2 ตอบกลับ

น้ำหนักตัวไม่ขึ้นเลยในสามเดือนแรกมีอันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่? อาหารที่แม่ท้องได้รับในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์นั้น ไม่สำคัญเท่าในช่วงกลางและช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ แม่ท้องส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเมื่อตั้งครรภ์ได้ 4-8 สัปดาห์ และอาการจะหายไปเมื่อ 14-16 สัปดาห์ หลังจากนั้นคุณแม่ก็จะรับประทานอาหารได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณแม่ท้องยังไม่ควรวิตกกังวลไป หากน้ำหนักตัวยังไม่เพิ่มในช่วง 3 เดือนแรก หรือหากคุณแม่ท้องมีน้ำหนักตัวลดลง ให้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย และรับประทานให้บ่อยครั้งขึ้น แต่ถ้า 4 เดือนไปแล้ว น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ จะดีที่สุด อาหารประเภทไหนที่ควรควบคุมตอนท้อง? คำตอบก็คืออาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน โดยหากว่าคุณแม่ชอบทานอาหารทอด หรืออาหารที่มีกะทิแล้วละก็ อาหารประเภทนี้ถ้าหากคุณแม่รับประทานมากเกินไป อาจไปสะสมที่ตัวคุณแม่จนทำให้อ้วน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการท้องอืด และอาหารไม่ย่อยได้ การจัดการเกี่ยวกับน้ำหนักตัวของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์นั้น เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก หากคุณแม่มีความเชื่อ มีทัศนคติที่ดี และมีแรงจูงใจ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว หากคุณแม่มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์นะ

วิธีคำนวณน้ำหนักตัวคนท้อง ช่วงไหนขึ้นเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม ว่ากันว่าคุณแม่ทุกท่านควรมีน้ำหนักขึ้นประมาณ 10 กิโลกรัม แต่จริงๆแล้วน้ำหนักของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้น จะขึ้นอยู่กับดัชนีมวลกายของคุณแม่ก่อนการตั้งครรภ์ โดยคำนวณจาก น้ำหนัก(เป็นกิโลกรัม) ÷ ด้วยส่วนสูง(เป็นเมตร)ยกกำลังสอง หลังจากนั้นนำมาเปรียบเทียบกับตารางที่ 1 ด้านล่าง เช่น คุณแม่ที่มีดัชนีมวลกายก่อนการตั้งครรภ์ระหว่าง 18.5-24.9 (น้ำหนักตัวปกติ) ควรมีการเพิ่มน้ำหนักตัวเพิ่มตลอดการตั้งครรภ์เท่ากับ 11.5-16 กิโลกรัม และควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 0.4 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ตารางที่ 1 แสดงการเพิ่มน้ำหนักตัวของสตรีตั้งครรภ์ น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ (ดัชนีมวลกายก่อนการตั้งครรภ์) น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นช่วงในไตรมาสแรก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแต่ละสัปดาห์ในช่วงไตรมาสที่สองและสาม น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์(

คำถามที่เกี่ยวข้อง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง