🌟 ดุลูกยังไงให้ได้ผลดี 🌟
ก่อนจะเข้าห้วข้อนี้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทำความเข้าใจก่อนว่า
เมื่อลูกมีจุดเริ่มต้นคือการร้องไห้งอแง เราไม่จำเป็นต้องจบด้วยการดุเสมอไป
ให้เราเลี้ยงลูกแบบเข้าใจ เข้าถึงที่มาของอารมณ์ไม่ดีของลูกนั้น
... มาจากสาเหตุไหนกันนะ‼️
✍️✍️ เมื่อลูกร้องไห้งอแง ให้คุณพ่อคุณแม่ลองตั้งข้อสงสัยก่อนว่า
การร้องไห้มาจาก 3รูปแบบนี้หรือไม่
❇️ อย่างนี้ ... ไม่ต้องดุกัน ❇️
👉🏻 1) วัยอยากทำเอง
เมื่อลูก #เข้าสู่วัยพึ่งพาตัวเองได้ เขาจึงอยากทำอะไรอะไรด้วยตัวเอง
อยากลงมือทำเองมากกว่าการแค่มองดูอยู่เฉยๆ หรือที่ผู้ใหญ่มักมองว่า นี่คือ “ลูกซน”
❎ ไม่ใช่ตั้งท่าจะดุลูกเสียแล้ว
📌ลูกเขากำลังพัฒนาศักยภาพอยู่ ให้ผู้ใหญ่เฝ้าดู >> หากอยากห้ามหรือดุ ให้เปลี่ยนเป็นพูด
✅ “ขอแม่ช่วยหน่อยได้ไหมเอ่ย”
👉🏻 2) วัยยึดติด (ลำดับ กิจวัตร สถานที่)
ก็ความจำปริยาย (Implicit Memory) จดบันทึกไว้ไม่รู้ตัว
จะทำให้ลูกซึมซับสิ่งที่เห็นและได้ยินอย่างไม่หยุดยั้ง เขาเห็นกิจวัตรมาตลอดๆ
จนเข้าสู่ช่วงวัยยึดติด แล้วพอมาวันหนึ่งแม่เปลี่ยนแปลงกระทันหัน .... “ลูกจึงอารมณ์บูดได้”
✳️ ยึดติดกิจวัตร
ทุกวันเคยเดินผ่านทางนี้ แล้วลูกเขาได้มีเวลามองดูนกมองเห็นปลา
พอมาวันนี้แม่จะเร่งรีบทำท่าจะไปทางลัดหรือเร่งรีบผิดปกติ ไม่มีเวลาให้เขาได้ดูสิ่งที่เคยได้ดู
ลูกจึงต้องร้องไห้ไม่ยอมขยับจากตรงนี้
✳️ ยึดติดลำดับขั้น
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เคยทำแบบนี้ก่อนแล้วค่อยทำอีกสิ่งตาม พอวันนี้แม่สลับกันยุ่งเหยิงไปหมด
✳️ยึดติดสถานที่
เคยนั่งตรงนี้ประจำ มาวันนี้ต้องยกที่นั่งให้แขก
‼️อยากให้ผู้ใหญ่ระวังตรงนี้ ลูกยึดติดได้มากกว่าผู้ใหญ่เป็นหลายเท่าค่ะ
📌เด็กเขารู้สึกไม่มั่นคงขึ้นมา จึงได้แสดงออกทางอารมณ์นั่นเอง
👉🏻 3) ช่วงวัยทอง
เป็นช่วงการพัฒนาของสมองด้านอารมณ์กำลังพัฒนาเติบโตกว่าสมองส่วนเหตุผล
จึงเป็นช่วงที่พ่อแม่เห็นบ่อยๆว่าลูกแสดงออกทางอารมณ์ง่าย
ดังนั้นพ่อแม่อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าลูกว่า “เอาแต่ใจ” แล้วดุว่าลูกนะคะ
ก่อนดุลูก ควรตั้งข้อสงสัยใน3ประเด็นนี้ก่อนนะคะ แล้วเราจะเข้าใจลูกมากขึ้น
เราจะใจเย็นขึ้น มันจะช่วยให้เรา “ดุลูกน้อยลง” ค่ะ
.
.
.
⁉️แต่ไม่ว่ายังไงมันก็มีเรื่องที่เราต้องดุลูก
❇️ดุยังไงให้ได้ผลดี ❇️
👉🏻 #ดุอย่างจริงจัง
เด็กจะสัมผัสได้ถึงความจริงจังจากสีหน้าเข้มงวด และเสียงอันดัง
จึงทำความเข้าใจได้ว่า “เรื่องนี้ไม่ควรทำนะ”
ที่เรียกว่า >>การประเมินปฏิกิริยาจากรอบข้าง