อาการแพ้ท้องช่วงแรก​ มีใครเป็นเหมือนแม่มั้ย

เรื่องเล่า "คนท้อง" ประสบการณ์​ตรงที่ยากจะลืม.. ... ตอนเรียนก็รู้ว่า​ คนท้องจะต้องมี​#อาการแพ้ และส่วนมากจะเป็นช่วง​ 3 เดือนแรก และเห็นคนที่ท้องเค้าก็ดูแฮปปี้​ดี​ ถึงเวลาที่เจอเข้าจริงๆ​ อยากจะบอกว่า... ​ กว่าจะผ่านช่วงแพ้ท้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราเลยย​ 😭 น้ำหนักหายไป​ 5 กก.😢 น่องปูดๆ​ หายกลายเป็นขาเรียวเล็กเยี่ยงนางแบบ​ ออกจากบ้านไม่ได้​เป็นเดือนๆ​ (คนท้องที่ไม่ค่อยแพ้ถือว่าแม่โชคดีมาก​ แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องปลอดภัยสำหรับลูกเท่าไร​ เพราะตำราบอกว่าถ้าฮอร์โมน​ไม่สูงมาก​ อาการแพ้ก็จะน้อย​ และเสี่ยงแท้งได้ง่าย) ... ตอนไม่ท้อง​ ก็อยากท้อง​ ก็อายุไม่น้อยแล้ว คิดว่าถ้าจะแต่งงานจะต้องท้องให้ได้ก่อนจัดงานแต่ง​ เพราะจะได้เป็นเครื่องยืนยันว่าแต่งแล้วเราจะมีลูก ไม่ต้องเสียเงินไปทำ​ ก็ทุกวันนี้คนเราแต่งงานช้าด้วยเหตุผลร้อยแปด​ และมีลูกยากมากขึ้นนี่นา​ 😅😅 มาต่อ...กัน เริ่มจาก​ วันที่​ 22 หลังจากประจำเดือนวันแรกของเดือนก่อน​ (ปกติรอบเดือนเราจะมา​ 25-26​วันครั้ง)​ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของหน้าท้อง​ ที่ปกติมีน้อยมาก​ ท้องน้อยเริ่มยื่น​ แบบแขม่วไม่มิด​ และเริ่มรู้สึกปวดท้องน้อย​ เหมือนจะมีประจำเดือน​ 🙄 แต่ก็ยังรู้สึก​ว่าเตือนเร็ว​ไป​ เป็นอยู่ทุกวันจน​ 5 วันต่อมา​ มันเลยวันที่เจ้า​ ปจด.​ ต้องมาแล้วสิ​ เลยลองตรวจปัสสาวะ​ดู​ ผ่านไป​ไม่ถึง 1 นาที​ ขีดก็เริ่มปรากฏ​เป็น​ 2 ขีด​จ้า​ แต่ก็ยังไม่มั่นใจ​ อาทิตย์​ต่อมาต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่คลินิกพอดีเลยขออาจารย์​หมอตรวจ​ Ultrasound ดู​ ปรากฏ​ว่า​ เห็น....จ้า​ เห็นเป็นโพรง​ดำๆ​ เล็กๆ​ แต่ยังไม่เห็นจุดชัด​ (ปกติคนท้องถ้า​ U/S​ จะเห็นจุดในโพรงมดลูก​ก่อน​ ตามมาด้วยก้อน​ แล้วจึงเห็นตัวทารกน้อยเมื่ออายุครรภ์​ค่อยๆเพิ่มขึ้น)​ อาจารย์​เลยนัดตรวจใหม่อีก​ 1 สัปดาห์​ จากนั้นก็เห็นเป็น​ Sac และจุดจางๆ​ และก็ไปตรวจอีกก็เป็นการย้ำชัดว่า​ ท้องจริงๆ​ ไม่นอกมดลูก​ตามที่แอบกลัว​ พอเริ่มย้ำชัดเท่านั้นล่ะ​ อาการแพ้ท้องก็เริ่มมาจ้า เริ่มจาก​รู้สึกเวียนหัว​ คลื่นไส้​ เบื่ออาหารมาก​ ไม่มีความอยากกินอะไรเลยทุกวัน​ และปวดท้องน้อยแบบหน่วงๆ​ ช่วงเย็นทุกวัน​ จากนั้นสัก​ 1 สัปดาห์​ เริ่มเป็นมากขึ้น​ จากคนที่อาเจียนไม่เป็น​ ก็อาเจียนทุกวันวันละ​ 1-3​ รอบ​แล้วแต่ การรับกลิ่นและรสเริ่มเปลี่ยนไป​ เริ่มรับกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ​ กลิ่นอาหาร​ กลิ่นข้าวสวยที่หุงเสร็จ​ใหม่ๆ​ ก็เหม็น​ กลิ่นเปิดตู้เย​็น​ กลิ่นเศษอาหาร​ กลิ่นมาม่าก๋วยเตี๋ยว​นี่แทบทนไม่ได้​ อยู่ระยะ​ 5 เมตรก็ได้กลิ่น​ ต้องหลบไปอยู่ในห้องนอน​ การรับรสก็เริ่มไวต่อรสเผ็ด นิดเดียวก็ไม่ได้​ การย่อยก็แย่มาก​ ท้องอืด​แน่นท้องมาก​ทุกวัน​ ทั้งที่กินแค่วันละมื้อ ของทุกอย่างที่เคยชอบ​ กินไม่ได้เลยย​ (เปิดทุกเว็บดูอาหารที่กินแล้วลดท้องอืด​ ลดคลื่นไส้​ ไม่ได้ผล ขนาดฉีดยาแก้อาเจียน​ยังไม่ช่วย)​ 🤮🤢😒 #การปรับตัวในช่วงนั้น​ เริ่มจาก... ต้องเลี่ยงของที่เพิ่มแก็ส​ และที่ย่อยยากทุกชนิด​ เพราะไม่งั้นจะนอนไม่ได้​ และพยายาม​กินอาหารที่ให้พลังงานเยอะๆ​ ไม่ต้องสนว่าครบ​ 5 หมู่มั้ย​ เอาแค่ให้พลังงานพอ​ และที่สำคัญ​ยาบำรุงเพื่อลูกอย่าให้ขาดถึงจะกินอะไรไม่ได้​ แต่ยาแม่ต้องกินให้ได้​ ท่องอย่างเดียวว่า... เพื่อลูก​ ตื่นเช้ามา​ หาขนมรองท้องก่อนลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวให้ตรงเวลา​ (ซึ่งเรากินได้แค่วันละมื้อและต้องไม่เผ็ด​ แบบติดหวานเลยด้วยซ้ำ)​ เตรียมขนม​ ของว่าง​ น้ำหวาน​ นม​รสหวาน​น้ำเปล่าไว้ใกล้ตัว​ กินได้ไม่ได้อีกเรื่อง​ ขออุ่นใจไว้ก่อน​ ตอนสาย-ค่ำที่เริ่มเวียนหัว​ คลื่นไส้​ ก็นอนหลับตาไป​ เปิดเพลงเบาๆ​ กล่อมตัวเอง​ จิบน้ำไป​ ถ้าเริ่มหิวก็ฟาดขนมใกล้ที่เห็นแล้วไม่อยากอ้วกใส่ปากบ้าง ราวๆ​ 1 เดือน​ ก็เริ่มดีขึ้น​ เริ่มกินได้​ 2 มื้อหลักแบบ​ portion เล็กๆ​ กินจุบจิบ​เกือบทุก​ 2 ชั่วโมง​ ไม่ปล่อยให้ท้องหิว​ แต่อาการจมูกไวยังคงอยู่​ กลิ่นไหนไม่ชอบ​และวันไหนรู้สึกแน่นท้องมีอ้วก​กก​​ 🤮🤮เหมือนเดิม​ วันนี้เท่านี้พอ​ ไว้เล่าอาการอื่นๆ​ ต่อ #เรื่องเล่าคนท้อง​ #ไว้เปิดให้ลูกอ่าน

2 ตอบกลับ

ไม่เกี่ยวกับแพ้ไม่แพ้หรอกค่ะ ที่ว่าเด็กจะสมบูรณ์แข็งแรงไหม เราท้องที่ 2 แล้วค่ะ ไม่เคยแพ้เลย อย่างมากก็แค่เหม็น ดอกไม้ น้ำหอม แค่นั้น กินได้หมด ทุกอย่างค่ะ สู้ๆนะค่ะ ตัวน้อย

Super Mum

อ่านแล้วเพลียแทนแม่เลยค่ะ สู้ๆ นะคะ ✌✌

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง