1 ตอบกลับ

VIP Member

ค่าฝากครรภ์ ค่าฝากครรภ์ 1,000 บาท (เริ่มใช้ 1 พฤษภาคม 2561) อันนี้เป็นเงินสนับสนุนที่เพิ่งผ่านการลงมติให้เพิ่มเข้ามาค่ะ เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจครรภ์รวมไปถึงการรับฝากครรภ์ โดยเงินก้อนนี้จะได้ทั้งหมด 1,000 บาท มีการแบ่งจ่ายทั้งหมด 3 งวดด้วยกัน คือ ครั้งที่ 1 อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ จะได้รับเงิน 500 บาท ครั้งที่ 2 อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ จะได้รับเงิน 300 บาท ครั้งที่ 3 อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ จะได้รับเงิน 200 บาท สิทธิการลาคลอด ลาคลอดได้ 90 วัน (รวมวันหยุดด้วย) ในการลาเพื่อหยุดเพื่อคลอดลูก คุณแม่สามารถลาได้ทั้งหมด 90 วัน โดยรวมวันหยุดทั้งหมดแล้ว และจะได้รับ เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร 50% (ฐานเงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ 15,000 บาท) ในกรณีนี้คุณแม่จะต้องส่งเงินประกันมาที่ประกันสังคมตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไป ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ถึงจะได้รับสิทธิตรงนี้ได้ โดยเงินในส่วนนี้จะเป็นประกันสังคมออกให้ 45 วัน และนายจ้างออกให้อีก 45 วัน ในกรณีที่คุณแม่มีเงินเดือนมากกว่า 15,000 บาท คงแอบรู้สึกเสียดายค่าจ้างที่ควรได้รับ ก็สามารถกลับมาทำงานได้ก่อน 90 วันค่ะ โดยค่าจ้างจะได้รับตามเดิมแบบเต็มๆ แต่เรื่องไม่เป็นปัญหาก็ใช้เวลาตรงนี้ฟักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย และอยู่กับลูกได้เต็มที่เลยค่ะ ค่าคลอดบุตร เหมาจ่าย 13,000 บาท โดยสามารถเบิกกับโรงพยาบาลไหนก็ได้ แต่คุณแม่จะต้องจ่ายเงินสมทบครบ 5 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนเดือนคลอดบุตร ซึ่งในส่วนนี้คุณแม่สามารถเบิกได้สำหรับบุตรเพียง 2 คนเท่านั้น แต่ในกรณีที่ คุณแม่และคุณพ่อมีประกันสังคมทั้งคู่ทั้งคู่ จะสามารถเบิกได้จำนวนบุตรคนละ 2 คน เป็นแบบต่างคนต่างเบิก ไม่สามารถนำบุตรคนเดียวกันไปเบิกได้นะคะ ค่าสงเคราะห์บุตร เหมาจ่ายเดือนละ 400 บาท (ตั้งแต่แรกเกิดจนบุตรมีอายุ 6 ปี) สำหรับคุณแม่ที่จ่ายเงินสมทบเป็นประจำทุกเดือนเป็นเวลา 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนที่จะแจ้งสิทธิ สามารถรับเงินในส่วนนี้ได้ค่ะ โดยคุณแม่จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรแบบเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน สามารถเบิกได้ตั้งแต่น้องเกิดจะถึงอายุ 6 ปีเลยค่ะ แต่สิทธินี้จะใช้ได้กับบุตรครั้งละไม่เกิน 3 คนนะคะ และต้องเป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือเป็นลูกแท้ๆ ที่คุณแม่คลอดมาเอง ไม่เกี่ยวกับกรณีบุตรบุญธรรมค่ะ

คำถามที่เกี่ยวข้อง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง