11180 ตอบกลับ
สถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจเช่นนี้ถ้าใครยังมีงานประจำมีเงินเดือนที่มั่นคงและเพียงพออยู่ต่อให้เหนื่อยหนักแค่ไหนหรือเบื่อเจ้านายเบื่อที่ทำงานเพียงใดก็จงโปรดเกาะบริษัทหรือที่ทำงานไว้ก่อนเถอะครับเพราะถ้าเกิดตัวลาออกมาจะหางานทำใหม่คงจะยากครับในช่วงนี้ต่อให้มีเงินก้อนก็เถอะจะมาทำธุรกิจอะไรตอนนี้รับรองครับเจ๊งทุกอย่างแน่นอนเห็นจะมียกเว้นแต่ธุรกิจเกี่ยวกับด้านความสะอาดที่ยังพอไปได้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แต่ถ้าไม่เจอเหตุการณ์วิกฤตแบบนี้ เศรษฐกิจโดยรวมก็ไม่ค่อยดีอยู่ดีรับรองครับถ้าเผลอลาออกมาพร้อมเงินก้อนนั้นอีกไม่นานเงินก้อนนั้นแหละจะหมดซะก่อนเพราะเราจะหางานทำใหม่หรือสร้างธุรกิจใหม่ๆในช่วงนี้ยากมากอยู่ได้อยู่ไปก่อนเถอะครับอย่าเผลอตัวลาออกมาเชียว
อ่านเพิ่มเติมต้องพิจารณาหลายปัจจัยค่ะ ถ้าเงินชดเชยมากพอและเราเองไม่ได้เดือดร้อนคงออก ถือว่าได้พักร่าง เพราะหลังจากนี้ยังมีงานให้สมัครอีกหลายที่ บ้านนี้เองอายุยังไม่ถึงเลขสาม คิดว่ายังไปต่อได้ไกลค่ะ
ถ้าหากนายจ้าง มีปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ตกต่ำ หรือ รายจ่ายไม่พอหมุนเงิน ไม่ทัน หรือ ปิดกิจการ นายจ้าง ขอร้อง ให้ลาออกฉันจะลาออกหากเขาจ่ายเงินทดแทนให้
ต้องดูที่บริษัทด้วยว่ามั่นคงขนาดไหน แต่ถ้ายิ่นข้อเสนอแบบนี้ก้แสดงว่าเค้าพอที่จะรุ้ว่าบริษัทกำลังจะไปไม่รอดก้ต้องออกคะ
เพราะบริษัทตัดสินใจลดพนักงานโดยการให้ลาออกแบบสมัครใจก็ต้องยอมรับแล้วขอเวลาว่าให้หางานที่ใหม่ได้ก่อนแล้วจะออกค่ะ
ถ้าเงินก้อนหนึ่งก้อนนั้น จำเป็นอย่างยิ่ง ณ เวลาแบบนี้ก็ออกค่ะ แต่ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ก็จะเกาะบริษัทไปก่อน 😁😁
ถ้างานนั้นมันโอเคกับเราคงที่แล้ว ไม่ลาออกค่ะ แน่ถ้าทำไปนานเข้ารุ้สึกไม่โอให้เงินก็ออกค่ะ
ต้องดูกรณีถ้าไม่ลาออกแล้วยังไง เช่นไม่มีงานให้ทำ หรือมีงานแต่เงินเดือนลดลง ก้ลาออกดีกว่า
ต้องดูด้วยค่ะ ว่าออกเพราะอะไร ถ้าสถานะครอบครัวเราดี อยู่ได้ถ้าไม่ทำงาน เลือกออกค่ะ
ออกค่ะ เพราะตอนนี้บริษัทก็กำลังร่อแร่ หากมีเงินก้อนให้ก็ยอมดีกว่าถูกยุบไปเฉยๆ