หมากับเด็กทารก

ของเราก็เลี้ยงหมาในบ้านค่ะ 5 ตัว พันธ์เล็ก ตอนนี้เราท้อง 36 สัปดาห์ เราจะมีพื้นที่ให้เขาอยู่ค่ะ กั้นคอกไว้ตรงห้องนั่งเล่น เวลาเราไม่อยู่ จะเอาเขาเข้าคอกกัน ปูผ้ารองฉี่ เรากลับบ้านมาช่วงเย็นก็จะเอาผ้าออกไปซักเปลี่ยนผืนใหม่ เอาเด็กๆออกจากคอก ลงน้ำยาถูคอก ให้แฟนหรือพ่อเรา พาเด็กๆ วิ่งเล่นหน้าบ้านปกติเขาก็จะอึฉี่กันนอกบ้าน กลับเข้าบ้านมาถ้ามีอึฉี่ในบ้าน เราก็เช็ดเลย เราจะมีสเปรย์ผสมเดทตอลเอาไว้ เวลาเก็บอึฉี่เขาเสร็จจะใช้เดทตอลเจือจางฉีดระงับกินอีกที เราจะปล่อยเขาเล่นกันถึง 5 ทุ่ม ก็ปูผ้ารองฉี่ผืนใหม่ ปูแบบเต็มคอก ก่อนเอาเด็กๆ เก็บเข้าคอก บ้านไม่เคยมีกลิ่นเลยค่ะ เช้าก่อนออกเราก็จะปล่อยเขาเล่นแปปนึง ปล่อยไปอึฉี่แปปหนึ่ง ถ้าผ้าที่ปูไว้ตอนนอนไม่มีใครอึ เราก็ใช้ต่อกลางวัน แต่ถ้ามีคนไหนอึ เราก็เปลี่ยนแผ่นใหม่ ใช้แบบซักได้จะประหยัดมากกว่าค่ะ ของเราจะมีอยู่ 4 ผืนใหญ่ วนซัก ใครมาบ้านเราก็แปลกใจ เลี้ยงหมาเยอะขนาดนี้บ้านไม่เคยมีกลิ่นเหม็น จะมีบ้าง ถ้าเด็กๆ ท้องเสียค่ะ ให้ข้าวเป็นเวลา จะช่วยให้เขาขับถ่ายเป็นเวลา เราก็จะเก็บง่ายค่ะ ไม่มีอึตกค้างให้เกิดกลิ่นในบ้าน ส่วนเรื่องเชื้อโรค แนะนำเดทตอลค่ะ เจือจางน้ำตามข้างขวดระบุ ช่วยได้เยอะ

ถ้าคุณรักสุนัขด้วย รักษาความสะอาด รับวัคซีนครบ คือคำตอบค่ะ สุนัขไม่ได้มีพยาธิอย่างแมว แต่ถ้าคุณไม่ได้รักสุนัข ก็คุยกับสามีค่ะ หาพื้นที่ในบ้านสุนัข จัดที่อยู่ให้เป็นสัดส่วน ไม่ให้คล่องเกี่ยวกับคุณ แล้วให้สามีรับผิดชอบความสะอาดสะ ของเราเลี้ยงทั้งในบ้าน นอกบ้าน รวม 7 ตัว ตั้งแต่ก่อนท้อง ท้อง จนคลอด ตอนนี้ขวบกว่าแล้ว ไม่เคยมีปัญหา ลูกแข็งแรง บ้านสะอาด สุนัขสะอาด ลูกเราไม่เป็นภูมิแพ้ น้องหมาที่บ้านทุกตัวไม่มีเห็บหมัด แบ่งเวลาวันละ ไม่ถึง ชั่วโมงต่อวัน ทำความสะอาด หวีขน ทุกวัน ครึ่งเช้าวันอาทิตย์ จับอาบน้ำทุกตัว ทุกสัปดาห์ ลูกก็มาเล่นน้ำด้วยสนุกกันไปอีกแบบ ใครที่เลี้ยงแล้วเรื้อน มีเห็บหมัด แปลว่าคุณไม่พร้อมจะเลี้ยงเขาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ การเลี้ยงสุนัขง่ายกว่าเลี้ยงเด็กคนหนึ่งเยอะเลย เราเลี้ยง 7 ตัว ไม่เหนื่อยเท่าเลี้ยงลูก 1 คน

ขนาดเราเลี้ยงหมาเหมือนลูกเรายังให้แยกเลยค่ะ ตอนเขายังเป็นทารก ขนติดตามที่นอน เสื้อผ้า ต่อให้สะอาดยังไงก็ไม่ได้จริงๆ พอเขาเริ่มคลานเริ่มเกาะเดินถึงให้มาเล่นด้วยกัน หลานเราภูมิดีไม่แพ้ แต่ลูกเราแพ้ผื่นขึ้นแดงทั้งตัว สรุปต้องเลี้ยงแยกถาวร ดีหน่อยที่เป็นหมาเราเอง เราฝึกเราเลี้ยงมาเองรู้ใจกันดี แต่ของแม่เป็นหมาคนอื่นนี่สิ แม่มีห้องส่วนตัวไหมอะคะ คงต้องเลี้ยงในห้องเป็นหลัก พามาเล่นข้างนอกก็ต้องมีคนอุ้มอย่างเดียว ห้ามวางต่ำเลย ธรรมชาติหมาอยากมาดมแน่นอน อุ้มให้ดมแค่เท้า พอน้องโตหน่อยก็ค่อยมาดูว่าแพ้ขนไหม ไม่แพ้ก็โชคดีไป ฝึกขั้นต่อไปได้ การเล่นกับสัตว์ เด็กจะปีน จะทับ จะดึงขนเป็นปกติ ต้องคอยห้ามเพราะเราไม่รู้นิสัยใจคอหมาว่าเป็นยังไง แล้วก็แผนสำรอง ถ้าน้องแพ้ขน กับหมาๆไม่รับน้องเข้าฝูง นี่แหละงานใหญ่

เราก็เลี้ยงนะคะ2ตัว กลางวันก็อยู่ด้วยกันทั้งวันแต่กลางคืนจะแยกห้องกันนอน เลี้ยงด้วยกันตั้งแต่น้องแรกเกิดจนตอนนี้4เดือนไม่เคยป่วยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องหมั่นดูแลความสะอาดหมาด้วยค่ะ แปรงขนบ่อยๆอาบน้ำจากปกติ2ครั้ง/เดือน ก็เปลี่ยนเป็น3ครั้ง/เดือน ส่วนเรื่องขี้เยี่ยวต้องเปลี่ยนค่ะต้องสร้างอณาเขตให้เขาใหม่ทำความสะอาดกลบกลิ่นที่เดิมแล้วเอาแผ่นรองฉี่ที่เขาเคยฉี่ไปไว้ที่อื่นเขาได้กลิ่นเดี๋ยวเขาก็ตามกลิ่นไปค่ะ แม่ท้อง24วีคพอมีเวลาให้สามีฝึกหมาเปลี่ยนที่ขี้เยี่ยวทันค่ะ ถ้าเขาฝึกอยู่ประจำนะคะแปปเดียวก็แก้ปัญหาได้ค่ะ

บ้านสามีเลี้ยงทั้งหมาและแมว แต่หมานอนนอกบ้าน บ้านนอนในบ้านแล้วแมวชอบเข้าไปอึในห้องน้ำบ่อยๆ แต่เราต้องเป็นคนไปล้างทุกครั้ง กลิ่นแรงมากทั้งเหม็นทั้งฉุน แค่แพ้ท้องก็แย่แล้ว ต้องมาอ้วกมาพะอืดพะอมกับอะไรแบบนี้อีก แล้วคนในบ้านไม่ค่อยชอบปิดประตูกหลังจากออกจากห้องน้ำ ทั้งๆที่ก็พูดว่าปิดประตูด้วยนะแมวมันไปขี้แต่ก็เปล่าเลย เหมือนเดิม เราต้องทนเหม็นทนพะอืดพะอมทุกครั้ง

หนูว่าอันตรายอยู่ยะคะแม่ เพราะว่าสุนัขหรือแมวในขี้เยี่ยวของมันจะมีพยาธิที่เป็นเชื้อโรคอันตรายซ่อนอยู่ในอุจจาระของหมาแมว หากสัมผัสก็จะเข้าสู่ร่างกายและมีผลต่อลูกในครรภ์นะคะ ถ้าเป็นไปได้หนูแนะนำไม่ควรเข้าใกล้หรือให้คนอื่นทำคงามสะอาดบ้านหรือแยกโซนน้องห่างจากคุณแม่จะดีมากๆเลยนะคะ

ต้องอาบน้ำให้สุนัขบ่อยๆอาจจะจำกัดบริเวณให้เค้าอยู่และรับวัคซีนให้ครบก็ช่วยให้อยู่ด้วยกันได้ค่ะที่บ้านเลี้ยงระะบบเปิดค่ะนางเฝ้าน้องดีด้วยค่ะ

สกปรกค่ะหลานที่บ้านติดเหมือนขี้เรื้อนจากหมาเลยค่ะแต่ถ้าหมาที่สะอาดๆฉีดวัคซีนก็น่าจะรอดอยู่ค่ะควรบอกสามีโดยตรงค่ะลูกสำคัญกว่าสัตว์เลี้ยง

แม่บ้านนี้เลี้ยงปอมให้นอนบนที่นอนกับเราด้วย คุณแม่พยามทำความสะอาดบ่อยๆ ดูดผุ่น บ่อยๆ

ต้องแยกเลี่ยงเลยค่ะ อันตราย