2 ตอบกลับ

VIP Member

ช่วงแรกที่วัคซีนโควิด เข้ามาในประเทศไทย ทางสาธารณสุข และราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ยังไม่มีเวลามากพอในการศึกษาและประชุมร่วมกัน ในเรื่องการฉีดให้หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร จึงมีประกาศออกมาว่า ไม่แนะนำให้ฉีด ยกเว้นหากว่ามีความเสี่ยง หรือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ต่อมา ทางราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ได้มีการประชุมร่วมกัน และอ้างอิงถึง 3 สมาคมของประเทศอเมริกา จึงได้มีประกาศล่าสุดออกมาว่า แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดในหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยให้สูติแพทย์ ผู้ดูแลครรภ์เป็นผู้ประเมินและพิจารณา วัคซีนเชื้อตาย เป็นกรรมวิธีการผลิตวัคซีนที่เรียกได้ว่า เก่าแก่ที่สุด และมีผลงานวิจัยรองรับมามากกว่า 80 ปี ว่าสามารถใช้ฉีดให้กับหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ มากกว่า 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยไม่ส่งผลต่อความพิการหรือชีวิตของทารกในครรภ์ และมีอัตราการแพ้วัคซีนต่ำที่สุด ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลงานวิจัยราว 9หมื่นฉบับ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน mRNA (Pfizer/Moderna) ในหญิงตั้งครรภ์ ว่าสามารถส่งต่อภูมิฯ ต้านทานให้กับทารกในครรภ์ และคงอยู่หลังคลอดได้มากที่สุดถึง 6 เดือน โดยไม่มีรายงานเลยว่า การฉีดวัคซีน ส่งผลให้เกิดความพิการต่อทารกหลังคลอดหรือ การเสียชีวิตของทารกในครรภ์เลยแม้แต่เคสเดียว ทั้งๆ ที่เป็นวัคซีนชนิด mRNA ในประเทศไทย วัคซีน Sinovac จึงได้รับการแนะนำ จากสูตินรีแพทย์ ให้ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ไม่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ไม่มีประวัติเคยเป็นลิ่มเลือด ไม่มีแนวโน้มลิ่มเลือดอุดตัน รวมทั้ง ไม่เคยมีประวัติแท้งบุตรมาก่อน หรือไม่มีแนวโน้มเสี่ยงแท้งบุตร แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยง และผลเสียของการติดเชื้อโควิดในไตรมาสสุดท้าย และช่วงคลอด ตัวเราเองไม่ได้อยู่ในชุมชุน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในแต่ละวันยังไม่ได้ลดลงเลย วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ หญิงตั้งครรภ์ต้องอยู่บ้าน 100% รวมทั้งสมาชิกในบ้านด้วย เพราะหากว่ามีการออกไปพยปะผู้คนนอกบ้าน ถือว่า มีความเสี่ยงทั้งนั้นค่ะ สามีเรายังต้องเข้าออฟฟิศ สัปดาห์ละ 3 วัน ต้องมีพบลูกค้าบ้าง เราและสามีมองว่า นี่คือแนวโน้มความเสี่ยง ซึ่งการติดเชื้อโควิดในไตรมาสสุดท้าย ส่งผลอันตรายค่อนข้างมาก ต่อแม่และทารกในครรภ์ เช่น เสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ต้องใช้ท่อหายใจ และในระหว่างคลอด ต้องใช้แพทย์พยาบาล ที่สวมชุด PPE ตลอดการทำคลอด และต้องเป็นการผ่าคลอด และใส่ท่อหายใจในระหว่างคลอด ทำให้มีความเสี่ยงภาวะปอดล้มเหลวทั้งแม่และลูก และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นที่สูงมากๆ เราฉีด Sinovac เข็มแรก เมื่ออายุครรภ์ได้ 19+2 วีค และเข็มที่สองในต้นเดือนกรกฎาคม ฉีดมาแล้ว ก็ไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ เราเพิ่งอัลตร้าซาวด์ใหญ่ 20 วีค เพื่อดูความสมบูรณ์ของลูกในท้อง ลูกเราสมบูรณ์แข็งแรงปกติดีทุกอย่าง หัวใจก็ยังเต้นแรงดี จังหวะสม่ำเสมอดี เป็นปกติ น้ำหนักก็เกินเกณฑ์ เราแนะนำให้คุณแม่ ปรึกษาและประเมินร่วมกับคุณหมอที่คุณแม่ฝากครรภ์ และพิจารณาด้วยเหตุผลค่ะ ข่าวลือ มักจะไม่ใช่ข่าวที่เป็นเชิงบวก สร้างความตระหนกวิตกกังวลจนเกินไป ซึ่งถ้าคุณแม่ไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงได้ ก็ลองพิจารณาดูค่ะ

ขอบคุณนะคะ💜

ถ้าคุณแม่เสี่ยง เช่น มีโรคประจำตัว เป็นบุคลากรทางการแพทย์ อยู่ในชุมชนที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ก็ควรฉีดค่ะ แต่ควรฉีดวัคซีนเชื้อตาย ส่วนเราไม่ได้ฉีดนะคะเพราะยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่าเมื่อลูกคลอดออกมาจะปลอดภัย เลยว่าจะรอคลอดก่อนค่อยไปฉีดค่ะ 😅คุณแม่ลองปรึษาคุณหมอที่ฝากครรภ์อีกทีนะคะว่าคุณหมอคิดเห็นยังไงบ้าง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง