีในระยะยาวกับพัฒนาการทางร่างกายและอารมณ์ของเด็กด้วยนะจ๊ะ ดังนั้น ยิ่งเล็กยิ่งต้องอุ้มครับ แล้วอะไรล่ะที่สปอยล์ลูก ... เราจะสปอยล์ลูกก็ต่อเมื่อ เราเอาแต่ "ให้" และ "ตอบสนอง" ความต้องการของเด็กแบบไม่มีขอบเขต ไม่มีเงื่อนไข อยากได้อะไรได้ เพียงเพื่อเป้าหมายคือ "ไม่ให้ลูกร้องไห้" หรือ "ลูกขอก็เลยให้" โดยที่ไม่มีกฎกติกามารยาทและความสมเหตุสมผลอะไรทั้งนั้น ไม่เคยให้ลูกมีความรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความรับผิดชอบส่วนตัว พ่อแม่ทำแทนให้หมด ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้ ลูกไม่เคยได้เติบโตจากน้ำตาของตัวเองสักครั้งเดียว มีแต่เรียนรู้ว่า "ร้องไห้" หรือ "ทำตัวไม่ดีอย่างไร" แล้วจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ... ร้องไห้ก็ได้ของเล่น โวยวายก็ได้เล่นต่อ อยากได้อะไร ทำลายข้าวของก็ได้ของที่ต้องการทุกที อยากกินขนมก็แค่ไม่กินข้าว เดี๋ยวขนมก็มาเป็นเครื่องต่อรอง ฯลฯ ... บางคนไม่ต้องต่อรองอะไรเลย พ่อแม่ก็ประเคนให้ทุกอย่างแบบตัดรำคาญ "เอาไปเหอะ จะได้จบ ๆ" และที่แย่กว่านั้นก็คือ พ่อแม่เองก็มักตามแก้ปัญหาให้ลูกทุกครั้งที่เกิด 'ผล' จากการกระทำที่ไม่ดีของตัวเขาเอง ลูกไม่เคยต้องรับผิดรับผลอะไรทั้งนั้น ... นี่แหละที่เราเรียกว่า #สปอยล์ ตรงกันข้าม ... หากเราใช้การอุ้มกอดและการแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยกับลูกได้ถูกวิธี ... ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้เสียใจในสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล หรือยังควบคุมตัวเองไม่ได้ตามวัย พ่อแม่มีหน้าที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างสงบ สื่อสารให้ลูกเห็นว่า "แม่เห็น" "พ่อเห็น" ว่าลูกเสียใจหรือโกรธอยู่ แต่มันเป็นสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้ที่จะโกรธ/เสียใจให้เป็น ... ทำผิดก็ต้องรับผิดชอบผลของตนเองให้ได้ แต่พ่อแม่ก็จะอยู่ข้าง ๆ หนูนี่แหละ ให้ลูกมีโอกาสเติบโตจากผลของการกระทำได้ เพราะมนุษย์เกิดมาไม่มีอะไรได้สมใจอยากไปเสียหมด และคนเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เอาถ่านได้ในอนาคต เราต้องมีวินัย ควบคุมตัวเองได้ รู้ว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้ ดีใจได้ เสียใจเป็น รับผลของการกระทำของตนเองให้ได้ เรียนรู้จากน้ำตาและความไม่ถูกใจในวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้เราจะทำให้ดีขึ้นได้อีก ... โดยมีพ่อแม่อยู่ข้าง ๆ ในวันที่เสียใจ ร้องไห้ฟูมฟาย ด้วยความเข้าใจ ด้วยความรัก ด้วยอ้อมกอดที่คุ้นเคย และด้วยคำพูดที่ทำให้รู้สึกว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ ยังมีพ่อแม่อยู่ตรงนี้กับเขาอยู่ "พ่อรู้ว่าหนูเสียใจ ... ร้องไห้ออกมาเถอะ แล้วพรุ่งนี้เรามาเริ่มกันใหม่นะครับ" และอยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ของเด็ก ๆ ทุกคนว่า #อุ้มวนไปค่ะ ทุกคน ... จนกว่าเอ็นข้อมือจะอักเสบกันไปข้างหนึ่ง 555 เพราะลูกจะยอมให้เราอุ้มถึงเมื่อไรกันเชียวครับ อย่าทิ้งช่วงเวลาที่มีค่านี้ไป ... อุ้ม กอด บอกรัก ให้นม ... ถ้าให้นมได้เองได้ก็คงให้ไปแล้ว ณ จุดนี้ 555 #หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ ผู้เชื่อว่าคนเราไม่ต้องการคนที่จะมาทำแทนเราไปตลอดชีวิต (และก็ไม่มีใครมาคอยแก้ปัญหาทุกอย่างให้เราไปได้ตลอดชีวิต) เราอาจเพียงต้องการใครสักคนที่เรารู้ว่า วันใดที่เราเสียใจหรือผิดหวัง เราจะมีไหล่อุ่น ๆ ให้พิงแอบ มีอ้อมกอดรักที่ไร้เงื่อนไข มีมือที่คอยลูบหัวของเราอย่างเข้าใจ และมีคำพูดให้กำลังใจให้เราฮึดสู้ต่อไปในวันรุ่งขึ้น ... แค่นี้ก็พอแล้ว ... (และในหลายที ก็ยังมีเงินกู้มาให้เรายืมแบบไม่มีดอกเบี้ยอีกด้วย 555 ยิ่งช่วงโควิด พักหนี้ได้ยาวยิ่งกว่า ธกส. อีกด้วย หึ ๆ)

คำถามที่เกี่ยวข้อง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง