10019 ตอบกลับ
ถ้าเป็นความคิดเห็นของคุณพ่อเองก็เฉยๆนะครับ แต่ถ้าเป็นวัฒนธรรมไทยคนส่วนใหญ่อาจจะยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งๆที่สังคมวัฒนธรรมกาลเวลามันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเป็นครอบครัวเราก็ต้องยอมรับครับว่าคุณพ่อคุณแม่บ้านนี้อยู่ด้วยกันมาฉันสามีภรรยาตั้งแต่จบมัธยมเลยก็ว่าได้เป็นที่รู้กันของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายครับ ในสายตาของคนอื่นอาจจะมองดูไม่ดีเท่าไหร่ครับเพราะเราอยู่กันมาตั้งแต่วัยรุ่นได้เสียกันก่อนแต่งหลายปีทีเดียว แต่ถ้าเป็นครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีฝ่ายไหนที่มีปัญหา โดยเฉพาะ คุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่าย นอกจากจะไม่ว่าอะไรแล้ว ยังให้คำแนะนำเราสองคนอะไรหลายๆอย่างในการใช้ชีวิตคู่ด้วยครับ จะท้องก่อนแต่ง หรือแต่งก่อนท้อง มันไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกครับ สำคัญอยู่ที่ว่าเรามีความพร้อมแค่ไหนมากกว่า พร้อมในด้านความรับผิดชอบทั้งสองฝ่าย มีการมีงานทำมั่นคงหรือเปล่า มีจิตใจที่เข้มแข็งความเมตตากรุณาความอดทนให้กันและกันเพียงพอหรือไม่ มีแนวทางที่จะสร้างครอบครัวไปในทางเดียวกันหรือเปล่า แต่งแล้วหรืออยู่กันไปไม่มีหนี้มีสินไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ ทางบ้านคุณพ่อเอง คุณปู่คุณย่าเขาก็ไม่ได้จัดงานแต่งงานครับอยู่กันมาตั้งแต่เรียนจบมหาลัยแล้ว อยู่กันมา 40 ปีก็ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย เพราะไม่เห็นความสำคัญที่จะทำมันครับ
อ่านเพิ่มเติมสำหรับเราที่ท้องและไม่ได้แต่ง เพราะมีทุกอย่างพร้อมบ้าน รถ เงินเดือนสองคนหกหลัก วางแพลนถ้ายังไม่ท้องก็จะแต่งกลางปีนี้(แต่ติดโควิดซะก่อน) แต่ถ้าท้องแล้วจะไม่แต่ง สรุปก็ท้องก่อนเลยไม่แต่งซะเลย จะได้ไม่เอาไปพูดกันว่าท้องก่อนแต่ง เพราะฉันไม่แต่ง 🤣 รอลูกออกมาละทำบุญขึ้นบ้านใหม่ทีเดียวพร้อมกันทั้งครอบครัว พ่อแม่ทุกฝ่ายก็ไม่มีใครค้านเพราะทุกอย่างสร้างขึ้นจากเราสองคนไม่เคยเดือดร้อนใคร จะแต่งก่อน หรือก่อนแต่งขอแค่เราสามารถเลี้ยงอีก 1 ชีวิตให้เป็นคนที่มีคุณภาพก็พอ จัดงานเล็กเขาก็ว่า ไม่มีเงิน จัดงานใหญ่เขาก็ว่า ไปเป็นหนี้เป็นสิน
อ่านเพิ่มเติมสำหรับเราไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยนะ อาจจะเป็นเพราะพ่อแม่เราเองก็ไม่ได้แต่ง เลิกกันมาตั้งแต่เราประมาณ 2-3ขวบ แล้วช่วยพลัดกันเลี้ยงเรากับพี่ชาย พ่อแม่บอกกับเราตลอดว่าเค้าผิดพลาดมีพี่ชาย แต่ทั้งคู่ตั้งใจรักพี่ชายให้เต็มที่ และตั้งใจเลือกที่จะมีเราเพื่อมีน้องให้พี่ชาย ทั้งๆที่ไม่ได้คิดจะแต่งงานกัน เราเลยคิดว่าความผิดพลากมันไม่น่าอายค่ะถ้าเรามีความรับผิดชอบ ถึงจะไม่รักกันแต่ขอแค่รักลูกให้ดีที่สุดก็พอ ส่วนเราเองก็ท้องและมีน่องก่อนแต่งแต่ปัจจุบันแต่งแล้วกับพ่อของลูกนี้แหละค่ะ
อ่านเพิ่มเติมคิดว่า แต่งก่อนค่อยปล่อยท้อง หรือถ้าท้องแล้วจำเป็นต้องแต่งก็ควรรีบแต่งก่อนท้องโต สำหรับเราตัดเรื่องอายออกนะเหตุผลคือ เจ้าสาวควรจะสวยที่สุดหุ่นดูดี ผิวพรรณสดใส เดินเยอะด้วยเวลารับแขก ถ้าท้องปุ๊บทุกอย่างกลับกันหมดเลยนะคะ ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่ท้องเพราะมีคนรับผิดชอบ แต่เจ้าสาวอดสวยสุดนี่เสียดายกว่าค่ะ5555
อ่านเพิ่มเติมจดทะเบียนกับสามีตั้งแต่หมั้นกันมาสองปีแล้วแต่ไม่ได้จัดงานแต่งซักที จนตอนนี้ท้องแล้วก็เฉยๆค่ะ ขี้เกียจจัดงานด้วยซ้ำตอนนี้ ครอบครัวก็เห็นด้วยเพราะความรู้สึกเค้าจบไปตั้งแต่วันหมั้นแล้ว ไม่มีใครกดดันอะไรเลยค่ะ ทุกคนเข้าใจว่ามีเงินเราก็อยากลงทุนธุรกิจและเก็บไว้ให้ลูกมากกว่ามาจัดงานแต่ง
ถึงท้องก่อนแต่งก็ไม่กังวลค่ะเพราะไม่มีความคิดที่อยากจะแต่งงานเลยค่ะ ขอแค่อยู่กินช่วยเหลือกัน สร้างครอบครัว แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ส่วนทางบ้านเขากับทางบ้านเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราเขาเข้าใจเราค่ะ ส่วนมากจะเป็นคนข้างบ้านที่สาระแน เป็นห่วงเป็นใหญ่เป็นทรโข่งอยู่บนเสาไฟซะมากกว่าค่ะ
พ่อแม่ไม่ได้จัดงานแต่งงาน อยู่ด้วยกันแล้วมีลูกจนโต ลูกอายุ 15-16 ถึงไปจดทะเบียนกัน ก็เห็นอยู่กันมา 40 ปีแล้ว มันเเล้วแต่คนจะคิด แต่การที่คนสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต้องมีวุฒิภาวะและความรับผิดชอบเพียงพอ เพราะเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรมันก็ไม่ดี
เราท้องก่อนแต่ง ไม่มีอะไรให้เครียดนอกจาก ญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน ที่คาดหวังกะเราไว้เยอะแยะ แต่ส่วนนึงก็เข้าใจเขาค่ะว่าเป็นห่วง คิดว่าวันนึงเขาคงเข้าใจเมื่อเห็นว่าเราเลี้ยงดูเด็กน้อยและมีชีวิตที่ดีปกติสุขเหมือนเดิม
สำหรับเรายอมรับมันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดในชีวิต เเต่มองในทางกลับกันก็กลายเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ของขวัญชิ้นพิเศษในชีวิตคู่
ไม่แปลกนะคะ ทุกคนก็มีเหตุผล อย่าแคร์สังคมหรือคนรอบตัวเราคะ คนที่เราควรแคร์และทำความเข้าใจคือคนในครอบครัวเราคะ