26 ตอบกลับ
หลายคนอาจสงสัยว่าคนท้องสามารถดื่มน้ำโซดาได้จริงหรือ? อันที่จริงแล้วน้ำโซดาสูตรปราศจากน้ำตาล จะมีส่วนผสมแค่น้ำเปล่ากับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น ผู้ที่ตั้งครรภ์จึงสามารถดื่มได้อย่างไม่มีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นน้ำโซดายังมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้อาการ เช่น อาการแพ้ท้องระหว่างตั้งครรภ์ทุเลาลงได้อีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่าควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มโซดาแบบที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน ที่นี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่าวิธีดื่มน้ำโซดาให้มีประโยชน์ในระหว่างการตั้งครรภ์ต้องทำอย่างไรบ้าง  ประโยชน์ของน้ำโซดาสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ บรรเทาอาการแพ้ท้อง การดื่มน้ำโซดาเพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้อง ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าน้ำโซดา คือ เครื่องดื่มสำหรับแก้อาการแพ้ท้องเลยทีเดียว กรดคาร์บอนิกในน้ำโซดาจะช่วยสลายกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้อาการแพ้ท้องทุเลาลง ไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องอาการแพ้ท้องเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้อีกด้วย เพิ่มความอยากอาหาร และแก้อาการท้องผูก น้ำโซดายังสามารถช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และแก้อาการท้องผูกได้ด้วย ฮอร์โมน Progesterone ที่ถูกหลั่งมาในระหว่างตั้งครรภ์จะช่วยยับยั้งการหดตัวของมดลูก แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้การทำงานของกระเพาะและลำไส้ลดลงด้วย หากเราดื่มน้ำโซดาในระยะนี้ฟองอากาศในน้ำโซดาจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ลำไส้ และจะเข้าไปทำให้เกิดการกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานมากขึ้น จึงช่วยในเรื่องการกระตุ้นการเผาผลาญและการขับของเสียในร่างกาย นอกจากนี้กรดคาร์บอนิกในน้ำโซดายังช่วยขับกรดเลคติกซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าออกจากร่างกาย จึงช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว และยังมีคุณสมบัติช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพได้อีกด้วย หากอยากดื่มน้ำโซดาในระหว่างตั้งครรภ์ ต้องดื่มน้ำโซดาแบบไหน น้ำโซดาที่อยากแนะนำให้ดื่มมากที่สุดก็คือ น้ำโซดาประเภทที่ไม่ส่วนผสมของน้ำตาล ค่าน้ำตาลในเลือดในช่วงตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นสูงได้ง่าย จึงจะทำให้เป็นโรคเบาหวานในระยะตั้งครรภ์ได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำโซดาหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลจะดีกว่า  วิธีดื่มในระหว่างตั้งครรภ์ 1. กรณีที่มีอาการแพ้ท้อง ให้ดื่ม 1 แก้วก่อนรับประทานอาหาร 30 นาที แต่ถ้าหากดื่มมากเกินไปจะทำให้กรดสะสมและทำให้อิ่มท้องได้ ดังนั้นควรดื่มอยู่ที่ 1 แก้ว 2. กรณีที่มีอาการท้องผูก ให้ดื่มน้ำโซดาทันทีหลังจากตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว 3. หากใน 1 วันสามารถควบคุมปริมาณการดื่มให้อยู่ที่ 2-3 แก้วได้ละก็ ถึงจะดื่มน้ำโซดาแบบที่มีส่วนผสมของน้ำตาลก็ไม่มีปัญหา แต่หากจะดื่มเป็นปริมาณมากเพื่อเพิ่มน้ำให้แก่ร่างกาย แนะนำให้เลือกดื่มสูตรที่ไม่ผสมน้ำตาลจะดีกว่า นี่แหละค่ะ คือ คุณประโยชน์และวิธีการดื่มน้ำโซดาที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ เคล็ดลับดีๆแบบนี้ ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายอย่าลืมลองทำตามดูกันนะคะ นอกจากการดื่มโซดาที่ช่วยเรื่องสุขภาพของเราจากภายในแล้ว ยังมีโซดาที่ใช้สำหรับบำรุงผิวพรรณและเส้นผมโดยเฉพาะ นั่นก็คือ “โซดาสปาโฟม” ด้วย แค่เพียงขวดเดียวสามารถใช้สปาได้ทั้งผิวหน้าและเส้นผม พร้อมเผยผิวหน้าที่เนียนนุ่มชุ่มชื่น ดูมีสุขภาพดี และช่วยให้เส้นผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม เหมือนยกสปามาไว้ที่บ้านเลย!!
ถ้ากินน้ำโซดามากๆ จะยิ่งไปเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระเพาะอาหารค่ะ ไม่ว่าจะกินโค้ก เป๊บซี่ น้ำอัดลม หรือน้ำผสมโซดา ก็จะเกิดอาการแบบเดียวกันคือ ปวดท้อง แน่นท้องได้ แต่โซดาต่างจากน้ำอัดลมตรงที่มันไม่หวาน ถ้าอยากกินอะไรซ่าๆ แก้กระหายน้ำ ก็กินน้ำแดงโซดา ได้ค่ะ แต่ว่าผสมน้ำแดงน้อย ๆ หน่อยค่ะ
จริง ๆ มันก็กินได้แหละแม่ เพราะอากาศมันร้อน อยากกินอะไรเย็น ๆ ซ่า ๆ เนอะแต่ที่เขาห้ามเพราะว่ามันหวาน ก็เวลาผสมก็อย่าให้มันหวานนักค่ะ แล้วก็อย่ากินบ่อย อาทิตย์นึงกินสักครั้ง - 3 ครั้งก็พอแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ก็ชื่นใจไปอีกแบบนะคะ https://th.theasianparent.com/12-juice-for-pregnant
คนท้องกินได้นะตะ แต่ไม่ควรกินบ่อย เพราะในน้ำแดงใส่สารวัตถุกันเสีย และมีปริมาณน้ำตาลสูง เสี่ยงเป็นน้ำตาลในเลือดสูง ส่วนโซดาเป็นเครืรองดื่มประเภทน้ำอัดลม ส่งผลให้การดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซี่ยมเข้าสู่ร่างกายลดลงค่ะ
กินได้ค่ะแต่ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใส่โซดา รวมถึงน้ำอัดลมอื่นๆนะคะเพราะมีแก๊สเยอะอาจทำให้ท้องอืดได้อีกอย่างน้ำแดงควรดื่มพอประมาณระวังเรื่องน้ำหนักตัวของคุณแม่ด้วยนะคะ
ตอนท้องเคยกินโซดาแต่ไม่เยอะ รู้สึกปวดท้องมากๆเลยค่ะ ปวดแสบไปหมด เลยไม่เเตะอีกเลย กลัวเป็นอันตรายต่อลูก
ก็มีน้ำตาลแก้หน้ามืดได้ค่ะ น้ำตาลสูงๆหน่อย โซดา เป็นแก๊สก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ดื่มได้แต่ไม่เยอะมากค่ะ
เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์งดกินแป้งและน้ำตาลทุกชนิดทำใมน้ำตาลยังขึ้นคะแนะนำหน่อยคะ
ทานโซดาไม่ดีนะคะ เป็นน้ำแดงผสมน้ำเปล่าหรือนมจืดดีสุดคะแนะนำคะเพราะเค้าก็ดื่ม
คนท้องกินได้ค่ะ แต่ไม่ควร น้ำตาลเยอะเสี่ยงเบาหวาน โซดาทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะทำให้ท้องอืดค่ะ