ก่อนจะพึ่งยา มีบ้านให้กลับไหม เช่นบ้านแม่เราเอง หรือบ้านคนที่เราพึ่งพิงได้ แล้วเขายินดีช่วยแบ่งเบาเราให้มีเวลาให้ตัวเองให้ได้พักบ้าง ให้ได้พักนะคะไม่ได้เอาไปทิ้งเป็นภาระให้เขา ถ้ามีพาตัวเรากับลูกไปอยู่ที่นั่นซักพัก จนรู้สึกดีขึ้น ค่อยกลับมาอยู่บ้านตัวเองอีกครั้ง อธิบายให้เขาฟังพูดเหมือนที่เขียนมานี่แหละค่ะ เรื่องนี้อายไม่ได้ ต้องหน้าหนา เพราะมันส่งผลกระทบถึงชีวิตบริสุทธิ์1ชีวิต เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ถ้าคนรอบข้างเข้าใจก็คือเข้าใจถ้าไม่เข้าใจเราจะยิ่งดิ่งดาวน์ ถ้าไม่มีเราเองต้องมีสติ ถ้าผัวพึ่งไม่ได้ เราต้องพึ่งตัวเองค่ะ พาลูกนั่งรถไปหาหมอเอง ให้จินตนาการว่าผัวตายจากชีวิตเราไปแล้วตอนนี้เราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง พาลูกกับตัวเองไปหาหมอค่ะ แล้วเดี๋ยวทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น ถ้าไม่อยากไปก็นั่นแหละค่ะ ต้องเรียกสติตัวเอง ฟังธรรมเรียกสติในยูทูปก็ได้ค่ะ ฟังไปด้วยให้นมลูกไปด้วย
ตอนนี้เราเป็นซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ได้อยู่กับสามีเพราะสามีอยู่ตปท. ตอนนี้อยู่กับแม่ ไปหาหมอค่ะ ซึมเศร้าไม่สามารถหายเองได้ค่ะถ้าแม่ถึงคิดอยากฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายร่างกาย มันมีผลกระทบต่อการใช้ชีวอตของแม่ ไปหาหมอจิตแพทยท์ค่ะจะได้ยามาทาน แนะนำมากๆ ตอนแรกเราเครียดมากแบบเอาความคิดออกจากหัวไม่ได้ไม่พบเจอใคร ทั้งๆที่สภาพแวดล้อมกีแต่เราคิดไปว่าทุกคนจะต้องนินทาหรือไม่ชอบเรา เราไปรักษามาเพื่อลูกค่ะ 0-3 ขวบเป็นวัยทองของลูกอยากให้ลูกซึมซับสิ่งดีๆจากตัวเรานะคะ เราแนะนำเพราะว่าคนที่จะได้รับประโยชน์คือตัวคนเองและลูกค่ะ ผลต่อมาคือบรรยากาสในครอบครัว มันเปลี่ยนจริงๆหลังจากการรักษา จากเราที่อยู่แต่ในห้องไม่หัวเราะหน้าเครีนดตลอดอมทุกข์ ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมากๆ ยังมีอาการบ้างนิดหน่อยแต่ดีกว่าตะก่อนเยอะค่ะ
ไปพบจิตแพทย์ค่ะ เค้าจะมียาปรับสารเคมีในสมองช่วยค่ะ กินยาดีที่สุดจนอาการดีขึ้นค่ะ
ไปหาหมอนะแม่ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเองแต่เพื่อลูกด้วย ทุกคนเป็นกำลังใจให้นะคะแม่
ไปหาหมอเองเลยค่ะ ไม่ต้องรอ สามี ชวนใครไปก็ได้ เพื่อนหรือญาติ ก่อนที่จะสายเกินแก่