เลือดแม่ กรุ๊ป O Rh - ส่งผลให้แท้งได้ไหมคะ

คนเอเชียส่วนใหญ่หรือประมาณ 98.3% นั้นจะมีหมู่เลือดแบบ Rh+ ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นส่วนน้อยมากจะมีหมู่เลือดแบบ Rh- สามีภรรยาหลายคู่ที่อยากมีลูกแต่ไม่ทราบว่าตัวเองมีหมู่เลือดไม่ตรงกัน หรือเพราะไม่ได้ศึกษาและเตรียมวางแผนก่อนที่จะมีบุตรอย่างละเอียด อาจจะเจอปัญหาเมื่อภรรยาตั้งครรภ์แล้วทารกเสียชีวิต ซึ่งเกิดจากปัญหาหมู่เลือดแบบ Rh+ และ Rh- ที่ไม่ตรงกันของบิดาและมารดา โดยปกติหากสามีและภรรยามีหมู่เลือด Rh ตรงกัน เมื่อภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ เด็กทารกก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่สมมติว่าภรรยามีหมู่เลือดแบบ Rh- สามีมีหมู่เลือดแบบ Rh+ และหากลูกที่เกิดมามีหมู่เลือดแบบ Rh+ ในครรภ์แรกเลือดของทารกที่ปนเปื้อนสู่เลือดของมารดาจะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของมารดาสร้างแอนติบอดีต่อแอนติเจน RhD ซึ่งในครั้งแรกจะสร้างแอนติบอดีอายุสั้น IgM ซึ่งไม่สามารถผ่านรกได้ จึงยังไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ หลังจากนั้นระบบภูมิคุ้มกันจะจดจำแอนติเจนดังกล่าว หากมีการกระตุ้นในครั้งต่อไปหรือก็คือ หากในครรภ์ที่สองของมารดาที่มีหมู่เลือดแบบ Rh-ve มีลูกที่มีหมู่เลือดแบบRh+ จะทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีระยะยาว IgG ปริมาณมาก โดยแอนติบอดี IgG สามารถผ่านรกได้และอยู่ในร่างกายได้นาน ดังนั้นจึงส่งผลต่อทารกทำให้เกิดเม็ดเลือดแดงทารกแตกและเกิดภาวะซีดตามมา หากรุนแรงมากอาจเกิดภาวะทารกบวมน้ำและเสียชีวิตได้ โดยมักพบในครรภ์หลัง ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ แพทย์สามารถวินิจฉัยและช่วยเหลือให้เด็กปลอดภัยได้ โดยแพทย์จะให้สารยับยั้งการทำงานของสารต่อต้าน Rh+ เมื่ออายุครรภ์ 28 สัปดาห์ และอายุครรภ์ 40 สัปดาห์หากยังไม่คลอด และให้อีกครั้งหลังคลอด 72 ชั่วโมง นอกจากนั้นในระหว่างช่วงตั้งครรภ์ แพทย์จะเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจเลือดของทารก หากเป็น Rh+ ก็จะมีการตรวจสอบปฏิกิริยาต่อต้านของเลือดของแม่เป็นระยะๆ เพื่อสังเกตทารกในครรภ์และดูแลอย่างใกล้ชิด ทางที่ดีสามีและภรรยาที่เตรียมตัวกับการเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรจะเข้ารับการตรวจเลือดเสียก่อน เพื่อรับมือและป้องกันกับโรคที่อาจเกิดขึ้น https://www.honestdocs.co/blood-rh-type