คุณแม่ตั้งครรภ์...กินยาอย่างไรให้ปลอดภัย?
"การหลีกเลี่ยงอาการเจ็บป่วยตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์นั้นอาจทำได้ยาก บางอาการอาจจะหายได้โดยไม่ต้องรับประทานยา แต่บางครั้งก็มีความจำเป็นต้องใช้ยา ว่าแต่คุณแม่จะทราบได้อย่างไร?"
คุณแม่สามารถซื้อยาทานเองได้หรือไม่?
ในกรณีนี้ควรเลือกใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ คุณแม่ไม่ควรซื้อยากินเองในระหว่างตั้งครรภ์ ถึงแม้จะเป็นยาสามัญประจำบ้านก็ตาม เนื่องจากยาทุกชนิดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ เพราะเมื่อยาเข้าไปในกระแสเลือดของแม่จะซึมผ่านรกเข้าสู่กระแสเลือดของทารกในครรภ์นั่นเอง
เช่นเดียวกับน้ำ สารอาหาร และออกซิเจนที่ทารกได้รับทางสายสะดือ ซึ่งยาจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยคือ อายุของทารก ชนิดและขนาดของยาที่แม่ได้รับ
ผลกระทบต่อลูกในครรภ์จากการรับประทานยาอันตราย
ถ้าแม่ได้รับยาที่อันตรายต่อทารก ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดการแท้งหรือทารกเสียชีวิต ถ้าได้รับระหว่างสัปดาห์ที่ 3-8 หลังการปฏิสนธิ ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกกำลังเร่งสร้างอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย อาจทำให้อวัยวะไม่ครบหรือผิดปกติได้ และถ้าได้รับช่วงเดือนที่ 4-9 ที่ทารกกำลังมีการพัฒนาอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย จะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของอวัยวะนั่นเอง
ตัวอย่างยาที่ยืนยันแล้วว่า อาจเกิดอันตรายต่อทารกได้ ถ้าใช้ในขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ ยารักษาสิวไอโสเตรติโนอิน (Isotretinoin) ยารักษามะเร็ง ฮอร์โมนเพศ ยากันชัก ยารักษาโรคไทรอยด์ ยาต้านแบคทีเรียกลุ่มเตตราไซคลีน กลุ่มอะมิโนกลัยโคไซด์ กลุ่มซัลโฟนาไมด์ เป็นต้น
ยาที่หญิงตั้งครรภ์พอจะใช้ได้บ้าง ได้แก่
1. ยาลดไข้แก้ปวดคือ “พาราเซตามอล” ถือว่าปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกในครรภ์
2. ยาลดน้ำมูกแก้แพ้คือ “คลอเฟนิรามีน” ที่นิยมใช้กันมากและปลอดภัยที่สุด หรือยาเม็ดแก้แพ้อากาศเม็ดสีเหลืองที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในผู้ใหญ่
3. ยาปฏิชีวนะในหญิงตั้งครรภ์อาจเลือกใช้ยากลุ่มเพนิซิลลิน เช่น เพนิซิลลิน-วี แอมพิซิลลิน หรืออะม็อกซีซิลลิน เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์
4. ยาลดอาการท้องผูกคือ ยากลุ่มที่ออกฤทธิ์เพิ่มกากอาหาร เช่น ไซเลียม (Psyllium) เมทิล เซลลูโลส (Methyl cellulose) ยากลุ่มนี้มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากไม่ถูกดูดซึมในทางเดินอาหาร และยากลุ่มที่ทำให้อุจจาระนิ่มลง เช่น แลคตูโลส (lactulose)
5. ผงเกลือแร่ เป็นยาสามัญอีกชนิดหนึ่งที่สามารถใช้เพื่อทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ เนื่องจากท้องเสีย ท้องเดิน หรืออุจจาระร่วงได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ ก่อนใช้ยาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอค่ะ
ที่มา
หมอชาวบ้าน, การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์, https://www.doctor.or.th/article/detail/1394
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร รพ.ควนเนียง, http://122.154.49.134/knhosdrug/druganc.pdf
ความปลอดภัยในการใช้ยาขณะให้นมบุตร ฝ่ ายเภสัชกรรมชุมชน โรงพยาบาลบันนังสตา,http://118.175.86.109:443/MCH/office/การใช้ยาในหญิงให้นมบุตร.doc
การใช้ยาในสตรีมีครรภ์, http://student.nu.ac.th/u43210178/pregnan.pdf
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

5 เรื่องน่ารู้สำหรับคุณพ่อ-คุณแม่ก่อนตั้งชื่อลูกน้อย
(4 reviews)

เตรียมพร้อมคลอดด้วยอาหารและการออกกำลังกาย
(2 reviews)

พ่อแม่ชวนกันออกกำลังกายเพื่อสุขภาพครรภ์ที่ดี
(3 reviews)

เช็คลิสต์ให้พร้อม! จัดเตรียมข้าวของรับลูกน้อยแรกเกิด
(8 reviews)

7 เคล็ดลับการกินเพื่อน้ำหนักตัวที่ดีของลูกในครรภ์
(9 reviews)

เมนูห้ามพลาดพร้อมปริมาณสารอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
(1 ทบทวน)

รวมเพลงกล่อมเด็กให้ลูกฟังสบายได้พัฒนาสมอง
(13 reviews)

10 คำพูดต้องห้ามที่คุณพ่อควรรู้ เพราะคนท้องอารมณ์เสียง่าย
(2 reviews)

สัญชาตญาณความเป็นแม่เริ่มตั้งแต่ลูกมาอยู่ในครรภ์