ตี๋น้อยมาแล้วครับบ ?
#บันทึกความทรงจำ วัน อังคาร ที่ 22 ตุลาคม 2562 ตัดสายสะดือ 18.14 น. น้ำหนักแรกเกิด 2,720 กรัม 8.30 : เปิดเพลงให้ตี๋น้อยฟังในทุกเช้า พร้อมกับนับลูกดิ้นด้วย 8.40 : มีจังหวะนึงตี๋น้อยดิ้นแรงมาก จนได้ยินเสียง 'โป๊ะ!' ในใจคิดว่า น้ำคร่ำแตกป่ะวะ แต่ไม่น่าใช่ 8.45 : รู้สึกมีน้ำไหลออกมาจากขา ไหลเรื่อยๆกลั้นไม่ได้ ใช่เลย น้ำคร่ำแตก รีบเรียกพี่นัทให้มาดู แตกตื่นกันทั้งบ้าน รีบอาบน้ำ แต่งหน้า(มีความห่วงสวยอีก) แล้วขึ้นรถ 9.40 : ถึงโรงพยาบาลมหาราช 10.00 : พยาบาลตรวจดูปากมดลูก (ไม่ชอบอารมณ์ตอนตรวจเลย ?) พบว่าปากมดลูกเปิด 3 เซ็นต์แล้ว ได้มีการพูดคุยกับหมอที่ฝากพิเศษ เพราะกังวลเรื่องที่ซาวด์ดูแล้วเจอว่าสายสะดือพันคอลูกอยู่ เลยตกลงกับหมอว่า ถ้างั้นขอผ่าค่ะ แต่คิวผ่าคือ 17.00 น. แต่ถ้าจะคลอดก่อนหมอก็จะทำคลอดแบบธรรมชาติให้เลย 10.30 : เริ่มมีอาการปวดท้อง แต่ปวดไม่มาก ให้ความปวดระดับ 4 เต็ม 10 มีความกระหยิ่มกระย่องใจ เพราะตอนปวดท้องเม็น ปวดกว่านี้มากรู้สึกตังเองมีภูมิด้านการปวดท้อง 5555 15.00 : เริ่มปวดท้องมากขึ้นๆ ตอนนี้ให้ระดับ 7 แล้ว แต่ยังไหว ยังยิ้มได้นิดหน่อย 16.30 : ปวดท้องแบบหนักมาก!!! ปวดกว่าปวดท้องเม็นไปอีก ปวดจนร้องออกมา ปวดแบบน้ำตาไหลพราก ทั้งจิกขอบเตียง ทั้งจิกเท้า ปากก็สั่นไป คือมันปวดเกินคำบรรยาย พยาบาลมาตรวจดู ปากกมดลูกเปิดได้แค่ 5 เซ็นต์เอง ? 17.00 : ถึงคิวผ่าคลอด ตอนนั้นคือรีบไปเถอะ ทำไรก็ทำ ปวดอิ้บอ๋าย ร้องลั่นห้องเลย 17.10 : ถึงห้องผ่าตัด หมอติดอุปกรณ์ต่างๆ สายระโยงระยางไปหมด แล้วเริ่มให้ดมยาสลบ 18.14 : ไอ้ตัวเล็กออกมา ตามที่คุณหมอบอก ตอนนั้นสลบไสลไม่รู้เรื่องราว 20.00 : รู้สึกตัวตื่น ท้องเบาหวิว จะถามพยาบาลเรื่องลูกเสียงก็ดั้นนหาย จากการที่ดมยาสลบ+สอดท่อช่วยหายใจ แล้วก็เข็นเตียงมาที่ห้องพักตัวเอง 20.20 : เจอหน้าไอ้ตัวเล็กครั้งแรก รู้สึกแปลกมาก คือเด็กคนนี้ออกมาจากท้องเราหรอ นี่เราให้กำเนิดชีวิตๆนึง แต่เนื่องด้วยยาสลบที่ยังไม่หมดฤทธิ์+มอร์ฟีน เลยได้แค่ยิ้มๆ จับลูกได้นิดหน่อย ลองเอาลูกเข้าเต้าดู ไอ้จิ๋วไม่ดูดนมเล้ยย สงสารลูกเด้ มีแม่นมน้อย 555 แล้วก็เริ่มสลบไสลอีกรอบง่วงหลาย บันทึกไว้เพื่อเตือนตัวเองในทุกๆปี เป็นโมเม้นท์ที่เจ็บปวดมากที่สุดในชีวิต แต่ก็แฝงไปด้วยความสุข #รักแรกพบมีอยู่จริง ??? #38+4w
คุณแม่อาตี๋น้อย