248 ตอบกลับ
ยาบำรุงที่แพทย์ให้ เราคิดว่าปลอดภัยและสามารถทำให้ลูกในครรภ์ แข็งแรงสมบูรณ์มากนะค่ะ โดยส่วนตัวเราคิดว่า ยาบำรุงที่หมอให้มาทุกตัวสำคัญกับลูกหมดค่ะ ตัวเราเองก็ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว พยายามกินให้เป็นวินัยอย่างเคร่งครัด เพราะว่าหากเราทำเป็นประจำแล้วมาวินัยเราเชื่อลูกเราต้องปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งยาบำรุงอื่นนอกจากอาหารที่ดี 5 หมู่ค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์และเป็นเบาหวานถึงขั้นหมอให้ฉีดยาเพื่อลดน้ำตาลตั้งแตาอายุครรภ์ 5 เดือนกว่า ฝากทางช้าอายุแม่ก็ เกิน35ปี แต่หมอตรวจอัลตราซาวด์ ช่วงฝาก 4เดือน ลูกเราสมบูรณ์แข็งแรงดี ทุกครั้งมี่ตรวจพัฒนาการดีตามวัย ขอแทนตัวว่าพี่แล้วกันนะค่ะ พี่อยากให้น้องตั้งใจทานยาเพื่อที่ลูกจะได้แข็งแรง เวลาที่ลูกลืมตาดูโลกจะได้แข็งแรง เพราะพี่เป็นคนหนึ่งที่มีโรคประจำตัวภูมิแพ้หมอก็แนะนำให้ทานอาหารครบ5 หมู่เลือกทานสิ่งที่จำเป็นไม่จำเป็นต้องน้ำหนักขึ้นมากค่ะ อยู่ว่าก่อนท้องเราน้ำหนักเท่าไร ในส่วนตัวพี่เองน้ำหนักขึ้นได้ไม่เกิน 10กิโลค่ะ พี่บอกกับลูกพี่ว่า เราต้องควมอาหารอย่างมีวินัย ออกมาแข็งแรงนะลูกแม่ ฟังและสังเกตุกับสามีทุกวันว่าลูกดิ้นไหม เพราะพี่มีภาวะเสี่ยงค่ะ คุณน้องไม่ต้องเครียดนะพี่คิดว่า ถ้าปฏิบัติตัวตามแพทย์สั่ง เชื่อว่าลูกแข็งแรงแน่นอนค่ะ
บ้านนี้ไม่ได้ทานเช่นกันค่ะ ไม่เกี่ยวว่าไม่รักลูกเหรอ ทำไมไม่อดทนเพื่อลูกเป็นแม่คนแล้วยังคิดไม่ได้เหรอ ?? ปัญหาคือ หลังกลืนยาจะอวกทุกสิ่งทุกอย่างที่ทานเข้าไป ออกมาแล้วจะป่วยต่อ อีก 3-5 วัน ลอง แล้วปรึกษาหมอ หมอจึงบอกว่า ปัญหาของคุณคือการกลืน ตอนเด็กๆน่าจะมีปัญหาหรือเรื่องฝังใจ มันเลยต่อต้านการกลืนยา ซึ่งมันคือเรื่องจริง เปลี่ยนยาก็เท่านั้น ต้องเปลี่ยนการทานอาหารที่ประโยชน์ต่อเด็กมากที่สุดแทน ซึ้งก็ได้ผล หลังจากนั้นหมอก็ไม่เคยบ่นว่าน้องน้ำหนักน้อยอีกเลย ปัญหาแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน ทุกวันนี้ไม่สบายก็เคี้ยวยาพาราค่ะ ขมก็ต้องทน บีบจมูกแล้วดื่มน้ำล้างยาตามซอกฟันมากๆตาม แม่ทุกคนรักลูกหมดค่ะ ไม่มีใครไม่รัก ถ้าไม่รักคงไม่ไว้ตั้ง 9-10 เดือนหรอกค่ะ แล้วปัญหาที่เจอ ตอนตั้งครรภ์ ไม่ใช่น้อยๆ ยอมเจ็บปวดทรมาน เพื่อแลกกับ1ชีวิตที่จะออกลืมตาดูโลก
ธาตุเหล็กที่อยุ่ในขวดอ่ะค่ะ ช่วงแรกเราก้กินไม่ได้ มันจะท้องอืดคลื่นไส้มากกว่าเดิม เรามาเริ่มกินตอนประมาณ 20 วี้ค ซึ่งอาการแพ้ท้องเริ่มดีขึ้น ส่วนแคลเซียมก้เหมือนกัน แรกๆก้กินไม่ได้ ให้กินนม กินโยเกิต กินปลาตัวเล็กทดแทนเอาค่ะ แต่ช่วง สี่เดือนแรกเรากินโฟลิกตลอด ซึ่งเป็นโฟลิกล้วนๆ ไม่มีธาตุเหล็กผสม คือช่วงท้อง 3 เดือนแรก โฟลิกสำคัญมาก ส่วนเหล็ก กับแคลเซียม จะสำคัญช่วงที่ทารกเริ่มสร้างเม็ดเลือดเอง เริ่มตัวโตขึ้น เพราะงั้น แคลเซียมกับเหล็ก ถ้ากินไม่ไหวจริงๆ ก็อาจเริ่มกินหลังสามสี่เดือนก้ได้ค่ะ แต่โฟลิกต้องกินตั้งแต่แรก ตอนนี้เราก้ 35วี้คละ ลูกแข็งแรงดี เรากินโฟลิกแต่แรก แต่เพิ่งมากินแคลเซียมกับเหล็ก ตอนท้องสี่ห้าเดือนค่ะ (ช่วงแพ้ท้องกินไม่ไหว)
บ้านนี้ก็ไม่ชอบกินยามากแบบมากที่สุดกินที่อ้วกแทบแตก แต่ไม่เคยที่จะไม่กิน เพราะห่วงลูกมากกว่าตัวเอง กินไปก็ลงลูกค่ะ ไม่ลงเรา ไม่ว่าจะกินได้ไม่ได้ก็ฝืนค่ะ แม่บ้านนี้เป็นโลหิตจาง มันจะมียาบำรุงเลือดตัว1 ที่เหม็นมากกินทีอ้วกแทบแตก ที่ว่าโฟลิก หรือ แคลเซียม หรือ ยาอื่นว่ากินยากแล้วแต่เจอตัวนี้นะ สำหรับคนไม่ชอบกินยา คือ ฝืนไม่ไหว🤮 หลังๆแม่บ้านนี้มีเคล็ดลับในการกินให้ง่ายขื้นแบบไม่ต้องทรมานตัวเอง คือ เวลากินเข้าไปต้องมีอะไรกินตัด เช่นส้ม นม ผลไม้ หรือไรก็ได้ที่เราชอบมากินตัดในมันที หรือ มีวิธี1 คือตอนกินยาไม่ต้องกินกับน้ำเปล่า ใช้นม หรือ น้ำผลไมแทนช่วยได้ค่ะ
คิดจะมีลูกแล้ว ต้องไม่มีคำไหนที่ว่าทำไม่ได้เพื่อลูกนะคะ ถ้าคิดจะมีเขา ก็ต้องหาอะไรที่ดีที่สุดให้เขา ไม่กินยาเพียงเพราะตัวเองไม่ชอบกิน กินแล้วอ้วก เลยหยุดกิน เพราะแค่นั้น แต่ผลแย่ส่งถึงลูกโดยตรง อะไรที่หมอให้มา เราควรรู้อยู่แล้วว่าจำเป็นต้องกิน ต้องทานตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด กินแล้วอ้วก วิธีแก้ปัญหาคือไปหาหมอ ขอเปลี่ยนยาหรือให้หมอหาวิธีให้ ไม่ใช่หยุดทานยาค่ะ ตอนนี้เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งเครียดก็ส่งผลต่อเด็กในท้องอีก ตอนนี้คือกินยา ไปหาหมอขอคำแนะนำหรือขอเปลี่ยนยา แล้วก็ทำตามหมอบอกอย่างเคร่งครัดค่ะ
ปรึกษาหมอให้เปลี่ยนยาดูจ้า ไม่กินถ้าโชคดีลูกก็สมบูรณ์ ก็ดีไปค่ะ แต่มีหลายเคสที่ไม่กินยาแล้วเด็กไม่มีกระโหลก หรือปากแหว่งเพดานโหว่เพราะขาดโฟลิก ส่วนตัวบ้านนี้ท้องแรกก็กินบ้างไม่กินบ้างเพราะลืม แต่ส่วนใหญ่จะกินนะคะ ลืมประมาน3-4วันครั้งได้ โชคดีค่ะ ลูกแข็งแรง แต่แม่ตกเลือด ท้อง2หมอกำชับอย่างหนักว่าห้ามลืมเพราะท้องแรกเคยตกเลือด ท้องนี้มี%ตกเลือดเยอะกว่าเดิม ท้องนี้เลยกินไม่เคยขาด คลอดมาปลอดภัยทั้งคู่ แม่ไม่ตกเลือด ลูกหนักกว่าคนแรกเท่าตัว คนแรก2850 คนที่2นี้4520 ยาสำคันมากนะคะ ทำเพื่อลูกแล้วก็เพื่อตัวแม่เองนะคะ 😊
นี่ก็ไม่ชอบกินยาเหมือนกันค่ะ แต่เราจะไม่กินไม่ได้ นึกถึงลูกเสมอ ต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่หมด จากที่ไม่ทานอาหารเช้าก็ต้องทาน จากที่ชอบกินยำปูม้า หรือยำขนมจีน ส้มตำงี้ พอรุ้ว่าท้องก็ต้องเลิกกิน ต้องหันมากินอะไรที่มีประโยชน์ เมื่อก่อนไม่กินผลไม้ ตอนนี้ต้องกินผลไม้ด้วยทุกมื้อ หัดทำกับข้าวกินเอง ต้องตื่นเช้าไปหาหมอให้ตรงทุกนัด บอกได้เลยค่ะว่าค่อนข้างเหนื่อย แต่ทั้งหมดทำเพื่อคนในท้องทั้งนั้นเลย ยังไงก็กินเพื่อลูกน้อยของคุณแม่นะคะ น้องกำลังโต เดี๋ยวพอดิ้นได้จะรุ้สึกว่าชีวิตจะไม่เหงาอีกต่อไป
ร่างกายเรา ร่างก่ายลูก มันไม่เหมือนกันทุกคน ไม่เเนะนำให้คิดว่า คนอื่นไม่เป็นเราก็คงไม่เป็นแบบนี้..มันไม่ใช่เพราะถ้าเป็นขึ้นมาเราเองเลยทุกอย่างไม่เกี่ยวกับคนอื่น พยายามทานให้ได้นะคะแม่ไม่ชอบก็ต้องกิน บ้านนี้ไม่ชอบกินยาเหมือนกัน เเรกๆก็ลืมบ้างไรบ้าง นึกได้ตอนไหนกินตอนนั้น..มันเป็นความรับผิดชอบของแม่มีต่อลูก ส่วนคนไม่กินแล้วลูกไม่เป็นอะไรก็ดีไปค่ะ แต่ไม่อยากให้แนะนำ เพราะยาถ้าไม่จำเป็นหมอไม่จ่ายให้เรามา ขอให้แม่คิดถึงลูกให้เยอะๆรักลูกให้มากๆ แล้วทุกอย่างมันจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
นี้ค่ะถ้าไม่กินยาบำรุงก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เป็นแม่แล้วควรห่วงลูกมากๆนะคะ ไม่มีข้ออ้างอะไรที่เป็นเหตุผลให้เราไม่ต้องกิน ไม่ได้อยากแซะอยากว่านะคะ แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีใครมาบอกเราได้หรอกค่ะ รักลูกห่วงตัวเองก็กินค่ะ เป็นคนไม่ชอบกินยาก็ต้องฝืนสิคะคนเป็นแม่ต้องทำได้ทุกอย่าง เวียนหัวอ้วกก็ไว้ไปกินก่อนนอน แต่ถ้าแม่ไม่อยากกินก็เชิญตามใจนะคะ แต่คุณหรือลูกเป็นอะไรมายังส้ะก็ไม่มีใครเดือดร้อนเท่ากับตัวคุณ
เรากินยาแค่เดือนแรกที่รุ้ว่าท้อง ที่เหลือแปดเดือนไม่ทานยาเลยคะ ลูกคลอดมาครบ32ทุกอย่างแข็งแรงมาก กินอาหารที่เราชอบกินแล้วมีความสุขตอนท้องเราก็เครียดบ่อยแต่ลูกออกมาก็แข็งแรงบางคนทานยาตามที่หมอสั่งทุกอย่างลูกออกมาก็ไม่แข็งแรงไม่ครบ32ก็มีเยอะ แค่คุณแม่ดูแลตัวเองให้แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยลูกคลอดออกมาก็แข็งแรงครบ32ทุกอย่างคะ อะไรที่เขาว่าห้ามกิน เรากินทุกอย่างตั้งท้องมา9เดือนเราไม่เคยป่วยเลย
ปกติคะน้องแข็งแรงออกมาก็กินนมเก่งสุดๆ
Anonymous