4 ตอบกลับ
ในฐานะพ่อแม่ที่สนับสนุนพัฒนาความคิดของลูก หลายครั้งคำตอบของเด็กอาจจะฟังน่าเบื่อสำหรับคุณ แต่คุณก็ต้องทำให้ลูกรู้ว่าคุณฟังอยู่และสิ่งที่ลูกพูดน่าสนใจ เช่น พูดว่าอืม อ๋อหรอ จริงหรอ แล้วไงต่อลูก เพื่อให้ลูกรู้สึกอยากคุยกับคุณต่อไป บางทีเด็กอาจต้องใช้เวลาคิดก่อนตอบซักหน่อย ก็รอลูกซัก 3-10 วินาที ใจเย็น ๆ นอกจากนี้ถ้าลูกยังเล็กหรือเราเพิ่งเริ่มถามคำถามแบบเปิด คุณอาจต้องถามซ้ำอีก ถามใหม่ หรือถามให้สั้นลงโดยเปลี่ยนคำให้ลูกตอบง่ายขึ้น แต่ก็อย่ากดดันลูกเกินไป น้ำเสียงของพ่อแม่ก็สำคัญเช่นกัน เจสันบอกว่าเด็ก 2-11 ขวบจะเรียนรู้ได้เร็วมาก และพร้อมจะรับทุกอย่าง คุณส่งเสริมลูกได้ง่าย ๆ เช่น หลังจากเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง ก็ถามลูกว่าลูกคิดยังไงกับเรื่องนี้ ลูกว่าเรื่องนี้มันจบแบบอื่นได้มั้ย ได้ยังไง รู้มั้ยทำไมหมาป่า (หรือตัวละครในนิทาน) ถึงทำ…. หรือ เกิดอะไรขึ้นกับ…. แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ ทั้งนี้ คำถามที่ถามก็ขึ้นอยู่กับอายุลูกด้วย สำหรับเด็กเล็ก คุณอาจจะแค่ถามว่าใครทำอะไร คำถามว่าเพราะอะไรหรือยังไงจะเหมาะกับเด็กที่โตกว่า ถ้าเราเลี้ยงลูกแบบสั่งคำสั่งเสมอ หรือห้ามเด็กตอบคำถามหรือพูดบ่อย ๆ เด็กจะคิดไม่เป็น วิเคราะห์ไม่เป็น และไม่กล้าเถียง หากการเปิดให้ลูกพูดได้เยอะทำให้เด็กมีนิสัยชอบพูดแทรกผู้ใหญ่ เราก็สามารถถามลูกแบบให้เขาคิดได้เอง เช่น ลูกคิดว่าคนที่เขากำลังพูดจะรู้สึกยังไง ถ้ามีคนพูดแทรก (น้ำเสียงพ่อแม่ต้องถามแบบนิ่มนวลไม่ใช่กำลังติลูกอยู่) หรือถ้าเด็กชอบถามคำถามในห้องเรียนเยอะมากจนทำให้คนอื่นไม่ได้ถาม ครูก็อาจจะบอกเด็กคนนั้นว่าขอบใจนะที่หนูตั้งคำถาม แต่ครูว่าให้เพื่อนคนอื่นถามบ้างดีมั้ย หนูว่าฟังคำถามเพื่อนบ้างจะดีมั้ย เราอาจจะบอกว่าเมื่อก่อนเราเรียนรู้แบบรับคำสั่งมาโดยตลอด ไม่ค่อยได้คิดเองเรายังพัฒนาความคิดของเราได้ แต่ความเป็นจริงเราต้องปรับตัวตามโลกนี้ และเด็กสมัยนี้ก็ต้องพบกับความท้าทายและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นพ่อแม่ควรจะเตรียมลูกให้พร้อม การตั้งคำถามแบบเปิดนอกจากจะดีกับลูกแล้ว ยังช่วยให้พ่อแม่เรียนรู้และคิดได้กว้างขึ้นด้วย ก็อย่างที่เขาบอกแหละ การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ที่มา:The Asianparrent.con
แม่เพนเคยอ่านข้อมูลในลิงค์นี้แล้วชอบมากเลยค่ะ เลยเอามาปรับใช้กับลูก ในช่วงก่อนนอน แม่เพนจะหาเวลาสั้นๆในการคุยกับลูกสาวค่ะ ว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ชอบหรือไม่ชอบอะไร มีอะไรที่อยากให้เปลี่ยนหรือปรับปรุงหรือไม่ ต้องการให้เปลี่ยนอย่างไร มีอะไรอยากจะเล่าให้ฟังหรือไม่ โดยคำถามที่ใช้ถามจะปรับเป็นภาษาที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับเด็กในแต่ละวัยค่ะ อย่างลูกสาวแม่เพน 5 ขวบ ก็จะใช้คำที่ง่ายหน่อย เช่นวันนี้ไปโรงเรียนชอบตอนไหนที่สุด ทำไมถึงชอบ เป็นต้น การคุยแบบสั้นๆ นี้ นอกจากจะใช้ฝึกสมองลูกแล้ว ยังสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ของแม่และลูกได้มากขึ้นอีกนะคะ คุณแม่ก็จะเข้าใจความคิดของลูกได้มากขึ้นค่ะ นอกจากนี้ แม่เพนจะใช้คำถามปลายเปิดกับลูกหลังจากที่ Time Out เสร็จแล้วค่ะ จะถามว่าที่ถูก Time Out เพราะอะไร ควรจะแก้ไขอย่างไร เป็นต้นค่ะ http://baby.kapook.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81-142747.html
คำถามง่ายๆเลยค่ะ -วันนี้เรียนอะไรบ้างคะ -ชอบเรียนวิชาอะไรมากที่สุดค่ะ -มีเพื่อนมาเรียนเยอะมั้ยคะ -เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะว่าคุณครูสอนอะไร เป็นคำถามเกี่ยวกับชีวิตประจำวันค่ะ ไม่จำเป็นต้องถามคำถามยากๆเลยค่ะ เราจะได้รู้เรื่องราวจองลูกที่เกิดขึ้นทุกวันและเค้าก็จะได้ฝึกสมองเพื่อจะค้นหาคำศัพท์มาพูดกับเราด้วยค่ะ
Promo terbesar expert care sudah dimulai, diskon hingga Rp.100.000 sedang berlangsung di shopee, ada juga voucher diskon 100% alias gratis bagi bunda yang beruntung. Buruan cek di https://shope.ee/9UfEMMqqTg (id-8911)