มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
ท้าวความก่อนนะคะ ว่าแม่บ้านนี้ท้องแรกค่ะ แล้วคนแก่ที่บ้านแฟนบอกว่าให้ทำงาน ไม่ก็เดินเยอะๆ จะได้คลอดง่าย อย่านอนเยอะจะคลอดยาก ส่วนตัวเชื่อ50/50 ก็ทำงานธุรกิจทางบ้านแฟน แล้วมันต้องเดิน ตอนกลางวันก็ทำงานอีกครึ่งวัน จะมีเวลานอนกลางวันแค่1-2ชม. บางวันก็ไม่ได้นอนเลยค่ะ ทำมาเรื่อยๆ ก็มีท้องแข็งบ้าง แต่ก็หายเองตลอด ไม่เอะใจอะไร จนเมื่อวานก่อน เราไปทำงานตอนกลางวันปกติ แต่วันนั้นคือก้มแล้วอยู่ๆก็ปวดท้องขึ้นมา ก็ไม่คิดอะไร เพราะปกติเป็นแบบนี้เเป็ปก็คลายแล้วหายไป ปวดท้องจนทนไม่ไหว เลยให้แฟนพามา รพ. หมอก็ถามอาการปกติ ก็ฟังเสียงหัวใจลูก แล้วบ่ายสี่โมงหมอเดินมาบอกต้องแอดมิทดูอาการ เพราะของเราคือเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ถ้าคลอดมาก็ไม่แข็ง อีกอย่างคือแท้งในสุด เราเสียใจมาก เรากลัวลูกเราเป็นอะไรไป จนตอนนี้หมอให้น้ำเกลือกระปุกที่2แล้ว ฉีดยาระงับคลอดอีก อาการท้องแข็งก็ดีขึ้น #ปล. ฝากเตือนแม่ๆที่ทำงานนะคะ อาจตะเป็นเหมือนเคสเราก็ได้ #ปล2. เป็นเพราะเราเชื่อคำคนแก่มากไป จนเกือบเสียลูก
ท้องแรก คนเฒ่าคนแก่บอกให้เดินเยอะๆ ทำงานมากๆ อิแม่นี่ก็ไปจ้า ทำ7-11,กับฟาร์มหมู งานค่อนข้างหนักต้องขี่มอไซค์ไประยะทางจากบ้านเกือบยี่สิบโลทุกวัน (เลี้ยงเดี่ยวนะคะ) พอได้7เดือน มีอาการเจ็บท้องมาก ไปรพ.หมอสั่งแอดมิท เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดโดนสั่งให้ยาระงับคลอดนอนรพ.ไป2คืน มีเลือดออก แต่น้องยังปลอดภัย เกือบไม่ได้เห็นหน้าลูกแล้วค่ะ มาท้องสองกับแฟนใหม่นี้คือพยายามทำงานให้น้อยลง อะไรเลี่ยงได้เลี่ยง ไม่ยกของหนัก ตอนนี้31วีคแล้วค่ะ แฟนก็อายุมากแล้วแต่ไม่ได้เป็นเหมือนคนที่บ้านนะคะ ให้พักเลย ไม่ไหวอย่าฝืน ร่างกายเราลูกเรา ทำตามแต่เขาว่าพอถึงเวลาเป็นอะไรขึ้นมาไม่ได้มีใครมารับผิดชอบด้วยเลย ร่างกายคนเราไม่เหมือนกันเนอะบางคนชอบเอาตัวเองมาเป็นมาตราฐานให้คนอื่น ไม่ต้องไปสนใจค่ะแม่ เราไหวแค่ไหนคือแค่นั้นพอค่ะ ตัวเราลูกเรา เรารู้ดีที่สุด ขอให้แม่และน้องปลอดภัยนะคะ😍🥰
อ่านเพิ่มเติมตอนท้องเราก้ทำงาน (ธุรการโรงเรียน) งานก็ไม่ทีอะไรมา นั่งพิมพ์งาน เดินเอกสาร ช่วงกิจกรรมกีฬาขับรถรับ_ส่ง นักเรียนไปแข่ง ดารทำงานคือ นั้งๆเดินๆก็ว่าได้ ไม่ได้นอนกลางวัน มานอนเสาร์_อาทิตย์เอาค่ะ เราทำงานจนถึงวันคลอดเลย 39 วีค 3 เดย์ เราท้องแรก คลอดง่ายค่ะ อาจเป็นเพราะเราตัวสูง เชิงกรานเราใหญ่ บวกกับความเชื่อที่ว่า ทำงานแล้วจะคลอดง่าย เราว่าเราเชื่อคำคนแก่ แต่มันใช้ไม่ได้กับทุกคนค่ะ ร่างกายไม่เหมือนกัน ภูมิคุ้มกันต่างกันด้วย เพราะฉะนั้น การที่จะบอกว่า ทำงานเยอะๆ เดินเยอะๆ จะคลอดง่าย ใช้ไม่ได้กับทุกคนค่ะ คุณแม่ต้องสังเกตตัวเองถึงขีดความสามรถในการทำงานด้วย ถ้ามันหนักเกินไป รู้สึกมรมานตอนท้องแข็งมาก ให้คิดเลนว่า ลูกคงเจ็บมาก (จริงๆลูกอาจไม่เจ็บ แต่ให้คิดว่าลูกส่งสัญญาณว่า ลูกไม่โอเคที่แม่ทำงานหนักหรือทำงานลักษณะนี้)
อ่านเพิ่มเติมแม่บ้านนี้ได้33w แล้วคะ ยังทำงานตามปกติ ตื่นตี5ครึ่งทุกวัน เพราะลูกสาวคนโตต้องไปโรงเรียน ต้องตื่นมาทำอาหารให้ค่ะ พอลูกไปขึ้นรถประจำไปโรงเรียนแล้วประมาณ7.10น. ก็ต้องทำอาหารให้สามีอละพ่อกับแม่อีกคะ เสร็จจากทำอาหารและงานบ้าน ก็ต้องไปทำงานสวนอีกคะ ที่บ้านทำธุรกิจค้าขายผักสดขายส่งคะ ตอนบ่ายๆก็ต้องเตรียมผักเพื่อที่จะต้องจัดส่งขายตามออร์เดอร์อีก ทำเป็นประจำทุกวันเลยคะ มีความเสี่ยงเหมือนกันคะกล่วจะคลอดก่อนกำหนด ตอนกลางคืนปวดฉีบ่อยมาก ลูกก็ดิ้นดีมาก กว่าจะลุกลงจากเตียงนอนได้ คือปวดหลังปวดเอวมากๆเลยคะ ทำงานหนักๆบางทีก็ไม่ดีนะคะคุณแม่ คนแก่ที่บ้านก็บอกว่าทำงานเยอะๆจะได้คลอดง่ายๆ เราว่ามันคงไม่จริงเสมอไปคะ ทางที่ดีคุณแม่ๆรวรพักผ่อนบ้างนะคะ แม่บ้านนี้จะวางมือจะพักบ้างแล้วคะ😊🤟🏻
อ่านเพิ่มเติมของบ้านนี้ทำงานยันคลอดเลยค่ะ ส่วนตัวทำงานเกี่ยวกับงานขาย เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ อยู่หน้าแคชเชียร์ลุกเดินขายของเป็นว่าเล่น พอรถส่งของมาก็ต้องมาโหลดของ แต่ยกของเบาๆ เช่นขนมแพค มาม่าห่อ อันที่เป็นลังเบียร์ สาระพัดลัง ให้คนส่งของช่วยยกกับน้องพนักงาน ช่วยน้องวิ่งเติมของในร้านก่อนกะต่อไปที่จะมา เข้าเดือนที่ 9 ก็ขอ HR ลาคลอด นอนอยู่ห้องไป 2 อาทิตย์ไม่มีวี่แววว่าจะคลอด นี่เลยจัดหนักก่อนคลอดเลยชวนพ่อเค้าไปเดินเล่นตลาดเกือบ 2 ชั่วโมง คืนนั้นแหละรู้เรื่องเลย ปวดท้องถี่ๆยันเช้า แถมมีมูกเลือด ทั้งดีใจ ทั้งปวดท้อง สุดท้ายไป รพ ตอนเที่ยง หมอบอกปากมดลูกเปิด 8 เซน คิดในใจ จะได้เจอกันแล้ว และแล้วก็ได้เจอกันตอนเย็น #แม่เจอภาวะเสี่ยงแม่ควรทำเท่าที่กำลังเราไหวนะคะอย่าฝืน
อ่านเพิ่มเติมแม่บ้านนี้ก้อเป็นค่ะ ท้อง32w มีเลือดออก ท้องแข็งถี่ แต่คุณแม่ไม่เจ็บท้องนะค่ะ เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด หมอเลยจัดให้นอนโรงพยาบาลระงับคลอด เลี้ยงน้องไว้ก่อน กลัวน้องออกมาไม่แข็งแรงสมบูรณ์ ใส่น้ำเกลือลดอาการท้องเกร็ง ฉีดยากระตุ้นปอดเด็ก4 เข็ม ใส่ออกซิเจนด้วยเลย เพราะตัวยาทำให้คุณแม่ใจสั่น ใจเต้นเร็วหายใจไม่สะดวก นอนยาวไป 5 วัน อึ ฉี่ บนเตียงห้ามเดิน มีพยาบาลเช็คหัวใจแม่และเด็กทุก 30นท-1ชม. เลย ออกจากโรงพยาบาลก้อพยายามอย่าเดินเยอะ ยกของหนัก อดทนค่ะ ตอนนี้คุณแม่ผ่านมาได้แล้ว ตอนนี้37w แล้วค่ะ ลุ้นอย่างเดียวจะแตกเมื่อไหร่ สู้ๆนะค่ะ อยากบอกว่าอยุ่โรงพยาบาลกับข้าวอร่อยมากเลย กินข้าวเยอะกว่ายุบ้านซะอีก
อ่านเพิ่มเติมบ้านนี้คนแก่พูดไม่เคยฟังเลยค่ะ จะฟังก็ต่อเมื่อแม่บอก อีกอย่างแม่ก็เคยพูดให้ฟังนะค่ะว่าสมัยก่อนทำงาน หาบน้ำจนคลอด แต่ว่าแกเข้าใจสมัยทุกวันนี้คนเราทำงานไม่ค่อยได้พักผ่อน แล้วมีลูกยากด้วย แม่เราไม่เคยให้ทำงานเลยค่ะให้อยู่เฉยๆ เพราะเราเคยเสียลูกคนแรกมาแล้ว ขนาดไม่ได้ทำอะไรหนักเลยแต่เป็นเพราะงานที่เราทำต้องยืนและเดินทั้งวันค่ะ ตอนนี้ท้องลูกคนที่ 2 ช่วงที่ได้3เดือนคิดว่าจะรอดแล้วไม่มีอะไรแต่จู่ๆก็ปวดท้องไม่หายแต่ดีที่ไปหาหมอทัน ปรากฏว่าเลือดออกในถุงตั้งครรภ์ต้องนอนอยู่กับที่ห้ามเดิน หมอให้ยากันแท้งมากิน เป็นเดือนจนตัดสินใจลาออกจากงานมาอยู่บ้านเพราะกลัวเสียลูกไปอีก ตอนนี้น้องได้ 37+1week แล้วค่ะ☺️
อ่านเพิ่มเติมความเห็นส่วนตัวนะค้ะ คนสมัยก่อน และ คนสมัยนี้ ความต่างมีเยอะค่ะ ทุกอย่างมันขึ้นอยุ่กับสภาวะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่ะ จริงๆคนท้องถ้าเปนไปได้สมควรที่จะต้องพักผ่อนเยอะๆค่ะ ถเาแม่เปนคนทำงาน อย่างน้อยๆก้ต้องมีเวลาได้นอนกลางวันซักงีบ การเดิน งานบ้านเบาๆ เปนการออกกำลังกายไปในตัว บางทีเราก้ไม่สามารถขัดคำพูดคนเฒ่าคนแก่ได้ อันนี้เข้าใจแม่เลยค่ะ แต่โชคดี แม่บ้านนี้อยุ่กันตามลำพังครอบครัว เปนส่วนตัว ไม่มีใครเจ้ากี้เจ้าการ แต่แม่บ้านนี้ชอบเดินค่ะ😂เลาะบ่อยมาก ขับรถยันใกล้คลอดค่ะ เพิ่งคลอดน้องเมื่อวันที่ 5 ธค นี้เองค่ะ เบ่งรอหมอ 2ครั้ง เบ่งครั้งที่ 3 พรวดเดียว น้องออกมาทั้งตัวเลยค่ะ😂😂😂
อ่านเพิ่มเติมถ้าหากแม่มีภาวะรกเกาะต่ำ ภาวะแท้งคุกคาม หรือท้องแก่ใกล้คลอด ไม่ควรอย่างยิ่งค่ะที่จะเดินเยอะ ทำงานเยอะ เพราะจะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดหรือแท้งได้ ... คุณหมอเราห้ามเราวิ่งตามหรืออุ้มพี่คนโตตั้งแต่ท้องได้ 3 เดือนเลยค่ะ งานบ้านบอกเราเลยว่าทิ้งให้คนอื่นทำ แต่เราก็ทำอยู่นะคะ พอออกกำลังกาย ไม่ได้เดินทั้งวัน ยิ่งถ้ามีอาการแท้งคุกคามยิ่งต้องระวังค่ะ อย่าไปเชื่อคนแก่มาก หากเกิดไรมาสุดท้ายเค้าก็มาด่ามาว่าเราดูแลตัวเองไม่ดีอยู่ดีค่ะ ไม่เคยโทษสิ่งผิด ๆ ที่เค้าแนะนำมาหรอกค่ะ เดี่ยวคลอดออกมาแม่ต้องสตรองกว่านี้ เกรงว่าคนแก่จะยุให้ป้อนน้ำ ป้อนกล้วย กวาดยา นู่นนี่ตามคำโบราณอีก ระวังไว้นะคะ
อ่านเพิ่มเติมทำงานทุกวันเดินตลอดตื่นเช้า กลับเย็นขึ้นรถเมล์ นั่งมอไซค์ยัน 8 เดือน จริงๆกำหนดคลอดสิ้นเดือนมิถุนา แต่ต้นเดือนมิถุนาเจ็บท้อง ท้องแข็งทุกๆ 10 นาที เป็นเวลา 18 ชม.ไม่สบายใจเลยไปหาหมอ หมอบอกว่าแอดมิดดูอาการ 48 ชม. เนื่องจากมดลูกบีบตัว ลูกหัวใจเต้นเร็ว อาจคลอดก่อนกำหนด ก็ได้น้ำเกลือ 3 กระปุก ได้ทานยาระงับคลอดทุกๆ 2 ชม. และฉีดยาขยายปอดลูกทุกๆ 9 ชม. 4 เข็ม พอได้ยาครบอาการเจ็บท้อง ท้องแข็ง และฟังคลื่นหัวใจลูกเต้นปกติแล้ว ก็กลับบ้านได้ ตอนนั้น 34 วีค+ หลังจากออกรพ.ก็ดูแลตัวเองตามหมอบอก ห้ามเดินเยอะ ห้ามก้ม ห้ามยกของหนัก ห้ามเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ จนตอนนี้ 37 วีคครบกำหนดแล้วครับ รอเจ็บคลอด
อ่านเพิ่มเติมบ้านนี้คุณแม่เราเองก็บอกค่ะ ว่าสมัยคุณแม่ ขนาดวันจะคลอดยังออกมาขายของทำงานได้สบายๆ แต่คุณแม่ก็แค่บ่นๆเราค่ะ แกรู้ตั้งแต่ท้องแรกว่าเราไม่ค่อยแข็งแรงเวลาท้อง ท้องแรกมีภาวะแท้งคุกคาม ต้องกินยาบวกฉีดยากันแท้ง แทบจะนั่งนอนและเดินเท่านั้นค่ะ แต่ก็ยังป่วย ไอจนน้ำคร่ำรั่วต้องคลอดก่อนกำหนด ท้องสอง ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากอุ้มลูกคนโตบ้างนิดหน่อย คนโตน้ำหนัก16กิโล แท้งตอนหกสัปดาห์ พอท้องสาม ดูแข็งแรงกว่าสองท้องที่แล้ว ไม่มีภาวะแท้ง แพ้เยอะ ออกไปช่วยขายของวันจ่ายตรุษจีน ท้องแข็งไปสองวันค่ะ ต้องกลับมานอนอย่างเดียว แม่ก็บ่นนะคะ แต่ไม่ได้บังคับหรือให้เราทำอะไรค่ะ
อ่านเพิ่มเติม
แม่ของคุณข้าวปั้น