4 ตอบกลับ

ปกติร่างกายต้องการน้ำประมาณ 8 แก้วต่อ วัน แต่หญิวตั้งครรภ์ควรเพิ่มเล็กเป็น 10 แก้วต่อวันค่ะ เพราะน้ำในร่างกายส่วนใหญ่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของเลือดที่จะนำสารอาหารผ่านหลอดเลือดไปเลี้ยงดูตัวอ่อนในครรภ์ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ร่างกายของทารกจะถูกห่อหุ้มไปด้วยน้ำคร่ำที่มีปริมาณมากถึง 32 ออนซ์ ซึ่งน้ำคร่ำนี้จะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 3 ชั่วโมง ดังนั้น การตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 8 แก้วก็ได้ โดยหมั่นสังเกตตนเอง หากเริ่มมีอาการปากแห้ง ต้องกลืนน้ำลายบ่อยๆ ควรกินน้ำให้เพียงพอค่ะ หากรู้สึกว่าดื่มร้ำลำบาก ควรจิบบ่อยๆ แทนการยกดื่มทีเดียว ซึ่งคุณแม่อาจรู้สึกจุกเสียดแน่นท้อง พะอืดพะอมได้ง่ายค่ะ หรือจะลองดื่มน้ำขิง ก้ช่วยแก้อาการมวนท้อง คลื่นไส้ ค่อยๆกินนะคะ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะเสี่ยงทำให้ทารกอาจคลอดก่อนกำหนด เนื่องจาก ร่างกายปล่อยแอนติไดยูเรติก ฮอร์โมน (Antidiuretic Hormone)ออกมาจากตับ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเสียน้ำมากเกินไป และแอนติไดยูเรติก ฮอร์โมน นี่เองจะไปเพิ่มฮอร์โมนออกซิโทซิน ที่ทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูก นำไปสู่การคลอดก่อนกำหนดได้ ขอบคุณที่มา บางส่วนจาก http://www.pregnancysquare.com/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-2/

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ตอนท้องทานอะไรก็ขมปาก ลองดื่มน้ำแร่ดูค่ะ รสชาติจะดีกว่าน้ำเปล่า พยายามทานเท่าที่ทานไหวค่ะ ช่วงท้องไม่ควรให้ร่างกายขาดน้ำค่ะ จะยิ่งทำให้อ่อนเพลียได้ค่ะ

ค่อยๆจิบคร่า ดื่มให้ได้คร่า เปลี่ยนเป็นน้ำที่มีรสชาติหน่อยๆๆคะ เช่นน้ำแร่ เป็นต้น

Promo terbesar expert care sudah dimulai, diskon hingga Rp.100.000 sedang berlangsung di shopee, ada juga voucher diskon 100% alias gratis bagi bunda yang beruntung. Buruan cek di https://shope.ee/9UfEMMqqTg (id-14852)

คำถามที่เกี่ยวข้อง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง