9376 ตอบกลับ

ถ้าเป็นตัวคุณพ่อเองก็ไม่แน่ใจครับว่าตัวเองแพ้ยาอะไรบ้างหรือเปล่าแต่ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เคยกินยาตัวไหนหรือวิตามินอะไรก็ตามเข้าไปแล้วแพ้นะครับ แต่ถ้าเป็นตัวคุณแม่บ้านนี้ถือว่าโชคร้ายครับที่แพ้ยาซึ่งน้อยคนจะแพ่กันบนโลกคือ ยาลดน้ำมูก คลอเฟนิรามีน เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่ครับว่ามีคนแพ้ เท่าที่คุณพ่อหาข้อมูลมา 1 ใน 5 ล้านคนนะครับถึงจะแพ้ยาตัวนี้ และเจ้ายาตัวนี้นี่แหละครับเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่บ้านนี้ต้องตาบอดไปโดยปริยายตั้งแต่เด็ก ถือว่าโชคร้ายมากๆครับ แต่รอดชีวิตมาจากครั้งนั้นได้ก็ถือว่าเป็นบุญแล้วครับ เพราะเท่าที่คุณพ่อทราบมาใครที่แพ้ยาตัวนี้ส่วนใหญ่จะมีอาการหนักส่วนใหญ่ที่แพ้มักจะเสียชีวิตครับถ้ารอดมาก็จะมีความผิดปกติอะไรบางอย่างติดตัวมาความพิการอย่างคุณแม่บ้านนี้เป็นต้น อย่างคุณแม่บ้านนี้ได้รับคลอเฟนิรามีนเข้าไปตอนอายุ 2 ขวบครึ่ง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพี่เลี้ยงครับ อันที่จริงจะไปโทษเขาก็ไม่ได้เพราะคุณแม่ตั้งแต่เกิดมาณตอนนั้นก็ไม่เคยเป็นหวัดครับมาเป็นเอาวันนั้นพอดีพี่เลี้ยงเขาสงสารก็เลยลองเอายาให้กินดูกินไปได้ไม่ถึงชั่วโมงอาการออกเลยครับหายใจไม่ออกชักเกร็ง หน้าบวมปากบวมตัวบวมไปหมดแต่ไม่มีแผลพุพองตามร่างกายครับ ซึ่งอาการแบบนี้ยอมให้มีแผลตามตัวซะดีกว่าครับเพราะอาการจะได้ออกมาทางผิวหนังขับออกมาได้ ในเมื่อคิดไม่ออกมาทางผิวหนังก็อยู่ในกระแสเลือดครับแล้วไปสะสมอยู่ตามเซลล์สมอ ทำลายเซลล์สมองบางส่วนโดยเฉพาะเซลล์ประสาทตาซึ่งบอบบางอยู่แล้วในเด็กเล็กๆ คุณแม่บ้านนี้ก็เลยต้องกลายเป็นเด็กตาบอดไปโดยน่าเสียดายและโชคร้ายสุดๆครับ
อ่านเพิ่มเติม